กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย พบ ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ

15 พ.ย. 64

ก่อนทุกคนจะได้พบกับ “ศึกมวยไทย มรดกคนไทย เสนอ ราชดำเนินซูเปอร์ไฟต์” ระหว่าง กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย vs ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ GSV ไม่พลาด นำที่มาที่ไปของสองยอดมวยเงินแสน ว่ากว่าจะมีวันนี้ ทั้งคู่ผ่านเรื่องผ่านราวอะไรมาบ้างพอสังเขป

กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย

วัยเด็ก

กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย หรือ สมบูรณ์ มีสิทธิ์ดี นักชกจากอำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เดิมมีชื่อเล่นว่า เขียว เริ่มชื่นชอบมวยตั้งแต่เด็ก และมีฝันอยากขึ้นสังเวียนสักครั้งเนื่องจากได้เห็นเด็ก ๆ คนอื่นขึ้นไปชกมวยบนเวทีงานวัดกันบ่อยๆ

หลังจากขออนุญาตคุณพ่ออยู่นาน เขียวได้ขึ้นชกมวยครั้งแรกในชีวิตเมื่อตอนอายุ 8 ขวบ บนเวทีของงานฝังลูกนิมิตละแวกบ้าน ค่าตัวไฟต์แรกเพียง 150 บาทเท่านั้น

ภายหลังชกเสร็จ เขียวยิ่งรู้สึกชื่นชอบมวยยิ่งกว่าเดิมเนื่องจากสนุกแล้วยังได้เงินอีกด้วย จากนั้นก็ต่อยมาเรื่อยจนเริ่มขึ้นชื่อเรื่องหมัดหนัก เนื่องจากเคยต่อยน็อกคู่ต่อสู้หลายต่อหลายคนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

เกือบเลิก

หลังจากเดินสายชกมวยจริงจังภายใต้ชื่อ ‘เขียวมรกต ส.กัลยาณี’ ได้ไม่นานนัก เฉกเช่นวัยรุ่นทั่วไป เขียวก็เริ่มเบื่อมวยและติดเพื่อน ผลงานบนเวทีก็เริ่มแพ้จนท้อและอยากจะเลิกชกเสียแล้ว

โชคดี เขียวได้รับคำชักชวนจากพรรคพวกของพ่อให้ได้เข้ากรุงเทพ เพื่อมาฝึกมวยกับฮีโร่นักชกเหรียญทองโอลิมปิก “สมรักษ์ คำสิงห์” ซึ่งช่วยพัฒนาเชิงชกให้ จนสามารถกลับมาสู่เส้นทางของชัยชนะอีกครั้ง

แต่ทว่าอยู่กับ ฮีโร่บาส ได้เพียง 6 เดือนก็เป็นอันต้องแยกทางกันอีก ด้วยความคิดถึงบ้านตามประสาหนุ่มบ้านนอก หลังการชนะน็อกไฟต์นึง เขียวตัดสินใจหนีกลับสุรินทร์ทันที แม้ว่าสมรักษ์จะพยายามโทรตามให้กลับ แต่เขียวก็ยืนยันหนักแน่น “ผมอยู่กรุงเทพไม่ได้”

เกิดใหม่

หลังกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านไม่นานนัก “ส.จ.ปภาวิชญ์ บุษวะดี” หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า “สจ.เปี๊ยกอุทัย” กำลังเปิดค่ายมวยที่จังหวัดอุทัยธานี สมรักษ์จึงแนะนำลูกศิษย์เก่าให้ไปลองเก็บตัวกับ ส.จ.เปี๊ยก และดูเหมือนว่าจะถูกโฉลกกันอย่างจัง ที่นี่เองที่ ‘เขียว’ ได้เกิดใหม่ในชื่อ “กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย” อย่างเป็นทางการ

ในช่วงแรก กุหลาบดำ ยังเป็นมวยเบอร์รอง ๆ เนื่องจากในค่ายมีมวยเงินหมื่นเงินแสนหลายคน แต่เมื่อช่วงหนึ่งทางค่ายได้ “อาจารย์สมพร แก้วกัณหา” อดีตมวยดังจากนครสวรรค์ มาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ให้ กุหลาบดำจึงพัฒนาฟอร์มขึ้นมาเป็นยอดมวย กลายเป็น ‘นักมวย-เทรนเนอร์’ คู่ใจกัน มาจนถึงปัจจุบัน

ก้าวสู่ยอดมวย

ผลงานเด่น ๆ ของ “กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย” เกิดขึ้นที่สนามมวยเวทีลุมพินี หลังจากเก็บชัยชนะได้หลายไฟต์ โดยเฉพาะช่วงปี 2559-2560 เป็นปีที่ กุหลาบดำ ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากสถิติที่ไม่เคยแพ้ใคร 7 ไฟต์ติดต่อกันในศึกมวยไทย 7 โดยโหดถึงขนาดน็อกคู่ต่อสู้ 6 จาก 7 ไฟต์ สี จนได้เสื้อสามารถ 7 สี และโด่งดังถึงขีดสุดในฉายา “ซ้ายอุกาบาต” ค่าตัวหลักแสน

กุหลาบดำ คว้าแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี แชมป์ประเทศไทย และรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมจากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยปี 2560 หรือที่เรียกกันว่า “ยอดมวยถ้วยพระราชทาน”(มอบในปี 2561) ซึ่งเป็นปมที่ค้างคาใจกับ ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ มานานถึง 3 ปี ว่าใครคือยอดมวยตัวจริง

……………………………………………………………

ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ

วัยเด็ก

ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ หรือ ณัฐพงศ์ สิงห์โพนงาม นักชกจาก อ.สุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เดิมชื่อเล่นว่า แนท เริ่มใฝ่ฝันชื่นชอบการชกมวยจากการติดตามถ่ายทอดสดทางทีวีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

เพียงอายุ 10 ขวบ ยอดเหล็กเพชร ก็เข้าซ้อมมวยไทยกับค่ายมวยท้องถิ่นโดยมีพ่อเป็นครูมวยคนแรก และขึ้นชกไฟต์แรกด้วยชื่อ “น้องแนท ศิษย์วัดแจ้” ค่าตัวเริ่มต้นเพียง 160 บาท

หลังจากนั้น แนท ก็สั่งสมฝีไม้ลายมือจนเริ่มแก่กล้า เดินสายชกเรื่อยมา กระทั่งเมื่อรู้ว่าสามารถยึดอาชีพมวยเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ประกอบกับมีฝันอยากเป็นยอดมวยแถวหน้าของเมืองไทย จึงได้เดินทางสู่กรุงเทพเพื่อเข้าสังกัด ทีเด็ด99 ของเฮียตี๋ สรศักดิ์ แซ่ตั้ง เมื่ออายุได้เพียง 16 ปี โดยขึ้นชกในชื่อ ยอดเหล็กเพชร อ.แสงทวี ก่อนจะเปลี่ยนเป็น อ.ปิติศักดิ์ และ อ.อัจฉริยะ จนถึงปัจจุบัน

โด่งดัง

จากชัยชนะมากมายเกิน 100 ไฟต์ ทั้งในกรุงเทพและภูธร แม้ว่ายอดเหล็กเพชรจะตัวเล็ก หุ่นมะขามข้อเดียว แต่มีสไตล์ชกบู๊ดุดัน อาวุธหนักหน่วงรุนแรงหมัด เท้า เข่า ศอกครบเครื่องมาแทนที่ ยอดเหล็กเพชร จึงกลายเป็นนักชกเบอร์ต้น ๆ ของวงการค่าตัวเรือนแสน ทั้งยังขึ้นมาครองใจแฟนมวยได้อย่างไม่ยากเย็น

ฉายาของเขามีมากมายตั้งแต่ จอมทำลายล้าง, คนเหล็ก 2018, ด้วยน้ำอดน้ำทนและธาตุทรหด ที่โดนเท่าไหร่ไม่มียุบไม่มีทิ้งตัว ยิ่งชกยิ่งสนุกถูกใจคนดู

ไฟต์สร้างชื่อของยอดเหล็กเพชรมีให้พูดถึงกันไม่ขาด ตลอดเส้นทาง 10 ปีที่ผ่านมา มวยดังมวยเก่งล้วนเคยถูกยอดเหล็กเพชรล้มมาแล้วแทบทั้งสิ้น เรียกว่าสาธยายกันไม่หมดเลยทีเดียว

ปมคาใจ

ตลอดปี 2560 ถึงต้น ๆ ปี 2561 ถือว่าเป็นปีทองของยอดเหล็กเพชร เขาขึ้นชก 11 ไฟต์ไม่แพ้ใครเลย ขึ้นแท่นยอดมวยที่ได้รับการยอมรับจากแฟนมวยอย่างล้นหลาม ได้รับรางวัลยอดมวยสยามกีฬาอวอร์ดไปครอง เคยเป็นแชมป์สนามมวยเวทีราชดำเนิน และแชมป์ประเทศไทย ไม่น้อยหน้ากุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย

แต่ทว่าในการตัดสินรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬา หรือ ‘ยอดมวยถ้วยพระราชทาน’ เป็น กุหลาบดำ ที่คว้ารางวัลไปครองแบบคะแนนค่อนข้างขาด ทำให้ ยอดเหล็กเพชร ปรารถนาที่จะตัดสินความเป็นยอดมวยกับกุหลาบดำมาตลอด แต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักที

การพบกันของ ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ มวยบู๊ดุดันบ้าดีเดือดธาตุทรหดเต็มเปี่ยม กับ กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย มวยบู๊ฝีมือจัดจ้านอาวุธหนักรุนแรง เพื่อเคลียร์ปมคำว่ายอดมวยในอดีต จะเรียกว่ามวยระดับห้าดาวก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพอซะแล้ว สำหรับ ‘ปรากฎการณ์แห่งสังเวียนผ้าใบ’ ในครั้งนี้

แฟน ๆ รอชมได้ใน ศึกมวยไทย มรดกคนไทย เสนอ ราชดำเนินซูเปอร์ไฟต์ ถ่ายทอดสดวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ณ โรงยิมเอนกประสงค์ สนามกีฬากลางจังหวัดบุรีรัมย์ (เขากระโดง สเตเดียม) จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม