อนุทิน ยอมรับต้องเติมเข็ม 4 ก่อนบินประชุมอนามัยโลก เหตุสวิตเซอร์แลนด์ไม่อนุญาตซิโนแวค 2 เข็ม เผยตนฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 3 แล้ว แต่ปลายทางกำหนดให้รับ 2 เข็ม จึงจำเป็นต้องฉีดเพิ่ม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ เตรียมความพร้อมการเปิดประเทศและรองรับการระบาดโรคโควิด-19 ภาคกลาง ว่า ตามนโยบายเปิดประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เดินหน้าวิถีชีวิตของประชาชนให้กลับมาอย่างปกติคู่กับการควบคุมการระบาดของโควิด-19 อย่างสมดุลกัน สำหรับจังหวัดที่มีประชากรมาก มีการเคลื่อนไหวของคนมาก ก็จะโอกาสที่พบการติดเชื้อมากกว่าจังหวัดอื่นที่ต่ำกว่า แต่ขออย่าน้อยใจ หากเห็นว่าตนและคณะผู้บริหาร สธ. เดินทางไปจังหวัดใด ก็นำวัคซีนไปเติมให้ นั่นไม่ใช่รางวัลแต่เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขการระบาด เพื่อควบคุมการระบาดไม่ให้กระจายออกไป ในเมื่อไวรัสมาหลายสายพันธุ์ เราก็เอาวัคซีนทุกแซ่มารับมือ ต้องขอบคุณทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ที่ไม่ขี่ม้าตัวเดียว
นายอนุทินกล่าวอีกว่า คิดว่าขณะนี้ไทยเป็นประเทศเดียวที่เริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 สำหรับผู้ที่จำเป็น เพราะวันนี้ไทยเปิดประเทศ ก็เพื่อให้กิจกรรมที่เคยเป็นปกติทั่วไปได้กลับมา ไม่ใช่เพียงรับเข้ามาประเทศ แต่คนของเราก็ต้องออกไปค้าขาย ทั้งประชุม สัมมนา ท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด บางประเทศโดยเฉพาะทางตะวันตก หลายประเทศยังไม่อนุญาตวัคซีนสูตรไขว้ หรือซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม เช่น ที่ตนต้องเดินทางไปร่วมงานประชุมกับองค์การอนามัยโลก ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ยังไม่อนุญาตซิโนแวค 2 เข็ม แม้ตนได้รับการฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 3 แล้ว แต่ประเทศปลายทางกำหนดให้รับ 2 เข็ม ก็ต้องเติมเป็นเข็มที่ 4
นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้วัคซีนยังไม่สามารถกำหนดว่าจะมีภูมิคุ้มกันนานแค่ไหน อาจจะ 12, 18 หรือ 24 เดือน แต่เมื่อมีการพิสูจน์ออกมาแล้ว ก็พร้อมจะฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสให้คนไทยจนกว่าจะปลอดภัย
