“ตีเบอร์ร้อน” เด็กอุเทนฯ ไม่ทำ! แก๊งเหยื่อคาด มือฆ่าเก็บแต้มตาย - แม่เชื่อ ตร.ไม่จับแพะ (คลิป)

20 พ.ย. 61
จากกรณีนายกมลวิช สุวรรณทัต อายุ 24 ปี นศ.ปี 4 คณะโลจิสติกส์ เทคโนโลยีฯ อุเทนถวาย ถูกมือปืนดักกระหน่ำยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าตามร่างกาย 4 นัด เสียชีวิตขณะที่ขี่จยย.ไปช่วยแม่ขายราดหน้า เหตุเกิดบริเวณหน้าหมู่บ้านวังทองเฮ้าส์ ถนนนวมินทร์ ซอย 57 เเขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. (อ่าน : พ่อ นศ.อุเทน เผยลูกย้ายบ้านหนียังถูกตามฆ่า ปัดมีคดีติดตัว - ตร. ชี้ วางแผนยิง)
ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะนายกมลวิชถูกทำร้าย
เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 คน ประกอบด้วย 1.นายกฤษฎา นราพงษ์ ผู้วางแผนสั่งการ 2.นายสหรัฐ ดงพระจันทร์ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พามือปืนซ้อนท้าย และ 3.นายปฏิภาณ เจริญชัยกุล คนชี้เป้า ส่วนนายประสิทธิ์ ยนต์พล มือปืน และนายจิรภัทร เพชรรักษ์ คนนำทาง คุ้มกันและพามือปืนหนี ยังหลบหนี โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จะทำการ "ตีเบอร์ร้อน" ไว้บนหัวไหล่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ประกาศศักดาว่าผ่านงานฆ่ามาทั้งหมดกี่ศพ
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นห้องของนายกฤษฎา ผู้ต้องหา
วันที่ 20 พ.ย. 61 ทีมข่าวเดินทางไปตรวจสอบคอนโดมิเนียม ย่านรามคำแหง 46 จากการสอบถาม นายวิโรจน์ (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ภายในคอนโดฯ เล่าให้ทีมข่าวมาว่า ช่วง 21.00 น. ของวันที่ 19 พ.ย. 61 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในพื้นที่คอนโดประมาณ 30 นาย จากนั้นก็มาถามตนพร้อมกับนำรูปถ่ายนายกฤษฎามาให้ดู ซึ่งภาพก็ตรงกันกับคนที่พัก ในคอนโด
นายวิโรจน์ (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ภายในคอนโดฯ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กระจายกำลังตามจุดต่าง ๆ ทั่วทั้งคอนโดฯ เพื่อสังเกตุการพฤติกรรมของผู้ต้องหา กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. นายสหรัฐ ดงพระจันทร์ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พามือปืนซ้อนท้าย และนายปฏิภาณ เจริญชัยกุล คนชี้เป้า เดินลงมาจากคอนโดพอดี เจ้าหน้าที่จึงทำการล็อกตัวและนำไปโรงพักทันที ส่วนนายกฤษฎา นราพงษ์ ผู้วางแผนสั่งการยังอยู่ในห้องตามปกติ กระทั่งเมื่อเช้าที่ผ่านมา (20 พ.ย. 61) เวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังบุกห้องพักและสามารถจับกุม นายกฤษฎา นราพงษ์ไว้ได้
คอนโดฯ ที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหา
นอกจากนี้ นายวิโรจน์ บอกว่า นายกฤษฎาเป็นคนพูดเพราะ และท่าทางปกติ ไม่มีทีท่าเหมือนคนทำความผิดมาเลย ตนก็เพิ่งมารู้เรื่องก็ตอนที่ตำรวจมาเมื่อคืนที่ผ่านมา
นายนฤดม และนางเขมนิจ สุวรรณทัต พ่อและแม่ของผู้ตาย
ด้าน นางเขมนิจ สุวรรณทัต หรือ จิ่ง อายุ 54 ปี แม่ของผู้ตาย ระบุว่า หลังจากคดีมีความคืบหน้าและออกหมายจับผู้กระทำผิด 5 คนแล้ว ส่วนตัวรู้สึกดีใจมาก และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใส่ใจในคดีของลูกชายตนเอง ก่อนหน้านี้ ตนเองตั้งความหวังเอาไว้ หากครบ 50 วัน (2 ธ.ค.) คดียังไม่คืบ ตนเองจะเดินทางไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ครั้งนี้ถือว่าคดีมีความรวดเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ ส่วนคนที่ตำรวจออกหมายจับทั้ง 5 คน เชื่อว่าจะเป็นตัวจริง เพราะตนเองยังเชื่อมันในกระบวนการยุติธรรม และการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานชัดเจน เพราะของแบบนี้ต้องมีมูล ถึงจะหาตัวและออกหมายจับได้ ทั้งนี้ ภายหลังออกหมายจับ ยังไม่มีการประสานพูดคุยกับเพื่อนผู้ตายว่ารู้จักหรือไม่ แต่คงจะมีโอกาสได้คุยกันเร็ว ๆ นี้ ส่วนตัวยังมีความเชื่อว่า  ถ้าออกหมายจับคนผิด ดวงวิญญาณของลูกจะรับรู้
บริเวณจุดเกิดเหตุ ยิงนายกมลวิช
นายนฤดม สุวรรณทัต หรือ ตอน อายุ 55 ปี พ่อของผู้ตาย กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีใหญ่ สังคมจับตามองอยู่ หากเอาแพะออกมา คงเป็นไปไม่ได้ ตนเองยังยืนยันว่าคือตัวจริง แต่หลังจากนี้ จะรู้หรือไม่ว่าตัวจริงหรือตัวปลอม กระบวนการจะต้องมีคำสารภาพรับผิดออกมา วันนี้ตนเองได้รับประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 1 ให้เดินทางไปที่สำนักงาน ซึ่งระหว่างที่เดินทาง มีโทรศัพท์ให้ยกเลิกไป ซึ่งคำเชิญให้ไป แม้กระทั้งเหตุผลที่ยกเลิก ตนเองก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่ส่วนตัวเชื่อว่า จะเป็นเพราะการออกหมายจับ และความคืบหน้าที่จับคนร้ายได้ เพื่อให้เป็นพยานยืนยันและรับทราบคนก่อนเหตุไปพร้อมกัน
นายกล้วย (นามสมมติ) เพื่อนผู้ตาย
นายกล้วย (นามสมมติ) เพื่อนผู้ตาย เปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่คดีมีความคืบหน้า อย่างน้อยก็เป็นการให้กำลังใจต่อพ่อแม่ผู้ตาย ซึ่งจะเป็นเครื่องการันตีว่าความยุติธรรมยังมีอยู่ ไม่ทำให้ผู้ที่ก่อเหตุระเริงใจ ไม่กลับมาก่อเหตุช้ำ ทั้งนี้ ส่วนตัว อยากฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน ที่ทุกคนร่วมกันทำหน้าที่ให้คดีคืบหน้าไปมาก กระทั่งสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด ส่วนกรณีรายชื่อ ผู้ก่อเหตุที่ออกหมายจับออกมา ยืนยันว่า ไม่รู้จัก แต่อาจเป็นคนที่ไม่มีสถานะเป็นนักศึกษา มีเพียงสายรหัส และรุ่นที่ยังคงเหลืออยู่ อาจจะเป็นนักเรียนที่ถูกรีไทร์หรือให้ออกไปแล้ว จึงสามารถก่อเหตุลักษณะแบบนี้ได้ แต่ความคืบหน้าครั้งนี้ ตนเชื่อว่า ผู้ตายอาจจะไม่สามารถรับรู้อะไรได้ เพราะเสียชีวิตไปแล้ว ก็คงจะเหลือเพียง พ่อ - แม่เท่านั้น ซึ่งคงจะดีใจที่ทุกอย่างมีความคืบหน้า นายกล้วย มองว่า ส่วนเรื่องการตีเบอร์ร้อนนั้น อาจเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าเรียนอยู่ในชั้นปีไหนก็ได้ หรือไม่ก็บอกว่าตนเองฆ่าไปได้แล้วกี่ศพ แต่ยอมรับว่าที่สถาบันอุเทนถวายไม่มีใครทำแบบนั้น ซึ่งการจะได้เกียร์มา 1 ดวง จะเกิดจากภารกิจที่ต้องไปฆ่าหรือแทงคน ยิ่งมีเยอะ ยิ่งประกาศบอกให้คนรู้ว่าตนเองมีประสบการณ์มาแล้งกี่ครั้ง และการที่บนร่างกายมีรอยประทับตราเอาไว้ ก็จะเป็นที่ยอมรับในกลุ่มพรรคพวกเดียวกัน ว่าตนเองทำได้หรือไม่
การตีเบอร์ด้วยเหล็กร้อน
ซึ่งสัญลักษณ์ที่ถูกใช้ประทับตราบนร่างกาย เป็นรูปฟันเฟือง สัญลักษณ์สายช่าง โดยไม่ใช่เป็นการสัก แต่จะใช้แผ่นเหล็กรูปฟันเฟือนร้อน ๆ ขนาดเท่าเหรียญสิบ ไปเผาไฟร้อนแดง และนำมาประทับตราเอาไว้บนไหล่ ที่หน้าแขน และหากมีมากกว่า 1 ระดับหรือ 1 ดวง ไล่ตั้งแต่หัวไหล่ลงไปเรื่อย ๆ และหากมีประสบการณ์มาก ก็จะมีประทับตามากขึ้น การประทับตราแต่ละครั้ง อาจไม่ใช่แลกมาเพราะต้องฆ่าคน 1 คน แต่อาจเกิดจากความสำเร็จที่ได้กระทำเอาไว้ก็ได้ ซึ่งการทำสัญลักษณ์พวกนี้อยู่ที่ตัวบุคคล หรือกลุ่มที่ตั้งขึ้นมา เพื่อสร้างการยอมรับกันเองเท่านั้น หรืออาจทำไปเพื่อสร้างความภูมิใจในตัวเองมากกว่า ไม่เกี่ยวกับคนส่วนใหญ่ ซึ่งคนที่ทำอาจจะต้องเป็นคนรุ่นใหญ่ เพื่อให้คนเกรงใจ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