ล่าแก๊งฆ่านักศึกษาวิศวะ แค้นถูกมองหน้าแม่ช็อกสิ้นทายาทสืบตระกูล (คลิป)

16 พ.ย. 64

เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุวัยรุ่นแทงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย บริเวณลานจอดรถร้านสะดวกซื้อ ใกล้กันกับตลาดนัดร่มไทร ถ.ติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบตรวจสอบ

404576

ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถ พบเจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กกั้นปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ภายในแผงกั้นได้พบรถจักรยานยนต์ มีคราบเลือดจำนวนมาก รวมทั้งมีถุงมือยาง กระดาษทิชชู่เปื้อนเลือด ถุงเท้า รองเท้า และเสื้อยืดตกอยู่ที่เกิดเหตุ

cg

ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายบาส อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 วิศวะสาขาเครื่องกล มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ถูกแทงด้วยอาวุธมีด บริเวณด้านหลัง 2 แผล หมดสติ อาสากู้ภัยพยายามช่วยปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่ง รพ.ชลประทานปากเกร็ด ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไป

912159

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 นายสมชาย ทรงกาย อายุ 46 ปี พ่อค้าขายผลไม้ พลเมืองดีที่พยายามเข้าห้ามระงับเหตุ เล่าว่าช่วงนั้นเวลา 18.00 น. ลูกค้าเริ่มเยอะ และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วพ่อค้าแม่ค้าในย่านนี้ตั้งตัวไม่ทัน วัยรุ่นกลุ่ม 4 คนขี่รถจักรยานยนต์วนมา สวมหมวกกันน็อก อีกคันสีขาว ใส่แจ็กเก็ตสีดำ สวมหมวกกันน็อก ก่อนจะวนออกไป จากนั้นได้หันไปเห็นอีกที่คือเด็กหนุ่มอีกกลุ่มที่มากัน 3 คน ถูกวัยรุ่น 2 คนรุมทำร้ายและใช้หมวกกันน็อกฟาดไปที่หัว ตนเองพยายามตะโกนบอกให้วัยรุ่นที่ก่อเหตุหยุด แต่วัยรุ่น 2 คนก็ไม่หยุด

242029

ตนเองจึงตัดสินใจกระโดดเข้าไปขวาง แต่ก็ไม่ทัน พบว่าเด็กหนุ่มถูกแทงไปสองแผลใหญ่ ๆ ที่ชายโครงหลัง เลือดไหลเต็มตัว และหงายท้องล้ม ตนเองเอามืออุ้มรับไว้จับนอนลง ถอดหมวกกันน็อกออกให้ ก่อนใช้เสื้อของเด็กหนุ่มพยายามอุดจุดที่ถูกแทงเพื่อห้ามเลือดไว้ แต่เด็กหนุ่มเริ่มชักเกร็ง ก่อนเรียกรถกู้ภัยมาช่วย ขณะนั้นจำได้ว่าคนแทงคือคนผอมสูงประมาณ 170 ซม. คนที่ไม่ใส่หมวกกันน็อก สำหรับตนมักเห็นทั้ง 3 คน มาซื้อกับข้าวกินทุกวัน ไม่เคยมีปัญหากับใครในตลาด

731902

ขณะที่ สภ.ปากเกร็ด พบวัยรุ่น 3 คน คือหนึ่งในนั้นคือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และนายนัท รุ่นพี่ผู้บาดเจ็บ และเพื่อนอีก 1 คน ได้เดินทางมาสถานีตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวัน โดยทีมข่าวพยายามสอบถามทั้ง 3 คน ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้ง 3 คนย้ำว่าต้องรีบนำเอกสารไปให้โรงพยาบาล

131717

นายสมบูรณ์ ดีสูงเนิน อายุ 60 ปี และนางประภาพร เกสร อายุ 56 ปี พ่อกับแม่ของนายบาส เปิดเผยว่า ลูกชายเสียชีวิตเมื่อ 13.00 น. ของวันนี้ เนื่องจากแผลที่ถูกแทงลึกทะลุเส้นเลือดหัวใจ หมอได้พยายามผ่าตัดช่วยชีวิตแล้ว แต่น้องเสียเลือดมาก ตนลูกคนเดียว ล่าสุดลูกเพิ่งจะเปิดเทอมได้เพียง 1 สัปดาห์

คุยกันผ่านแชต ลูกบอกว่าจะตัดผมสั้น วันนี้เรียนเสร็จแล้วจะไปตัดผม ซึ่งลูกมักจะเดินทางไปแถวตลาดดังกล่าว เนื่องจากมีเพื่อนพักอาศัยอยู่ในย่านนั้นหลายคน บางครั้งช่วงที่ปิดเทอมก็มีการไปกินไปนอนอยู่กับเพื่อน ซึ่งตนเองก็ไว้ใจเพราะรักลูกเพื่อนเหมือนลูกตัวเองอยู่แล้ว

519926735778

ทั้งนี้ ลักษณะคนก่อเหตุแทงไปแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อน้องล้มมีการแทงซ้ำอีก และเพื่อนน้องบอกว่าคนก่อเหตุมีการกระดกมีด และเอาหมวกกันน็อกฟาดซ้ำ ตนเองมองว่าเจตนาจะฆ่าลูกให้ตายในที่เกิดเหตุเลยด้วยซ้ำ สำหรับลูกตนเองมีเพื่อนเยอะจริง เพราะลูกตนเป็นคนรักเพื่อน แต่ไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่เคยไปหาเรื่องใคร แต่เคยมีการมองหน้ากันและด่ากันก็จบไปตั้งแต่สมัยที่เรียน ปวส. แล้ว แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงแบบครั้งนี้ รวมไปถึงกับคนที่ก่อเหตุเอง ลูกก็ไม่เคยรู้จัก แต่เคยเจอหน้ากัน

866672

ตนเองเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ ไม่สามารถทำใจได้ ตนเองเสียลูกชายเพียงคนเดียวไปแล้ว ไม่สามารถจะนำกับคืนมาได้ ที่ผ่านมาลูกเป็นคนอ่อนโยนมาก จะบอกรักตนเองเสมอ ล่าสุด ลูกก็มีความห่วงใยตนเอง บอกว่าหากขึ้นชั้นปี 2 ก็จะช่วยตนเองทำงานหาเงิน เป็นคำสุดท้ายที่ได้คุยกัน

"แม้คนก่อเหตุจะรับกรรมหนักขนาดไหนก็ตาม ตนเองพูดได้คำเดียวว่ามันไม่สามารถชดใช้ชีวิตลูกชายคนเดียวของตัวเองที่เป็นความหวังของครอบครัวได้"

ล่าสุด พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผู้กำกับ สภ.ปากเกร็ด ให้ข้อมูลว่า ปมการก่อเหตุนี้ยังไม่ชัดว่าเป็นคู่อริกันมาก่อนหรือไม่ แต่ในเบื้องต้น จากการสอบปากคำพยานบอกว่ามีการชดต่อยกันก่อนที่คนก่อเหตุลงมือแทง ชนวนเหตุคาดว่าเป็นเหตุซึ่งหน้า ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี ยืนยันว่าจะทำอย่างเต็มที่ เชื่อว่าจะได้ตัวคนร้ายในเร็ว ๆ นี้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส