สาวแจงคลิปซ้อมหนุ่มเรื่องเก่าแค่สั่งสอน รับผัวสนิทเจ๊ต้อย อีกฝ่ายแจงสัมพันธ์ปัดชู้สาว (คลิป)

กรณี นางแอน อายุ 42 ปี ได้เดินทางร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อมก๋อย สืบเนื่องจากวันที่ 13 พฤศจิกายน 64 เวลาประมาณ 19.00 น. บริเวณคอกเลี้ยงวัว ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย นายเดชาพัชร หรือ จักร อายุ 45 ปี สามี และนายชิษณุ หลานชาย ถูกนายเฉลิมศักดิ์ อายุ 41 ปี เจ้าหนี้เงินกู้ ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใน อ.เมืองเชียงใหม่

ล่าสุดวันที่ 21 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านของนายเฉลิมศักดิ์ ลักษณะบ้านไม้ชั้นเดียว ภายในรั้วบ้านมีคอกควาย 2 คอก รั้วบ้านเป็นลวดหนาม ส่วนข้าง ๆ บ้านเป็นป่า

น.ส.ดาว (นามสมมติ) แฟนสาวผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 13 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุ ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายเฉลิมศักดิ์ สอบถามสารทุกข์สุขดิบ สักพักนายเฉลิมศักดิ์ อ้างว่านายจักร ลูกน้องเจ้ต้อย เดินทางมาหาที่บ้าน ก่อนขอตัววางสายไป สักพักใหญ่ ๆ ตนโทรศัพท์ไปหานายเฉลิมศักดิ์อีกครั้ง แต่ไม่รับสาย กระทั่งช่วงกลางดึกนายเฉลิมศักดิ์ โทรกลับมาหา พร้อมบอกเล่าว่า เจ้ต้อยเจ้าของร้านรถที่เป็นลูกหนี้ ส่งให้นายจักรมาหาที่บ้าน

ขณะนั้นนายจักร ได้จอดรถอยู่นอกรั้ว ซึ่งมากัน 2 คน จากนั้นนายจักร ได้ลงรถมาเพียงลำพัง เปิดประตูรั้วเข้าไป ในมือหิ้วถุงอะไรมาไม่ทราบ พร้อมกับอาวุธมีด นายเฉลิมศักดิ์ บอกให้นายจักรกลับไป แต่นายจักรไม่ยอม เดินปรี่เข้าไปหาพร้อมบอกว่า "เจ้ต้อยเป็นห่วง" ก่อนจะใช้อาวุธมีดพยายามเข้าทำร้าย นายเฉลิมศักดิ์จึงใช้ท่อนไม้ตีนายจักร จนระงับเหตุได้

ทั้งนี้ นายเฉลิมศักดิ์ ไม่ได้มีปัญหากับนายจักรเป็นการส่วนตัว และไม่ได้เป็นลูกหนี้ด้วย เคยพบเจอกันที่ร้านเจ้ต้อย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่านายเฉลิมศักดิ์ ป้องกันตัว หากปล่อยให้นายจักรใช้อาวุธมีดแทงก่อน แล้วลูก 2 คนจะอยู่อย่างไร ซึ่งครอบครัวนายจักรไม่บริสุทธิ์ใจ หากจะมาดี ๆ ต้องมาในช่วงกลางวัน ไม่ใช่ยามวิกาล และไม่น่าจะพกพาอาวุธมีดมาด้วย นอกจากนี้ นายจักรเป็นคนเลี้ยงควาย ไม่ได้มีอาวุธปืนไว้ครอบครอง

นอกจากนี้แล้ว ตนสงสัยว่า หากนายจักรอาการบาดเจ็บสาหัส ช่วงหลังเกิดเหตุทำไมไม่เข้าไปแจ้งความที่ สภ.อมก๋อย และทำไมไม่ไปรักษาตัวที่รพ.อมก๋อย ส่วนความสัมพันธ์นายเฉลิมศักดิ์กับเจ้ต้อย รู้จักกันได้ 2 ปี เนื่องจากเอารถยนต์ไปซ้อมที่ร้านเจ้ต้อย ก่อนที่จะช่วยเหลือกันมาตลอด กระทั่งรถเก๋งของเจ้ต้อย กำลังจะถูกไฟแนนซ์ยึดจึงมาขอความช่วยเหลือ ด้วยความที่สงสาร นายเฉลิมศักดิ์ จึงได้ไปกู้เงินมาหลักแสน เพื่อนำไปจ่ายไฟแนนซ์ให้กับเจ้ต้อย และได้เปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถมาเป็นชื่อของรุ่นน้อง ซึ่งทางเจ้ต้อยจ่ายบ้าง ไม่จ่ายบ้าง

หลังจากที่นายเฉลิมศักดิ์ ให้การช่วยเหลือ เจ้ต้อยเริ่มมีอาการชอบพอ ทักมาหานายเฉลิมศักดิ์บ่อยครั้ง ถามสารทุกข์สุขดิบ เป็นห่วงเกินเพื่อนหรือคนรู้จัก ทำให้นายเฉลิมศักดิ์ ตีตัวออกห่างตน เมื่อนายเฉลิมศักดิ์ ตีตัวออกห่าง เจ้ต้อยได้พยายามตามข่มขู่ว่าให้ระวังตัว ขณะเดียวกันคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่นั้น ตนต้องขอชี้แจงว่าเป็นคลิปวีดีเก่า ซึ่งนายเฉลิมศักดิ์ ไม่ได้ทำร้ายลูกหนี้ คนที่นายเฉลิมศักดิ์ตีนั้นเป็นรุ่นน้อง ตีสั่งสอนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พ่อแม่ของเขาก็ทราบแล้ว อย่าขุดคุ้ยมารวมกัน

