เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 64 เวลา 02.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร รับแจ้งเหตุวัยรุ่นถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ และเสียชีวิต ที่หอพักไม่ชื่อในซอยตาดแคน 19 ถนนตาดแคน ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร ที่เกิดเหตุบริเวณถนนปูนซิเมนต์หน้าหอพัก พบร่างของชายนอนเสียชีวิตจมกองเลือด มีบาดแผลถูกแทงบริเวณราวนมซ้าย และหน้าท้อง นอนเสียชีวิตอยู่
ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายเกริกฤทธิ์ แผ่นพรหม หรือเอ อายุ 18 ปี คนตาย เหตุการณ์ที่หอพักดังกล่าวยังพบมีคนถูกทำร้ายโดยใช้ขวดฟาดหัวได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายกต อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลเย็บ 6 เข็ม ส่วนกลุ่มคนก่อเหตุ เป็นอดีตแฟนเก่าของนางสาวเปิ้ล (นามสมมติ) อายุ 19 ปี มาพร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน หนึ่งในนั้นคือ นายเชนต์ อดีตแฟนเก่า มือแทง นั้น
ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังหอพักไม่มีเลขที่ หอพักสร้างใหม่ อยู่ภายในซอยถนนตาดแคน 19 โดยขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปนั้น ห้องหมาย 8 ซึ่งได้มีการล้างคราบเลือดของผู้ตายที่อยู่บริเวณหน้าห้องออกแล้ว มีกองเลือดอยู่ที่บริเวณถนนคอนกรีตหน้าหอพัก ซึ่งเป็นกองเลือดที่ 2
หลังจากที่ก่อเหตุแทงภายในห้อง ได้ลากตัวนายเกริกฤทธิ์ หรือ เอ คนตาย ออกมารุมทำร้าย โดยการก่อเหตุแทงซ้ำที่บริเวณถนนปูน หน้าหอพักที่เกิดเหตุยังคงมีขวดเบียร์เป็นอาวุธที่กลุ่มของนายเซนต์ใช้ทำร้ายร่างกายนายกต จนกระทั่งเป็นแผลแตกบริเวณกลางศีรษะเย็บ 6 เข็ม ส่วนบุคคลที่ถือขวดทำร้ายร่างกายนายกตคือนายมันต์
นางสาวเปิ้ล (นามสมมติ) อายุ 19 ปี อดีตแฟนเก่าของหนายเชนต์ ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงหัวค่ำหลังเลิกงาน กลุ่มของตนเองได้นัดรวมตัวกันไปนั่งดื่มสังสรรค์และพูดคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง กลุ่มของตนเองนั่งดื่มด้วยกัน 5 คน คือ นายเกริกฤทธิ์ หรือเอ คนตาย, นายกต คนเจ็บ, นางสาวไหม, นางสาวอุ้ม และตนเอง
แต่ในร้านดังกล่าวพบว่ามีนายเชนต์ มือแทง เป็นอดีตแฟนเก่าที่เคยคุยกันประมาณ 1 ปี เลิกคุยกันได้ไม่ถึง 1 เดือน ได้มาพร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน คือ นายมันต์ คนใช้ขวดเบียร์ฟาดหัว, นายสิงห์ และนายริว พากันมานั่งดื่มอีกโต๊ะหนึ่งภายในร้าน แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีการพูดคุยหรือทะเลาะอะไรกัน ต่างคนต่างดื่ม ต่างคนต่างแยกกันกิน
จากนั้น ร้านปิดเวลาเที่ยงคืน จึงได้พากันแวะซื้อเครื่องดื่มเพิ่ม มานั่งดื่มสังสรรค์กันต่อที่ห้องพักของตนเองที่เป็นห้องจุดเกิดเหตุ เมื่อกลุ่มของตัวเองมาถึงที่ห้องก็นั่งอยู่ด้วยกันรวมทั้งสิ้น 5 คน โดยมีผู้ชาย 2 ผู้หญิง 3 คน โดยกลุ่มผู้หญิงมานั่งดื่มกันต่อ แต่กลุ่มผู้ชายแยกไปเล่นเกม แต่ก็นั่งอยู่ภายในห้อง ตอนนั้นนั่งดื่มไปได้ยังไม่ถึงขวด ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ของกลุ่มนายเชนต์ ขับเข้ามาที่ห้อง พร้อมกับเปิดประตูพุ่งเข้าไปทำร้ายร่างกายร่างกายนายกต โดยใช้ขวดเบียร์ที่นั่งดื่มอยู่ตีหัว จากนั้นนายเชนต์ก็ได้ถืออาวุธมีดที่เตรียมมาด้วยเป็นมีดพก ช่วงแทงนายเกริกฤทธิ์หรือเอได้รับบาดเจ็บมีเลือดไหลทั่วห้อง และกลุ่มของคนก่อเหตุ ก็ได้มีการหิ้วปีกนาย นายเกริกฤทธิ์ออกไปทำร้ายต่อที่ถนนคอนกรีตหน้าหอพัก ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป
ตนเองยอมรับเคยคบหากับนายเชนต์ คนก่อเหตุ แต่หลังเลิกคุยกันแล้วก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกัน เพราะเนื่องจากทุกครั้งที่นายเชนต์เมา จะมีการหาเรื่อง ทำร้ายร่างกายคนอื่น และตามหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว ส่วนตัวขอยืนยันว่าไม่ได้คิดเกินเลยและไม่ได้คบหากับใคร โดยเฉพาะนายกต และนายเกริกฤทธิ์ คนตาย ซึ่งทุกคนเป็นรุ่นน้องและรุ่นพี่ที่ตนเองเคารพ เป็นเพื่อนร่วมงานด้วยกันที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่ง ฉะนั้นจึงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการคบซ้อน เพราะตนเองหลังเลิกราก็ไม่ได้คบกับใคร แต่เกิดจากความเข้าใจผิด และอารมณ์ร้อนของนายเชนต์ทั้งหมด
นายกต อายุ 30 ปี คนเจ็บที่โดนใช้ขวดเบียร์ทุบหัวเจ็บ เย็บ 6 เข็ม เปิดใจว่า ในคืนวันเกิดเหตุตนเองยอมรับว่าไปนั่งอยู่กับกลุ่มของคนตาย ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแต่ตนเองไม่ได้ดื่มสังสรรค์ เพราะเปิดร้านอยู่ใกล้กัน มีลักษณะเดินไปมาเพื่อทักทายกับกลุ่มเพื่อนเท่านั้น จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืนร้านอาหารปิด ทุกคนจึงแยกย้าย ตนเองจึงได้อาสาไปซื้อเบียร์เพิ่มให้กับกลุ่มคนตายและรุ่นน้อง จากนั้นได้ขับรถเอาไปให้ที่หอพักที่เกิดเหตุ ตอนนั้นตนเองได้ชักชวนให้นายเกริกฤทธิ์นั่งเล่นเกม ตนเองกับคนตายก็ไม่ได้มีการดื่มต่อ มีเพียงกลุ่มผู้หญิงที่นั่งดื่ม ไม่นานก็มีกลุ่มคู่กรณีผลักประตูเข้ามา พร้อมกับถือขวดเบียร์ฟาดที่หัวตนเอง หลังจากได้รับบาดเจ็บ ก็ไปล้างเลือดที่ในห้องน้ำ ได้ยินเสียงคนทะเลาะชุลมุนกัน ออกไปดูอีกทีพบว่าตัวของนายเอ ถูกแทงเสียชีวิตอยู่บริเวณถนนแล้ว ส่วนกลุ่มคนก่อเหตุก็ได้หลบหนีโดยทันที
ทั้งนี้ ตนเองไม่ได้คบหาหรือคิดอะไรกับนางสาวเปิ้ล เป็นเพียงแค่รุ่นพี่ที่รู้จักกัน ไปมาหาสู่กันตามปกติ ที่สำคัญตนเองมีแฟนอยู่แล้ว และตัวของนายเอ คนตาย ก็มีแฟนอยู่แล้วเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครที่จะคิดเกินเลยกับนางสาวเปิ้ล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเกิดจากความเข้าใจผิด
ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดหลักสอง เขตอำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายเกริกฤทธิ์ แผ่นพรหม หรือ เอ อายุ 18 ปี มีการตั้งสวดอภิธรรมภายในศาลาสวดศพ
นายเกิดสุรีย์ แผ่นพรหม หรือ คิง พ่อผู้ตาย เปิดใจว่า ตนเองไม่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับลูกชาย เพราะเมื่อคืนลูกชายก็ยังมาขออนุญาตออกไปนั่งทานข้าวและดื่มสังสรรค์กับเพื่อน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเป็นเรื่องธรรมดาของวัยรุ่น แต่หลังจากนั้นกลับทราบข่าวเวลาประมาณตี 2 ว่าลูกชายถูกแทงเสียชีวิต ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจ เพราะโดยปกติลูกชายไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร หลังจากที่ทราบว่า 4 คน นำโดยนายเชนต์ เป็นคนก่อเหตุ ตนเองยิ่งไม่ทราบว่ามีชนวนเหตุเกิดจากอะไร เพราะโดยปกติลูกชายคนตายก็ไม่เคยไปสุงสิงอะไรกับคนกลุ่มนั้น แต่ก็เชื่อว่าอาจจะเกิดจากประเด็นหึงหวง เพราะลูกชายไปนั่งอยู่กับอดีตแฟนเก่าของนายเชนต์
ส่วนตัวยืนยันว่า ลูกชายไม่เคยคบหาหรือคิดเกินเลยกับนางสาวเปิ้ล เพราะนับถือกันเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องเท่านั้น ที่สำคัญลูกชายก็มีแฟนที่คบหาหรือคุยกันอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่มีสาเหตุใดที่จะไปคุยอะไรกับนางสาวเปิ้ลแน่นอน และจากสภาพบาดแผลของลูกชายที่โดนทำร้าย พบว่ามีแผลใหญ่อยู่บริเวณเรานมซ้าย จุดตาย ตนเองเชื่อว่าเป็นการเจตนาที่จะเอากันให้ถึงตาย เพราะเป็นจุดสำคัญ หากเป็นการป้องกันตัวหือแทงมั่ว ลูกชายก็คงจะไม่โดนแทงบริเวณราวนมจุดที่ทำให้ตายคาที่แบบนั้น
หลังจากที่ตัวเองทราบว่าตำรวจมีการควบคุมตัวกลุ่มคนก่อเหตุได้ 4 คน อยากจะให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย และที่สำคัญไม่ต้องพามาขออโหสิกรรม ไปรับโทษในคุก หรือเป็นไปได้ก็ให้ตายตกตามกันไป ตนเองอยากจะฝากถึงกลุ่มเด็กคนก่อเหตุ "ผมจะไปเจอพ่อแม่ของพวกคุณ" และที่สำคัญ ตอนนี้ตนเองยังไม่มีกำหนดการที่จะฌาปนกิจร่างของลูก เพราะต้องรอคดีคืบหน้ากลุ่มคนก่อเหตุได้รับโทษ
