หนุ่มป่วยไบโพลาร์คว้าปืนยิงกรอกปากตัวดับ เพื่อนช็อกห้ามไม่ทัน อึ้ง! ประวัติมีดแทงแม่

กรณี พ.ต.ท.ประยุทธ พึ่งเคหา สว.(สอบสวน) สน.ประเวศ ได้รับแจ้งเหตุชายยิงตัวเองเสียชีวิตคาบ้าน ภายในห้องนอนชั้น 2 ซอยหมู่บ้านนักกีฬาแหลมทอง 40 แขวงและเขตสะพานสูง กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ล่าสุดวันที่ 14 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ พบเป็นบ้านเดี่ยวเนื้อที่ประมาณ 40 ตารางวา สูง 2 ชั้น ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายเกียรติประวัติ อายุ 23 ปี อดีตอาสามูลนิธิสยามรวมใจ จุดประเวศ แต่ไม่ได้มีการต่ออายุบัตรมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว

ทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับนายสมชัย อายุ 67 ปี (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เล่าให้ฟังว่า ในวันนี้ช่วงเช้าตนได้ยินเสียงคนคุยกันปกติ พูดกันเสียงดัง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของชุมชน เพราะอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะ มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทและตีกันบ่อย ตนจึงไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. ระหว่างที่ตนทำงานนอยู่ และเปิดประตูบ้านออกมา ได้ยินเสียงดัง 2 ครั้ง ถึงรู้ว่าเป็นเสียงปืน แต่ตนไม่ได้ออกไปดู เพราะไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่น

ทั้งนี้ ตนรู้จักกับนายเกียรติประวัติ เพราะอาศัยอยู่บ้านติดกัน นายเกียรติประวัติเคยเล่นกับลูกของตน เพราะวัยใกล้เคียงกัน พอโตมาจึงค่อย ๆ ห่างกันไป และไม่ได้สุงสิงสนิทสนมกัน จากการที่ตนเคยพูดคุยนายเกียรติประวัติ เป็นเด็กพูดจาดี ตนอยู่ที่นี้มาเป็นเวลา 30 กว่าปี และตนรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2555 ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านเช่าอีกหลังหนึ่ง ตอนนั้นนายเกียรติประวัติ อาศัยอยู่กับแม่ เวลาประมาณ 04.00 น. นายเกียรติประวัติ เล่นเกมอยู่ แม่เข้ามาห้ามบอกให้เลิกเล่น และได้มีปากเสียงกัน ด้วยอารมณ์โมโหนายเกียรติประวัติ จึงใช้มีดแทงแม่ตัวเองเสียชีวิต ซึ่งตนรู้จักกับแม่ของนายเกียรติประวัติ เป็นคนนิสัยเรียบร้อย นิสัยดี ตนไม่รู้จะบอกอะไรกับนายเกียรติประวัติ คงได้รับเวรกรรมที่ทำไว้กับแม่หรือไม่ 

ต่อมาทีมข่าวได้คุยกับนายนิคม เกตุไธสง หรือ โอ้ พี่คนสนิทของนายเกียรติประวัติ ทำงานมูลนิธิสยามรวมใจ ปู่อินทร์ ประจำจุดประเวศ ที่เดียวกับนายเกียรติประวัติ เล่าให้ฟังว่า ในปี พ.ศ.2555 หลังจากที่แม่ของนายเกียรติประวัติเสียชีวิต นายเกียรติประวัติ ก็เริ่มมีอาการป่วยทางจิตเวช เป็นโรคไบโพลาร์ มีอารมณ์แปรปรวน ซึ่งนายเกียรติประวัติได้เข้ารับการรักษาในสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต และรักษาด้วยตัวเองเรื่อยมา และต้องกินยาทุก ๆ วัน

ทั้งนี้ นายเกียรติประวัติ รู้จักกับตนตั้งแต่อายุ 16 ปี และได้เข้าร่วมเป็นอาสามูลนิธิสยามรวมใจ ปู่อินทร์ ซึ่งทางบ้านนายเกียรติประวัติ ทักทวงว่าจะทำได้เหรอ นายเกียรติประวัติ ไม่ค่อยปกติ มีอาการทางจิตเวช แต่ตนก็สอนและถ่ายทอดความรู้ให้จนทำเป็นทุกอย่าง และสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ นายเกียรติประวัติ เป็นคนจิตใจดี พูดจาไพเราะ และเป็นที่รักของเพื่อนพี่น้อง ช่วงหลังมาประมาณ 1 ปี นายเกียรติประวัติ ได้หยุดงานอาสา เนื่องจากเหนื่อยจึงอยากพัก

โดยก่อนเกิดเหตุ ตนได้คุยกับนายเกียรติประวัติ วันที่ 13 พ.ย.64 เวลาประมาณ 02.00 น. นายเกียรติประวัติ มาหาที่บ้าน เพื่อบอกกับตนว่า “พี่ผมจะไปแล้วนะ อย่าลืมที่เรานัดกัน” นายเกียรติประวัติ นัดกับตนและบอกว่าหากตนมาถึงให้ส่งสัญญาณบีบแตร หรือทำอะไรก็ได้ และให้มาที่บ้านในวันนี้ เวลา 07.00 น. เพื่อให้ตนไปรับศพ ซึ่งนายเกียรติประวัติ ยังได้นัดเพื่อน ๆ มายังที่บ้านอีกด้วย

"พอเพื่อนพี่น้องไปถึงบ้าน แต่ไม่สามารถเข้าบ้านได้ เนื่องจากนายเกียรติประวัติ ล็อกประตูบ้านไว้ และบอกว่าจะรอให้ผมไปหา พอไปถึงเพื่อนและป้าของนายเกียรติประวัติ บอกเขาว่าผมมาถึงแล้ว เขาจึงได้ยิงปืนดังขึ้น 2 นัด ไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว และตนไม่คิดว่านายเกียรติประวัติ จะมีปืนด้วย" นายนิคม กล่าว 

อย่างไรก็ตาม นายเกียรติประวัติ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กก่อนที่จะยิงตัวตายว่า กำลังจะจากโลกนี้ไป และโพสต์สตอรี่ นับถอยหลังการยิงตัวตาย หากคนไม่รู้จักอาจมองว่านายเกียรติประวัติเป็นคนสติไม่ดี แต่สำหรับตนรู้ดีว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นจริง สุดท้ายตนเสียใจกับการจากไปของนายเกียรติประวัติ ตนเคารพการตัดสินใจของเขา อยากบอกว่ารักและคิดถึงเสมอ