ทีมข่าวได้พูดคุยกับเจ้ต้อย อายุ 60 ปี นายจ้างผู้เสียหาย กล่าวชี้แจงว่า ตนรู้จักกับนายเฉลิมศักดิ์ 3 ปีแล้ว มีเพื่อนที่คบหากันมานาน 10 กว่าปีแนะนำให้รู้จัก กระทั่งนายเฉลิมศักดิ์ ได้ขอให้ตนช่วยเหลือเรื่องเงิน เนื่องจากเขาอยากทำธุระกิจ ต่อมานายเฉลิมศักดิ์อ้างว่าเพื่อนหักหลัง และต่างแยกย้ายกันไป แต่นายเฉลิมศักดิ์ ยังคงเป็นมิตรที่ดีกับตน และช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ตนได้นำรถหรูไปจำนำหลายคัน แต่ไม่มีเงินส่ง จึงขอความช่วยเหลือจากนายเฉลิมศักดิ์ นำรถเก๋งสปอร์ต จำนวน 2 คัน ไปจำนำกับนายเฉลิมศักดิ์

โดยนายเฉลิมศักดิ์ ยินยอมที่จะช่วยเหลือ ซึ่งรถหรูคันแรกราคาที่จำนำไว้ 4 แสนกว่าบาท ส่วนคันที่ 2 ซึ่งเป็นคันที่มีปัญหาได้จำนำกับนายเฉลิมศักดิ์ในราคา 1.6 ล้านบาท ซึ่งตนทยอยจ่ายให้ตลอด คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน เหลือยอดชำระ 290,000 บาท กระทั่งเมื่อกลางเดือนตุลาคม 64 ลูกชายจะขายรถคันดังกล่าว ซึ่งต้องการเล่มหน้ารถ ตนจึงไปทวงถามกับทางนายเฉลิมศักดิ์ แต่นายเฉลิมศักดิ์กลับเงียบ โทรศัพท์ไปจี้ลูกน้องก็ไม่มีความคืบหน้า แอบกังวลว่าอาจจะถูกโกงหรือไม่ ต่อมาวันที่ 13 พ.ย.64 นายจักร จึงอาสาจะขอถ่ายเล่มหน้ารถเอาไว้ เพื่อจะใช้เอกสารดังกล่าวซื้อขายรถต่อไป ตนขอยืนยันว่าส่วนตัวแล้วไม่ได้ให้นายจักรไปตามตามตื๊อนายเฉลิมศักดิ์

ที่ผ่านมา ตนไม่เคยคิดกับนายเฉลิมศักดิ์เกินเลย ตนเห็นว่าเป็นลูกคนหนึ่ง ซึ่งตนก็อายุมากแล้ว ไม่เคยออกไปไหน และขอชี้แจงว่า ไม่เคยโทรตาม หรือทักไลน์ไปพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว นอกจากนี้ ไม่เคยนำจีพีเอสไปติดในรถยนต์ของนายเฉลิมศักดิ์ ส่วนที่นายจักรตามไปบ้านของนายเฉลิมศักดิ์ถูกนั้น เนื่องจากมีคนรู้จัก และสอบถามชาวบ้านในพื้นที่

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายต้อม (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ลูกชายเจ้ต้อย เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับทางนายเฉลิมศักดิ์ ผ่านทางผู้เป็นแม่ ประกอบกับนายเฉลิมศักดิ์ ได้นำรถมาซ่อมที่ร้านของตน ขณะนั้นเขาก็ลักษณะนิสัยอัธยาศัยดี ภายหลังตนทราบว่าแม่ได้นำรถไปจำนำกับทางนายเฉลิมศักดิ์ เหลือยอดชำระเพียง 290,000 บาท ต่อมาตนได้ประกาศขายรถเก๋งสปอร์ต นิสัน Z 350 แต่ชื่อเจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นชื่อลูกน้องของนายเฉลิมศักดิ์

โดยตนต้องการใบหน้าเล่มเพื่อจะขายต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อนายเฉลิมศักดิ์ได้ ยอมรับว่ากลัวถูกหลอกไม่โอนรถให้ จึงส่งคนไปตาม ซึ่งตนยืนยันว่านายจักร ไม่ได้พกอาวุธมีดไปตามคำกล่าวอ้าง ซึ่งนายจักรทำงานกับครอบครัวตนมาได้นานแล้ว เกือบ 20 กว่าปี ไม่เคยมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว

ขณะเดียวกัน ตนขอชี้แจงว่า แม่ไม่ได้มีพฤติกรรมชอบพอนายเฉลิมศักดิ์ แม่ไม่เคยออกไปไหน ไลน์หรือมือถือก็ไม่เคยปิดบัง แต่หากจะโทรไปหลายสาย เป็นเพราะต้องการทวงถามเรื่องเล่มรถ ส่วนเรื่องเงิน 290,000 บาท ครอบครัวพร้อมจ่ายให้ และที่ผ่านมาหากนายเฉลิมศักดิ์ มาที่ร้านแม่ก็ทักทายปกติ นอกจากนี้ หลายคนสงสัยว่า นายจักรถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ทำไมไม่รักษาตัว คนเราต้องเอาชีวิตรอด และอีกอย่างนายจักร อาจกลัวนายเฉลิมศักดิ์ตามมาทำร้าย