จากกรณี เกิดเหตุยิงเจ้าหน้าที่ในผับที่ตลาดกลางคืนแห่งหนึ่งในกัมพูชา คนไทย 2 คนกำลังหลบหนีโดยไม่ทราบชะตากรรมอยู่ในกัมพูชา หลังถูกทางการฯ ตามล่าและกดดันหนักเพื่อให้รับสารภาพ ยัดข้อหาใส่ร้ายคนไทยโดยทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
ล่าสุด วันที่ 24 พ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมาที่ด่านพรมแดนคลองลึก บ้านคลองลึก ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยในวันนี้ นายปุย เเละนายเอิร์ท เดินทางข้ามฝั่งจากประเทศกัมพูชา กลับมาที่ประเทศไทยเเล้ว
โดยในเวลา 15.00 น. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เเละเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาถึงบริเวณด่านพรมแดน เพื่อมารอรับตัวคนไทย 103 คน ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกัมพูชา โดยมี 34 คนมีผลตรวจโควิด-19 ผลเป็นบวก ทั้งนี้ ทางฝั่งของประเทศกัมพูชา ก็ได้มีพลโทเจีย เอ็งยง ผู้ช่วยสารวัตรทหารกัมพูชา และพลตำรวจโทยี เพียรี รองอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ในฐานะผู้แทนรัฐบาลกัมพูชา เข้าพบปะกับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยบริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
ทั้งนี้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ เเละตัวเเทนจากฝั่งกัมพูชา มีการจับมือกัน เเละได้มีการพูดคุยขอบคุณทุกหน่วยงานที่ประสานงานร่วมมือกัน
นายปรีชา จูจ้าย หรือ ปุย อายุ 27 ปี และนายพิศิษฐ์ จันสนธิมา หรือ เอิร์ท อายุ 26 ปี คนไทยที่เดินทางกลับประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่มคนในวันนั้นมีคนไทย 5 คน คือ ปุย เอิร์ท เอฟ เเนต เเละทิชา ตอนนี้ เอฟเเละเเนต หนีกลับมาที่ประเทศไทยได้เเล้ว เเต่ทิชา ตนยังไม่รู้ชะตากรรม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มรุ่นพี่ชาวกัมพูชาอีกด้วย ส่วนนายวัน เป็นคนชาวกัมพูชา เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของตนที่ถูกจับไป สาเหตุที่ตนหนีเนื่องจากความกดดันของการทำงาน เพราะหากทำตามยอดไม่ได้ ก็จะไม่ได้เงินเดือน เเละมีการข่มขู่ เเต่ตนยังไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย ตนเหมือนติดคุกมากกว่าไปทำงาน จะออกไปได้ก็ต่อเมื่อทำงานได้ตามยอดที่นายทุนจีนตั้งไว้
เหตุการณ์วันที่ 20 พ.ย.64 นายเอิร์ท เผยว่าตนกำลังดื่มเหล้าอยู่ นายทุนจีนก็เข้ามาล็อกคอของตนโดนที่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย พอนายทุนจีนล็อกคอ ตนก็เงยหน้าขึ้นไปมอง ตนจึงสะบัดออก จากนั้นวงเหล้าก็เเตกฮือ คนลุกกันหมด พรรคพวกของนายทุนจีนมากันเยอะมาก รวมถึงคนของเจ้าของตึกที่นายทุนจีนเช่าอยู่ด้วย เจ้าของตึกนี้เป็นคนในของกัมพูชา เเละเป็นผู้มีอิทธิพลมาก หลังจากนั้น มีการโพสต์ลงในกลุ่มในเฟซบุ๊กว่าพวกตนกำลังถูกตามล่าจากนายทุนจีนอยู่ ซึ่งพวกตนไม่ได้ถูกตามล่าจากทางการของกัมพูชาเเต่อย่างใด จากนั้น พวกตนก็ได้มาเจอกับคนชื่อตอง ผ่านทางผู้กองเพชร หรือ ร.ต.อ.กฤษณะ เอี่ยมสอาด กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว
ยืนยันว่าเรื่องของการเรียกค่าไถ่จากนายตอง ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เงิน 25,000 บาทต่อหัว เป็นเงินค่าเดินทางที่ปลอดภัย ที่นายตองได้ไปติดต่อคนอื่นให้พาพวกตนข้ามกลับประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากตอนนั้นพวกตนไม่สามารถที่จะข้ามกลับทางด่านชายเเดนได้ ซึ่งเมื่อวานหลังจากข่าวออกไป เมื่อคืนที่ผ่านมา พวกตนต้องออกจากที่พักของนายตองไปหลบเช่าโรงเเรมที่อื่น เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัยว่านายทุนจีนจะตามล่าตัว
จนในวันนี้ที่พวกตนออกมายืนอยู่ที่ประเทศไทยได้ ก็ไม่ต้องเสียเงินเเม้เเต่บาทเดียว เนื่องจากมีหลายหน่วยงานคอยประสานงานเเละช่วยเหลือ พวกตนขอขอบคุณทุกหน่วยงานเป็นอย่างสูง หลังจากนี้พวกตน ยังไม่รู้จะทำงานอะไรต่อ เเต่ก็คงจะไม่กลับไปที่กัมพูชาอีกเเล้ว ตอนนี้ที่ได้กลับมาที่ประเทศไทยได้ ก็เหมือนได้ชีวิตใหม่เเล้ว
ร.ต.อ.กฤษณะ เอี่ยมสอาด หรือ ผู้กองเพชร กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ผู้ที่คอยให้การช่วยเหลือคนไทยในประเทศกัมพูชา เผยว่า ตั้งเเต่ที่มีเรื่องทะเลาะวิวาททางน้อง 2 คนนี้ได้ขอความช่วยเหลือมา ตนได้ประสานไปยัง นายตอง คนที่คอยให้ความช่วยเหลือคนไทยในประเทศกัมพูชา หากใครไม่มีเงิน ตนก็จะโอนเงินไปให้ เเละคอยช่วยดูแลจากฝั่งไทย ซึ่งน้องทั้ง 2 คน ถูกตามล่าเเละติดตามตัวมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา ตนเกรงว่าทั้ง 2 คนจะถูกจับได้ เนื่องจากทุกคาสิโน เกสต์เฮาส์ รวมถึงออฟฟิศต่าง ๆ ถูกเข้าค้นหมดแล้ว ตนจึงปล่อยข่าวว่าน้องทั้ง 2 คนกลับไทยไปแล้ว จะได้ไม่ต้องถูกตามล่าตัวอีก
เเต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ก็มีข่าวอีกว่า น้องทั้ง 2 คนยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย เเละมีญาติมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือ เรื่องจึงแดงออกมา สรุป เด็กทั้ง 2 คนยังอยู่ในกัมพูชา หลังจากนั้น ตนก็มีการพูดคุยกับ นายตอง เเละ ญาติของน้องนอกรอบว่า ให้หาวิธีว่าจะพาน้องๆ กลับเข้าประเทศไทยได้อย่างไร
ส่วนเรื่องเงิน คนละ 25,000 บาท ตนก็ไม่ทราบเรื่อง เพราะเป็นเรื่องที่เขาไปคุยกันเอง เเต่ตนบอกได้เเค่ว่า ต้องรีบออกไป อยู่ที่นี่ได้ไม่นานเเล้ว จนกระเเสข่าวมาออกว่า นายตอง เรียกค่าไถ่ ทั้งๆ ที่นายตอง ไม่ได้ทรายเรื่องด้วยเลย ซึ่งเงิน 25,000 บาทนี้ เป็นเงินที่ต้องใช้ในการหลบหนี เเต่น้องทั้ง 2 คนไม่มีบัญชี นายตองจึงให้เลขบัญชีของตนไปก่อน เเละจะไปจัดการจ่ายเงินคนพาหนีให้ เเต่กลายเป็นว่านายตอง ตกเป็นเเพะรับบาป ทำคุณบูชาโทษ ตนอยากขอความเป็นธรรมให้กับนายตองด้วย เพราะนายตองคือคนที่คอยช่วยเหลือคนไทยในประเทศกัมพูชามาตลอด เนื่องจากยังมีคนไทยอีกมากที่ถูกหลอกไปทำงานให้หลอกคนไทยด้วยกันเอง
ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้ คนไทยที่ถูกหลอกไปทำงาน หากอยากได้เงินทำงานตามเป้าก็คงทำได้ เเต่ด้วยจิตสำนึกไม่อยากหลอกคนไทยด้วยกันเองจึงหนีออกมา เเละเมื่อถูกจับได้ก็ถูกซ้อม ตนจึงต้องคอยประสานรับเรื่อง ทั้งยังออกเงินส่วนตัวช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ในกัมพูชา ซึ่งปัญหาเหล่านี้เพิ่งจะเกิดในช่วงโควิด -19 ที่ผ่านมา เเละไม่ได้มีเฉพาะคนในปอยเปตที่ต้องการกลับบ้าน เเต่ยังมีคนไทยในกัมพูชาอีกหลายจังหวัดด้วย การช่วยเหลือทั้งหมด ตนยืนยันว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายเเม้เเต่บาทเดียว
