ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด สนธิกำลังทหารและตำรวจตระเวนชายแดน เข้าสกัดจับ ชาวโรฮิงญา 10 คนหลบซ่อนตัวในป่าข้าวโพด รอรถยนต์นายหน้ามารับไปส่งปลายทางกรุงเทพฯ โดยเสียค่านายหน้ารายละ 35,000 บาท ส่วนผู้ช่วยเหลือในกลุ่มขบวนการเป็นเด็กชายวัยเพียง 13 ปี เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล
เมื่อเวลา 04.00 น. (10พ.ย.64) นายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอแม่สอด นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็ว กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 พร้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านริมเมย หมู่ที่ 2 สนธิกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 และตำรวจสภ.แม่สอด จังหวัดตาก ร่วมกันสนธิกำลังเข้าลาดตระเวนในพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมาที่บริเวณท้ายหมู่บ้านหมู่ที่2บ้านริมเมยตำบลท่าสายลวดอำเภอแม่สอดจังหวัดตากเพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแนวชายแดนของคนต่างด้าว
จนเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่พบชายสองคนทราบชื่อต่อมา นายจ่อซออู อายุ 28 ปีและเด็กชายอ่อง อายุ 13 ปี ทั้งสองเป็นชาวเมียนมากำลังเดินเท้าเข้าไปในป่าข้าวโพด โดยมีกระเป๋าเป้แบกติดหลังทั้งสองไปด้วยจำนวน 2 ใบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้นโดยผลการตรวจค้นพบภายในกระเป๋าเป้ทั้งสองใบพบขนมปังและหมากพม่าพร้อมยากันยุงบรรจุมาเต็มกระเป๋า
ทั้งสองใบซึ่งทั้งสองอ้างว่าไปซื้อขนมปังเก็บไว้รับประทานเอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเนื่องจากทั้งสองมีอาการส่อพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งสองไปสอบสวนจนทั้งสองยอมเปิดเผยข้อมูลลับและแจ้งว่าตนเองทั้งสองกำลังจะนำขนมปังและเสบียงทั้งหมดนี้ไปส่งให้แรงงานสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองที่หลบซ่อนตัวอยู่ในป่าข้าวโพดที่ท้ายหมู่บ้านริมเมย
เจ้าหน้าที่จึงเปิดปฏิบัติการเข้าไปปิดล้อมบริเวณป่าข้าวโพดโดยทันทีและสามารถควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวน 10 คนโดยเป็นชาย 5 คนและหญิงจำนวน 5 คนซึ่งทั้งหมดเป็นชาวโรฮิงญาสัญชาติเมียนมาซึ่งแรงงานผิดกฎหมายทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดโรยอย่างหนัก เนื่องจากขาดอาหารและต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าข้าวโพดเป็นเวลานาน เจ้าหน้าที่จึงให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยมอบอาหารและน้ำดื่มให้รับประทานพร้อมนำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยผลการตรวจแรงงานทั้งหมดไม่พบเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปทั้งหมดทำการสอบสวนขยายผล
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าแรงงานทั้ง 10 คนที่ถูกจับกุมนี้เป็นชาวโรฮิงญาและได้ลักลอบข้ามแนวชายแดนผ่านทางช่องทางธรรมชาติมาจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามมาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ชายแดน อำเภอแม่สอด ซึ่งแรงงานทั้งหมดต้องจ่ายค่านายหน้าให้การช่วยเหลือนำตัวไปส่งปลายทางที่กรุงเทพเป็นเงินรายละ 35,000 บาทแต่แผนการนำพาครั้งนี้เกิดผิดพลาด เนื่องจากนายจ่อซออูและเด็กชายอ่องซึ่งทั้งสองเป็นคนช่วยเหลือพาคนต่างด้าวและคอยดูต้นทาง แต่ทำงานผิดพลาดถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในระหว่างที่ออกไปหาขนมปังมาให้กลุ่มแรงงานที่หิวอาหารอย่างหนัก หลังจากแรงงานทั้งหมดไม่ได้รับประทานอาหารเป็นเวลานานหลายชั่วโมงและครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มขบวนการช่วยเหลือพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งผู้กระทำผิดมีอายุเพียง 13 ปี แต่กลับมีความชำนานในการช่วยเหลือซ่อนเร้นแรงงานเถื่อนเทียบขั้นกลุ่มผู้นำพาระดับผู้ใหญ่
ล่าสุด เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหานายจ่อซออูและเด็กชายอ่อง (แยกสำนวนเยาวชน) ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายส่วนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้งหมดที่ถูกจับกุมตัวได้ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรแม่สอดจังหวัดตาก