ลุงพลงดจ้อขึ้นศาลคดีชมพู่ "พ่อแบม" ยัวะชายฉกรรจ์บุกสวนไม่ขออนุญาต (คลิป)

23 พ.ย. 64

เมื่อวันที่ 23 พ.ย.64 เวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร นายไชย์พล วิภา, นางสาวสมพร หลาบโพธิ์ พร้อมทีมทนาย อาทิ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และคณะทำงานเดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เนื่องจากในวันนี้เป็นวันที่ศาลได้นัดทั้งฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์ตรวจพยาน

936590650487

เวลา 12.20 น. หลังเสร็จสิ้นการตรวจพยาน นายไชย์พล วิภา ได้เดินทางออกจากศาล พร้อมกับทีมทนายความ ซึ่งไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ แต่ได้รีบขึ้นรถออกไปทันที ซึ่งนายไชย์พล อนุญาตให้เฉพาะยูทูเบอร์เท่านั้นที่จะถ่ายและเก็บภาพได้ บรรยากาศที่หน้าศาลในวันนี้ยังคงมีกลุ่มยูทูเบอร์ มากกว่า 50 ช่อง มาติดตามทำคลิปลงช่องตัวเอง แต่จะมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ประจำอยู่ที่บ้านกกกอก

438087

นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความฝั่งของนายไชย์พล เปิดเผยว่า สำหรับการนัดตรวจพยานในวันนี้ ตอนแรกตนในฐานะทีมทนายก็มีความกังวลใจเกี่ยวกับ “ประจักษ์พยาน” คือคนที่ชี้ชัดและเห็นว่ามีการพาหรือนำตัวน้องชมพู่ออกไปจากบ้าน แต่หลังจากที่ตรวจพยานในวันนี้ ไม่มีประจักษ์พยานดังกล่าว จึงทำให้ความกังวลใจลดลง ซึ่งหากคดีนี้มีประจักษ์พยานยืนยันชัดเจนและเห็นว่านายไชย์พลพาน้องชมพู่ออกไปจากบ้าน ตนก็จะถอนตัวออกจากคดีนี้โดยทันที เพราะถือว่าหลักฐานค่อนข้างหนักแน่น แต่หลังจากที่ทราบว่าไม่มีประจักษ์พยาน มีเพียงแค่พยานบุคคล หรือพยานแวดล้อมอื่น ๆ ซึ่งไม่ได้รู้เห็นชัดเจน จึงไม่มีความกังวลใจแต่อย่างใด และเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีการพาตัวของลุงพล ไปจำลองเหตุการณ์ช่วงระหว่างวันที่ 11-13 พ.ย.63 เพื่อจับเวลาจริง และเป็นการระบุสถานที่ว่าระหว่างช่วงวันดังกล่าว ลุงพลอยู่ที่ไหน ทำอะไรบ้าง มีใครรู้เห็นและร่วมเป็นพยาน

955949

แต่สำหรับการตรวจพยานในวันนี้ ฝั่งของจำเลยคือลุงพล ได้เตรียมพยานเอาไว้จำนวน 32 คน ส่วนฝั่งของโจทย์คือแม่น้องชมพู่ เตรียมพยานเอาไว้ 62 คน ซึ่งจำนวนดังกล่าวมีพยานที่ตรงกันจำนวน 8 คน คือคนที่ใกล้ชิดและเครือญาติ อาทิ ตาชาญ ยายสมควร น้าแต น้าต่าย น้าเสริม นายธนกฤต และลูก ๆ ของลุงพล โดยพยานดังกล่าวไม่ได้มีการตัดออก ซึ่งจะเป็นการสืบพยานร่วมทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย แม้ว่าฝั่งของโจทย์จะมีจำนวนที่มากกว่า ตนในฐานะทีมทนายก็ไม่ได้มีความกังวลใจ เพราะหลังจากนี้ศาลก็จะสรุปและนัดสืบพยานในประเด็นต่าง ๆ ดังนั้นในวันนี้ตนได้พูดคุยกับลุงพล เขาก็มีท่าทีเรียบเฉยไม่ได้มีอาการตกใจเกี่ยวกับพยานฝั่งของโจทย์ ทุกอย่างก็เป็นไปตามการทำงานของทีมทนายฝั่งลุงพลอยู่แล้ว

485714

"ตอนแรกที่มีการให้สัมภาษณ์ และมีการนำเสนอข่าวมาโดยตลอดว่า คดีของน้องชมพู่มีการใช้ก้านมะยมทำร้าย ส่วนตัวไปดูสำนวนคดีมากกว่า 5 แฟ้ม ไม่เห็นจะมีระบุหรือกล่าวถึงเรื่องก้านมะยม ดังนั้นผมจึงไม่รู้ว่าที่ผ่านมาทำไมถึงมีการให้สัมภาษณ์และกล่าวถึงก้านมะยม แต่หลักฐานทางคดีหรือสำนวนกลับไม่มีการระบุเอาไว้เลย" ทนายรัชพล กล่าวให้ฟัง

324965

อย่างไรก็ตาม กรณีที่ทนายษิทรา พาลุงพลเข้าไปในพื้นที่หลังบ้านของพ่อแบม เพื่อที่จะคำนวณระยะเวลาและสถานที่ ตนเชื่อว่าอาจเป็นการจำลองสถานการณ์จริงในช่วงที่มีคนพบเห็นลุงคนอยู่จุดนั้น แต่ตนก็ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนเพราะยังไม่ได้มีการสอบถามหรือพูดคุยกับทนายษิทรา แต่ตนก็เชื่อว่าต้องเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในฐานะทีมทนายฝั่งลุงพลอย่างแน่นอน ส่วนที่มีคลิปบันทึกเหตุการณ์ว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่หลังบ้านพ่อแบมนั้น ตนนได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ก็ไม่ได้ชี้ชัดว่าจะเป็นการเจตนาบุกรุก ทำให้ที่นาหรือสวนยางพาราได้รับความเสียหาย โดยหากฝั่งของพ่อแบม มีการแจ้งความเอาผิดข้อหาบุกรุก ก็ต้องดูที่เจตนาและความตั้งใจ ดังนั้น ตนก็ไม่ได้มีความกังวลใจเกี่ยวกับฝั่งของพ่อแบมว่าจะไปแจ้งความแต่อย่างใด แต่ก็เป็นสิทธิ์ของพ่อแบมที่จะกระทำได้หากพบว่ามีการกระทำผิด

470700

นายวชรินทร์ หรือ พ่อแบม เปิดเผยว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.64) ตนนอนอยู่ภายในบ้านได้ยินเสียงหมาเห่าด้านหลังบริเวณสวนยางพารา จึงได้ออกไปดูก็พบว่ามีกลุ่มคนประมาณ 10 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีทนายคนดังและตัวของลูกความพากันเดินไปที่สวนยางพาราในเขตพื้นที่บ้านตน และมีการจำลองเหตุการณ์บางอย่าง เป็นจุดเดียวกันกับที่ตนพบเห็นชายปริศนา ทั้งบริเวณจุดที่ได้ยินเสียงคนตรอกไม้ รวมถึงกอไผ่ที่ทีมข่าวเคยนำเสนอข่าว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร แต่การที่กลุ่มคนเหล่านั้นเข้ามาใช้พื้นที่หลังบ้านตนถือว่าเป็นการบุกรุก เพราะไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใด 

967884

สำหรับแนวทางหลังจากนี้ อยู่ในระหว่างการพูดคุยกับทีมทนายที่นายอัจฉริยะมอบหมายให้เป็นตัวแทน และปรึกษาเรื่องขั้นตอนการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก ซึ่งในวันนี้ยังไม่เดินทางไปที่สภ.กกตูม เพราะอยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงพูดคุยกันก่อน

362394

"ไม่มีคนมาขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ ฉะนั้นผมจึงถ่ายคลิปเพื่อเป็นหลักฐาน และป้องกันเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากการที่ฝั่งจำเลยเข้ามาใช้พื้นที่บ้านของผม ทำให้เกิดความหวาดกลัวและกลัวว่าจะเป็นอันตราย แต่ถ้าการเข้ามาใช้พื้นที่ ขออนุญาตหรือพูดคุยกันก่อน ผมก็ไม่ใช่คนใจดำ สามารถที่จะอนุญาตให้คนเข้ามาใช้พื้นที่ได้" พ่อแบม กล่าว 

222594

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในฐานะทีมทนายฝั่งแม่น้องชมพู่ เปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นเพียงแค่การตรวจพยาน ซึ่งยังไม่ได้มีการเรียกสอบพยานแต่อย่างใด เบื้องต้นแม้ว่าจะมีพยาน 8 คน ซ้ำกับฝั่งของจำเลย ก็ไม่มีความกังวลใจอะไร เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นเครือญาติของฝั่งนายไชย์พล ซึ่งก็สามารถที่จะสอบพร้อมกันได้ แต่หากฝั่งของจำเลยต้องการจะถอนตัว ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของอีกฝ่าย และอย่าลืมว่าคดีนี้มีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องซินโครตรอน และคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวนของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งผลนิติวิทยาศาสตร์ สิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานที่ชี้ชัดเกี่ยวกับการกระทำได้ ดังนั้น ประจักษ์พยานก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำให้รู้สึกสบายใจไปได้ทั้งหมด

314466

"คดีนี้เป็นยุทธการเข็มนาฬิการอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการหาคำตอบ หาพยานหลักฐาน หาพยานตัวบุคคล เป็นการชี้ชัดแต่ละช่วงเวลาในรอบ 24 ชั่วโมง ทั้งหมดตำรวจได้มีการทำงานและเก็บหลักฐานเอาไว้ครบแล้ว ฉะนั้นในรอบ 24 ชั่วโมงของวันเกิดเหตุ ตัวของจำเลยต้องตอบคำถามเองว่าอยู่ไหน ทำอะไรกับใคร มีพยานคนใดยืนยัน ดังนั้นจึงสังเกตได้ว่า ช่วงระยะหลังทีมทนายของฝั่งจำเลย มีความพยายามที่จะพาตัวของจำเลยไปชี้พิกัด หรือจุดต่าง ๆ แต่ก็อย่าลืมว่าสภาพพื้นที่คงไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว" นายอัจฉริยะ กล่าว 

872966

อย่างไรก็ตาม กรณีที่พ่อแบมถ่ายคลิปวิดีโอกลุ่มคนของฝั่งจำเลย ซึ่งนำโดยทนายคนดังเข้าไปในพื้นที่ของพ่อแบม ตนไม่รู้เจตนาว่าพวกเขาเข้าไปเพราะเหตุผลอะไร แต่ในเมื่อพ่อแบมมีความกังวลใจว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย และมองว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่ ตนก็ได้มอบหมายให้ทีมทนายดำเนินการเพื่อให้พ่อแบมแจ้งความเอาผิดฐานบุกรุก แต่เบื้องต้นก็ต้องอยู่กับการตัดสินใจของพ่อแบมว่าจะแจ้งความหรือไม่ เพราะพ่อแบมเป็นผู้เสียหาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส