ประยุทธ์ ประกาศ ไทยเป็นเจ้าภาพ เอเปค 2022 พลิกฟื้นประเทศจากโควิดสู่อนาคต

13 พ.ย. 64

ประยุทธ์ รับไม้ต่อ นิวซีแลนด์ ประกาศ ไทยเป็นเจ้าภาพประชุม เอเปค 2022 สร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง พลิกฟื้นประเทศจากโควิดไปสู่อนาคต พร้อมเชิญคนไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกัน

วันนี้ (13 พ.ย.64) เวลา 8.03 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงถึงประชาชนไทยเพื่อประกาศการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปี 2565 (ปี 2022)ภายหลังจากการรับมอบตำแหน่งจากนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ โดย นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนว่า ไทยได้รับมอบการดำรงตำแหน่งเจ้าภาพเอเปคในปี 2565 และจะปฏิบัติหน้าที่ตลอด 1 ปี ต่อจากนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญอย่างยิ่งที่ไทยจะเปิดตัว และขับเคลื่อนการฟื้นประเทศจากโควิดไปสู่อนาคต และแสดงความพร้อมในการต้อนรับชาวต่างชาติ ตั้งแต่ระดับผู้นำ นักธุรกิจระดับสูง สื่อชั้นนำ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่จะเดินทางมาประเทศไทยตลอดปีหน้า เอเปคเป็นเวทีส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ไทยเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ประกอบด้วยเขตเศรษฐกิจชั้นนำถึง 21 เขตเศรษฐกิจ มี GDP รวมกันทั้งสิ้นกว่า 53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,700 ล้านล้านบาท และมีมูลค่าการค้ารวมกันเกือบครึ่งหนึ่งของการค้าโลก

นายกรัฐมนตรีกล่าวเสริมว่า ไทยได้ประโยชน์จากการมีพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ได้ร่วมผลักดันแนวคิดใหม่ ๆ ที่ช่วยพัฒนาประเทศให้เติบโตอย่างครอบคลุมและยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs การสนับสนุนบทบาทสตรีในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน การเป็นเจ้าภาพเอเปคจึงถือเป็นเกียรติ และสะท้อนความเชื่อมั่นที่สมาชิกเอเปคมีต่อไทย โดยภาคส่วนต่าง ๆ ได้ร่วมกันเตรียมการอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ภาคธุรกิจ นักวิชาการ ชุมชน จนถึงคนรุ่นใหม่ เพื่อร่วมสกัดแนวคิดและวางเป้าหมายที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อคนไทย

img_20211112212916000000

นายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยว่า ไทยจะขับเคลื่อนให้เอเปคพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกยุคหลังโควิดที่ยั่งยืนและสมดุล และทุกคนมีส่วนร่วม ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy และได้ประกาศหัวข้อหลักของการประชุมเอเปคปี 2565 คือ “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” หรือ “Open. Connect. Balance.” ซึ่งมีประเด็นสำคัญ 3 ด้าน คือ

  1. การส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม
  2. การอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน แ
  3. การฟื้นฟูความเชื่อมโยง โดยเฉพาะการเดินทาง และท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด

ทั้งนี้ การประชุมแรกของเอเปค 2565 จะจัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคมนี้ และจะมีการประชุมอื่น ๆ กว่าร้อยการประชุมในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศตลอดปีหน้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกพื้นที่

โดยนายกรัฐมนตรียังได้แสดงความยินดีกับ นายชวนนท์ วงศ์ตระกูลจง นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ชนะการประกวดโลโก้เอเปค ปี 2565 ของไทย โดยผลงานชะลอมนี้ สะท้อนความเป็นไทยจากรุ่นสู่รุ่น โดยเส้นตอกไม้ไผ่ที่สอดประสานกันมีความแข็งแรง คงทน ดังเช่นความร่วมมือของสมาชิกเอเปค

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้คนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพ และยืนยันว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ เพื่อให้การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ประสบความสำเร็จ สร้างประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนและลูกหลานในอนาคตต่อไป 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชวน ย้ำ รมต.ต้องมาตอบกระทู้ ชี้ ส.ส.รัฐบาลมีหน้าที่รักษาองค์ประชุม อย่าโยนวิป
เช็กด่วน! ตรวจสอบผู้มีสิทธิ เลือกตั้งท้องถิ่น ไม่พบชื่อ-เจอชื่อผี รีบแจ้งถึง 17 พ.ย.นี้
ปารีณา หลุด กมธ.งบฯ 65 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีรุกป่า 7 เม.ย.65

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม