เปิดเบาะแสรถปริศนาขี่ประกบก่อนสาวใหญ่ถูกยิงดับ เจ้าหนี้เปิดใจปัดสั่งฆ่าล้างหนี้ (คลิป)

14 พ.ย. 64

กรณีพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร จ.สงขลา รับเเจ้งว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงหญิงสาว อายุ 35 ปี เข้าที่บริเวณด้านหลังและศีรษะเสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ 3 ล้อพ่วงข้าง ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ น.ส.ยามิด๊ะ หมัดแล๊ะหมัน อายุ 35 ปี ชาว ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา

191234

โดยสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดและชนิด เข้าบริเวณไหปลาร้าหลัง 1 นัด ด้านหลัง 2 นัด รวมเป็น 3 นัด เสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ที่ทำเป็นรถพ่วงข้าง เหตุเกิดบริเวณริมกำแพงอู่ซ่อมเรือเก่า ห่างจากบ้านไม่ถึง 100 เมตร ก่อนนำศพส่งตรวจชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.สิงหนคร

ล่าสุดวันที่ 14 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ริมกำแพงอู่ซ่อมเรือเก่า ตรงข้ามศาลหลวงปู่ทวด ต.หัวเขา อ.สิงหนคร โดยเป็นจุดที่ น.ส.ยามิด๊ะ ถูกยิงเสียชีวิตบนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง

365632

สอบถามนายหนูเผื่อน สุขปาณะ อายุ 72 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุฝนตกหนัก ตนได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด บนถนนห่างจากร้านค้าของตนประมาณ 60 เมตร ตนจึงหันไปมอง เห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่งล้ม โดยคนขับพยุงรถขึ้นมา ก่อนขับออกไปตามปกติ ตนยังคิดว่าเป็นวัยรุ่นมายิงปืนเล่นจนรถล้มจึงไม่สนใจ จากนั้นมีคนตะโกนบอกว่าคนถูกยิง จึงทราบว่าเกิดเหตุขึ้น โดยคาดว่าผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ช่วงเกิดเหตุค่อนข้างมืด ประกอบกับฝนตก ทำให้ไม่สามารถสังเกตรูปพรรณสัณฐานได้

673453

นางมารีย๊ะ หมัดและหมัน อายุ 47 ปี พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.30 น. ฝนตกอย่างหนัก น.ส.ยามิด๊ะ กำลังจะขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกไปข้างนอก สอบถามทราบว่าจะไปดูเรือที่จอดอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ญาติโทรศัพท์มาบอกว่าน้องสาวถูกยิงเสียชีวิต ตนจึงรีบตามไปที่จุดเกิดเหตุ พบน้องสาวถูกยิงจากด้านหลัง เสียชีวิตคารถพ่วงข้าง

โดยตนไม่รู้ว่าใครลงมือฆ่าน้องสาว แต่ที่ผ่านมาน้องเคยมีคู่กรณี 2 คน ได้แก่ นายเอ็ม และนางเป็ด ซึ่งนายเอ็มมีปัญหากับสามีของน้องสาว เรื่องการทำมาหากินในทะเล เกี่ยวกับการตั้งไซดักปลาทับที่กัน เมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่แล้ว น้องสาวเป็นคนออกหน้าแทนสามี ทำให้มีปากเสียงกับนายเอ็ม อีกฝ่ายจึงขู่ว่า “เดี๋ยวยิงตายสักวัน” แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีเรื่องกัน

583356

ส่วนนางเป็ด ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่น้องสาวยืมเงินมาประมาณ 3,000 บาท ประมาณ 5 เดือนที่แล้ว โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 60 บาท ซึ่งน้องสาวก็จ่ายดอกเรื่อย ๆ แต่เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว นางเป็ดมาทวงเงินต้นที่บ้าน และเข้ามาทำร้ายตบตีน้องสาวจนหน้าบวมช้ำ ก็มีการแจ้งความไว้ที่โรงพัก หลังจากนั้น 3-4 วันก่อนเกิดเหตุ นางเป็ด ก็ยังมาทวงหนี้ซ้ำ แต่น้องสาวของตนไม่อยู่บ้าน นางเป็ดก็มาทวงกับตน โดยผู้ตายก็ได้ฝากบอกว่า "อย่ามาที่บ้านอีก ไม่งั้นเจอกัน" ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีความโกรธแค้นหรือไม่ ตนอยากรู้ว่าคนร้ายคือใคร และอยากถามว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ น้องสาวเป็นผู้หญิงแต่ถูกกระทำอย่างโหดร้าย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายมาให้ได้

465072

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวินัย ปาณะ อายุ 42 ปี สามีผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุฝนตกหนัก ภรรยาเก็บของที่ร้านค้ากลางฝน ส่วนตนออกมาดูเรือที่จอดหลังบ้าน แต่ภรรยาบอกว่าจะออกมาดูเอง เพราะเปียกอยู่แล้ว หลังออกไปได้ไม่นานก็ทราบข่าวว่าภรรยาถูกยิงเสียชีวิต โดยตนก็ไม่รู้ว่าคนร้ายคือใคร แต่คาดว่าอาจจะเป็นคนในพื้นที่ที่รู้ว่าภรรยาจะออกไปดูเรือ ซึ่งต้องขี่รถผ่านจุดเกิดเหตุอยู่แล้ว อาจจะขี่รถตามไปแล้วอาศัยจังหวะซุ่มยิง หรืออาจจะดักซุ่มอยู่ระหว่างทางหรือไม่

cg_13

ส่วนความขัดแย้ง ส่วนใหญ่ก็มีเรื่องเงินที่ภรรยาไปกู้ยืมมาหลายเจ้า หนึ่งในนั้นคือนายตุ๊ ที่ภรรยาติดหนี้ และเคยมีปากเสียงกันเป็นเดือนแล้ว โดยไม่ได้มีปากเสียงรุนแรง แต่ภรรยาของตนพูดเสียงดัง อาจจะทำให้อีกฝ่ายซึ่งเป็นผู้ชายไม่พอใจได้

169533

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าภรรยาของตนยืมเงินมาเป็น 10 เจ้า เพื่อนำมาค้าขาย และใช้จ่ายในครอบครัว แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีปัญหา มีการผ่อนจ่ายเรื่อยมา ทั้งนี้ ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ผู้ตาย ตนมองว่าผู้ก่อเหตุอุกอาจเกินไป และไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้

739770

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับนางเป็ด ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของผู้ตาย ที่เคยมีเรื่องตบตีกันก่อนหน้านี้ เล่าให้ฟังว่า ผู้ตายยืมเงินไปประมาณ 5,000 บาท เมื่อ 6-7 เดือนที่แล้ว ซึ่งตนคิดดอกเบี้ยวันละ 20 บาท แต่อีกฝ่ายก็ไม่ค่อยจ่าย และผัดผ่อนมาตลอด กระทั่งประมาณ 4 เดือนที่แล้ว ตนเข้าไปทวงเงินที่ร้านค้าของผู้ตาย ตนขอร้องให้จ่ายเงินต้นแค่วันละ 10 บาทก็ได้ ผู้ตายไม่ยอมจ่ายอ้างว่าไม่มี ก่อนจะมีปากเสียงกัน ซึ่งฝั่งผู้ตายและญาติรวม 3 คน เข้ามาทำร้ายตนก่อน ตนจึงต้องป้องกันตัว

251651

ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจเข้าไปหาเรื่อง หลังจากนั้นตนก็ไม่เข้าไปทวงอีก เพราะไม่อยากมีปัญหา แต่ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน ตนเข้าไปที่บ้านของพี่สาวคนตาย เพื่อเข้าไปคุยกับพี่สาวผู้ตาย เพราะเป็นคนมาขอยืมเงินไปให้น้องสาว โดยไม่ได้มีปากเสียงกัน ตนยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของ น.ส.ยามิด๊ะ เพราะจำนวนเงินแค่ 5,000 บาท ตนไม่จำเป็นต้องฆ่า และคู่กรณีที่เป็นเจ้าหนี้ของผู้ตายไม่ได้มีแค่ตนคนเดียว เพราะเท่าที่ตนรู้มาคนตายติดหนี้หลายเจ้า ที่นับได้ประมาณ 15 เจ้า และยอดเงินของตนก็น้อยที่สุดหากเทียบกับคนอื่น ๆ 

657452

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายตุ๊ (สงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 62 ปี เจ้าหนี้ ให้สัมภาษณ์ว่า น.ส.ยามิด๊ะ ยืมเงินของตนไปประมาณ 15,000 บาท โดยตนคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน ซึ่งอีกฝ่ายก็ผ่อนจ่ายให้ประมาณวันละ 50 บาท และทยอยจ่ายจนเหลือหนี้ประมาณ 11,000 บาท หลังจากนั้นผู้ตายเริ่มไม่ผ่อน

393013

เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว ตนก็เข้าไปเก็บเงินตามนัดหมาย แต่อีกฝ่ายไม่ยอมจ่ายและพูดเสียงดังใส่ ลักษณะว่าหากทวงมาก ๆ จะไม่จ่ายเงิน ซึ่งตนเป็นผู้ชาย ไม่อยากทะเลาะกับผู้หญิงจึงถอยกลับมา ไม่ได้ไปด่ากลับเพราะอาย หลังจากนั้นก็ไม่ได้เข้าไปทวงหนี้อีกเลย

ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุตนอยู่บ้านทั้งวัน ออกจากบ้านครั้งเดียวช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. เพื่อไปตลาด กลับมาบ้านเวลา 17.00 น. และเพิ่งทราบเรื่องช่วงเช้าอีกวัน ตนยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของ น.ส.ยามิด๊ะ เพราะจำนวนเงินที่อีกฝ่ายติดไว้ก็ไม่ได้มากมาย ถึงขั้นต้องฆ่ากัน และตนก็ถูกเรียกสอบเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่บ้าน ซึ่งตนก็ยืนยันความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง

878869

ทั้งนี้นายตุ๊ ยังเปิดแผลที่ขาให้ทีมข่าวดู พบมีแผลเก่า ลักษณะโดนท่อรถที่ขาทั้ง 2 ข้าง และแผลตกสะเก็ดที่ขาข้างซ้าย ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าเป็นรอยเก่า เนื่องจากอาการคันเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

183179

เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่บ้านนายเอ็ม หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ทะเลาะกับน.ส.ยามิด๊ะ ก่อนเกิดเหตุ โดยมีการเข้าไปค้นในบ้านพัก และบริเวณขนำในทะเลหลังบ้าน พร้อมนำเสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือ หมวกกันน็อกของนายเอ็ม ไปตรวจสอบ เพื่อหาความเชื่อมโยงในคดี

759345

สอบถามนายจรัญ เพื่อนบ้าน อ้างว่านั่งกินเหล้ากับนายเอ็มในวันเกิดเหตุจนมืดค่ำ ในระหว่างนั้นเห็นชาวบ้านเดินไปดูที่จุดเกิดเหตุ จึงเดินตามไปดูด้วย พบว่า น.ส.ยามิด๊ะ ถูกยิงเสียชีวิต จึงเดินกลับมาบอกนายเอ็ม ตนยืนยันว่านายเอ็มนั่งกินเหล้าตลอด ไม่ได้ออกไปก่อเหตุแน่นอน

359192

เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายวัลลภ บัวน้อย หรือ เอ็ม อายุ 38 ปี มาสอบสวน โดยพบว่านายเอ็ม มีแผลต้องเข้าเฝือกที่ข้อเท้าซ้าย สอบถามนายเอ็ม กล่าวอ้างว่า ตนไปซ่อมเรือและตกลงมาจากเรือเมื่อวันที่ 12 พ.ย.64 ทำให้บาดเจ็บข้อเท้า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวมาสอบปากคำ ตสยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในวันเกิดเหตุอยู่บ้านทั้งวัน และไม่ได้ยิง น.ส.ยามิด๊ะ ยอมรับว่าค่อนข้างกังวลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมาสอบปากคำ เพราะตนไม่ได้เกี่ยวข้อง ส่วนเหตุที่ทะเลาะกันเป็นเรื่องการทำมาหากินในทะเล ตนไม่อยากทะเลาะด้วย ก็ให้ผู้ตายคุยกับแม่ เพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงด้วยกัน ตนยืนยันว่าไม่เคยขู่ฆ่าผู้ตายแต่อย่างใด 

470737466511

ทั้งนี้ พบว่ารถจักรยานยนต์สีแดงของนายเอ็ม ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาตรวจสอบ มีรอยติดสติกเกอร์ บริเวณบังโคลนหน้า ซึ่งนายเอ็มยืนยันว่าเป็นรอยที่เคยขับรถไปชนนานแล้ว จึงต้องติดสติกเกอร์เอาไว้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส