กรณีเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 8 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับเเจ้งเหตุยิงกัน บริเวณถนนเลียบคลองบางไผ่ ซอยบางรักใหญ่ 25 หมู่1 ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เบื้องต้น เพื่อนนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์รัตนาธิเบศร์ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น พบเพียงคราบเลือดจำนวนมากอยู่ที่บริเวณถนนหน้าบ้าน แต่ชาวบ้านได้นำทรายมากลบไว้ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ต่างยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ระทึกที่เพิ่งจะเกิดขึ้น จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตคือนายทวีศักดิ์ สุขอยู่ หรือ ตี๋ อายุ 35 ปี อาชีพช่างสัก สภาพศพสวมเสื้อยืดเเขนสั้น กางเกงยีนส์ขาสั้น ถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกจำนวน 1 นัด
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายสิปปวุฒิ พรหมประสิทธิ์ หรือ นัท อายุ 28 ปี อาชีพช่างซ่อมปืน หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์เก๋งหลบหนีไปทางถนนรัตนาธิเบศร์ ขาเข้า มุ่งหน้าแยกเเคราย
ทีมข่าวได้ข้อความจากเฟชบุ๊กของนายนัท คนก่อเหตุ ที่โพสต์หลังก่อเหตุ 2 โพสต์ โพสต์แรกว่า "มึงเป็นใคร กูไม่รู้หรอก มาหาเรื่องกู กูป้องกันตัว"
และอีกข้อความว่า "รู้สึกขอบคุณ ให้มันเป็นเรื่องของกฎหมายนะครับ ผมสังหารเขาจริง ด้วยมือของผมเอง ไม่โทษใครผมทำเอง ผมขออโหสิกรรมกับคนที่เสียชีวิตด้วย เราไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อน เราไม่รู้จักกันมาก่อน ถ้าคุณไม่มาหาเรื่องผมถึงบ้าน มันคงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าผมไม่ทำผมก็ต้องโดนพวกคุณเหมือนกัน อย่าพูดว่ามาคุย ผมรู้จักใครบ้างในนั้นผมไว้ใจใครได้บ้าง มาปิดมาล้อมมากันเป็น 10 #ผมยอมรับผิดทุกอย่างให้มันเป็นเรื่องของกฎหมายอย่าโกรธ อย่าเกลียดกันเลยครับให้มันจบแต่เพียงเท่านี้" พร้อมแนบภาพศพผู้ตายด้วย
วันที่ 9 พ.ย. 64 นายสนธยา รุ่งเรือง หรือ เก้า อายุ 34 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า 3 วันก่อนเกิดเหตุ นายวัชรพงษ์ เพื่อนในกลุ่มตัวเองได้มาบอกตัวเองว่า นายนัท ผู้ก่อเหตุ เขาจะเอาปืนมาตบหน้าตัวเอง ตอนที่นั่งพูดคุยกัน ตัวเองก็นั่งอยู่กับเพื่อนหลายคนในวงเหล้า รวมทั้งนายทวีศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ตอนนั้นนายทวีศักดิ์ได้ฟังเรื่องราวแล้วก็เกิดความโมโหแทนตัวเอง จากนั้นนายทวีศักดิ์จึงแนะนำให้ไปคุยกับนายนัท เพราะไม่อยากให้ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องกัน
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. นายทวีศักดิ์ขับรถมอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าไปหานายนัทที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยบ้านหลังกล่าวเป็นบ้านคนรู้จักนายนัท ส่วนตัวเอง และนายตั๋ม เพื่อนอีกคน ได้ขับรถตามหลังนายนัทไปที่บ้านหลังดังกล่าวประมาณ 5 นาที พอไปถึงที่บ้านหลังดังกล่าว ตัวเองก็เห็นทวีศักดิ์กำลังยืนคุยกับนายนัทที่หน้าบ้าน ตัวเองยืนอยู่กับนายตั๋มที่หน้าถนน ห่างออกมาประมาณ 5 เมตร จากนั้นตัวเองและนายตั๋มจึงเห็นนายนัทถืออาวุธปืนอยู่ในมือ นายตั๋มจึงบอกกับนายนัทว่า "ใจเย็น ๆ เก็บปืนก่อน มาคุยดี ๆ" จากนั้นนายนัทก็ทำท่าไม่พอใจ แล้วเขาคิดว่าพวกตัวเองจะมารุมทำร้ายเขา จากนั้นเขาก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่กลางอกของนายทวีศักดิ์ 1 นัด
นายทวีศักดิ์จึงเดินออกมาหาพวกตัวเองแล้วบอกว่าเขาถูกยิง ก่อนที่ทวีศักดิ์เขาจะล้มลงหมดสติที่กลางถนน ส่วนนายนัท คนก่อเหตุ ได้วิ่งออกหลังบ้าน แล้วขับรถยนต์เก๋งออกจากทางด้านหลังบ้าน ตนยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับนายนัทมาก่อน ตอนเกิดเหตุพวกตัวเองก็ไม่มีอาวุธไป ส่วนเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ เขารู้จักทั้งฝั่งพวกตัวเองและฝั่งคนก่อเหตุ
กรณีที่หลังก่อเหตุแล้วนายนัทโพสต์เฟชบุ๊กว่าพวกตัวเองไปล้อมเขาเป็น 10 คน ถ้าเขาไม่ก่อเหตุ พวกตัวเองก็จะทำเขา กรณีนี้ตัวเองขอยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องจริง ตอนเกิดเหตุตัวเองไปกันแค่ 3 คนเท่านั้น กระทั่งหลังเกิดเหตุ จึงมีเพื่อนในกลุ่มตามมาที่เกิดเหตุ เพื่อนำตัวผู้ตายส่งโรงพยาบาล แล้วขอชี้แจงว่าฝั่งตัวเองไม่ได้มีการเข้าไปรุมผู้ก่อเหตุก่อนแน่นอน ตัวเองไม่รู้จัก ไม่เคยคุยกับคนก่อเหตุมาก่อน เหตุครั้งนี้ตัวเองเสียใจที่เพื่อนตัวเองมาเสียชีวิต และอยากให้ตำรวจรีบจับกุมตัวนายนัทให้ได้โดยเร็ว ถ้ามีโอกาสเจอนายนัท ตัวเองก็อยากจะถามเขาว่ามายิงเพื่อนตัวเองทำไม พวกตัวเองไม่ได้ตั้งใจจะไปทำร้ายเขา แค่ตั้งใจจะเข้าไปเคลียร์
นายสุดใจ สุขอยู่ อายุ 60 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต บอกว่า ช่วงเย็นก่อนเกิดเกตุ ลูกชายได้ไปกินเหล้ากับเพื่อน ๆ กระทั่งลูกชายทราบว่า นายนัท ผู้ก่อเหตุ จะมาทำร้ายนายเก้า เพื่อนลูกชาย ด้วยการใช้ปืนตบหน้า ลูกชายจึงอาสาไปเคลียร์ กระทั่งถูกยิงเสียชีวิต
สำหรับลูกชายตัวเองไม่เคยมีเรื่องกับใคร เป็นคนรักเพื่อน ชอบเคลียร์ปัญหาให้เพื่อน กรณีหลังเกิดเหตุที่คนก่อเหตุโพสต์ว่าก่อเหตุเพราะเป็นการป้องกันตัว ตัวเองคิดว่าไม่เป็นความจริง เพราะลูกชายตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องใคร แล้วลูกชายตัวเองก็ไม่มีอาวุธ ส่วนคนก่อเหตุนั้นเขาพกอาวุธปืนไว้แล้ว แล้วฝั่งลูกชายตัวเองก็ไม่ได้ไปปิดล้อมคนตาย ในบ้านหลังเกิดเหตุถึง 10 คนอีกด้วย กลุ่มลูกชายตัวเองไปกันแค่ 3 คนเท่านั้น
เหตุการณ์ครั้งนี้ตัวเองอยากให้คนก่อเหตุตายตามลูกชายไปเลย เพราะถ้าเขาอยู่เขาก็ไปทำกับคนอื่นอีก สำหรับก่อนเกิดเหตุลูกชายได้ซื้อกับข้าวมาให้ตัวเองทาน ตัวเองจึงถามลูกว่าแล้วเองจะกลับมาทานด้วยไหม ลูกลายจึงตอบว่า "ไม่รู้จะได้กลับมาทานหรือเปล่า" ถ้าเจอหน้าคนก่อเหตุ อยากถามเขาว่า ยิงลูกชายตัวเองทำไม
ความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายตับนายนัท ในข้อหาฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
โดยนายนัทยังเคยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 ในข้อหามีไว้และครอบครองอาวุธปืนเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย
นายแมน (นามสมมติ) เจ้าของบ้าน หลังเกิดเหตุ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตัวเองไม่เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากตัวเองนอนอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน ตัวเองได้ยินแต่เสียงผู้ก่อเหตุ และผู้นายมีปากเสียงกันเสียงดัง แต่จับใจความไม่ได้ จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แล้วก็ได้ยินเสียงคนก่อเหตุขับรถเก๋งออกจากบ้านตัวเองไป สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าตัวเองก็ตกใจมาก เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว มาเกิดขึ้นในบ้านตัวเอง สำหรับคนก่อเหตุเคยมาบ้านตัวเองอยู่บ่อยครั้ง มานั่งเล่นที่บ้านตัวเอง แต่ตัวเองก็ไม่ได้สนิทกับเขา แค่รู้จักกันเท่านั้น แล้วตัวเองก็รู้ว่าผู้ก่อเหตุรายนี้เคยถูกดำเนินคดีข้อหามีไว้และครอบครองอาวุธปืนเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย
ในฐานะคนรู้จัก ตัวเองก็อยากให้นายนัทเขามามอบตัวกับตำรวจ เท่าที่ตัวเองรู้จักนายนัทมา เขาก็เป็นคนเงียบ ๆ กรณีที่หลังก่อเหตุนายนัทผู้ก่อเหตุเขาโพสต์เฟชบุ๊กว่าฝั่งคนก่อเหตุมาล้อมเขาเป็น 10 คน ตัวเองก็ขอยืนยันว่าเมื่อคืนนี้ตัวเองเห็นกลุ่มคนตายมากันแค่รถมอเตอร์ไซค์ 2 คันเท่านั้น ส่วนปมเกิดเหตุที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีเรื่องกันนั้นตัวเองก็ไม่รู้
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายังบ้านของนายสิปปวุฒิ พรหมประสิทธิ์ ผู้ก่อเหตุ ที่ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยพบว่าบ้านหลังดังกล่าวปิดประตูใส่กุญแจสนิท และไม่มีใครอยู่ในบ้าน
นายไมค์ (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของผู้ก่อเหตุ บอกว่า เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 21.00 น. ตัวเองก็เห็นตำรวจมาที่บ้านของนายนัท เพื่อมาสอบถามแม่ของนายนัท แต่ก็ไม่เจอตัวนายนัทแต่อย่างใด ส่วนตัวเองมาทราบข่าวช่วงเช้าวันนี้ว่านายนัทไปก่อเหตุฆ่าคนตาย ยอมรับว่าตกใจมาก ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะไปก่อเหตุแบบนี้ สำหรับบ้านนายนัท อยู่กัน 2 คน คือนายนัทกับแม่ของเขา ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยสนิทกับครอบครัวนี้ เพราะเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ส่วนนายนัทก็เป็นคนเงียบ ๆ เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นที่นายนัทขับรถออกจากล้านไปก็ไม่เห็นเขากลับมาที่บ้านอีก
