หนุ่มโดนแทงตายปริศนาคาบ้าน เมียปัดฆ่า วงจรปิดจับชัดซ้อนรถผัวเก่าส่งก่อนเจอศพ (คลิป)

จากกรณีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆาตกรรมที่บ้านใน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ตรวจสอบบริเวณลานหญ้าหน้าบ้าน พบศพอนุชา ปลอดอ่อน หรือ ยอด อายุ 40 ปี ชาว อ.ท่าศาลา สภาพนอนคว่ำหน้า ร่างกายและศีรษะโชกไปด้วยเลือด มีบาดแผลถูกตีศีรษะด้วยของแข็ง ส่วนตามลำตัวมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดหลายจุด โดยเฉพาะหน้าอกซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสอบ น.ส.วันวิสา เจดีรัตน์ หรือ ฝน อายุ 28 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นแฟนสาวของผู้ตาย เนื่องจากมีข้อมูลทางการสืบสวนว่า น.ส.ฝน คบหากับนายคิง ก่อนที่นายคิงจะติดคุกคดียาเสพติด จากนั้น น.ส.ฝน มาคบหากับนายยอด ผู้ตาย

วันที่ 5 พ.ย. 64 ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบ้านไม้ยกสูง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชได้เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยบริเวณพื้นหญ้าหน้าบ้านซึ่งเป็นจุดที่พบศพ ยังมีกองเลือดขนาดใหญ่ติดอยู่ที่ดินและหญ้า

ขณะที่กล้องวงจรปิดใกล้บ้านของนางน้อยจับภาพขณะนายคิงขับรถจักรยานยนต์ โดยมี น.ส.ฝน นั่งซ้อนท้ายผ่านไป เวลา 19.33 น. คาดว่าเป็นช่วงที่นายคิงมาส่ง น.ส.ฝน ที่บ้านน้า จากนั้นเวลา 19.36 น. นายคิงขับรถออกมาคนเดียว

นางน้อย (นามสมมติ) น้าสะใภ้ของ น.ส.วันวิสา หรือ ฝน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็น น.ส.ฝน อยู่ที่บ้านตนซึ่งห่างจากบ้านของ น.ส.ฝน ที่เป็นจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จากนั้นช่วงค่ำนายคิง แฟนเก่า น.ส.ฝน ขับรถจักรยานยนต์มารับเพื่อไปจ่ายค่างวดรถที่ร้านสะดวกซื้อ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที นายคิงก็ขับรถจักรยานยนต์มาส่ง น.ส.ฝน ที่บ้าน จากนั้น น.ส.ฝน ก็นั่งกินข้าวกับตนประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนขอตัวกลับบ้าน

หลังจากนั้นไม่นาน น.ส.ฝน เดินกลับมาบอกว่าพบนายยอดนอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน ตนจึงเดินไปดูพบว่านายยอดเสียชีวิตแล้ว
โดย น.ส.ฝน ยืนยันไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อไปถึงนายยอดก็นอนแน่นิ่ง มีเลือดเต็มตัวแล้ว ส่วนตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อเหตุ ก่อนหน้านี้ น.ส.ฝน เคยคบหากับนายคิง แต่เลิกรากันไปแล้ว ที่ยังมารับส่งเพราะยังเป็นเพื่อนกัน ส่วนนายยอด ผู้ตาย ก็เคยคบหากับ น.ส.ฝน แต่ตนไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ในขณะนี้

ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดชลธาราม อ.ท่าศาลา มีการตั้งศพนายอนุชา ปลอดอ่อน หรือ ยอด อายุ 40 ปี นางสาวสุพัตรา ปลอดอ่อน อายุ 42 ปี พี่สาว เล่าว่า เมื่อวานนี้เวลา 18.00 น. น้องชายขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านใน อ.ท่าศาลา ก่อนแวะที่บ้านของตนที่บริเวณสี่แยกเบญจมฯ ในเวลา 19.00 น. ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร โดยน้องชายแวะมาซ่อมรถจักรยานยนต์อีกคันที่จอดอยู่ที่บ้านของตน เพราะจะนำรถที่ตัวเองขับไปคืน น.ส.ฝน แฟนสาว เวลาประมาณ 19.45 น. ได้ยินน้องชายคุยโทรศัพท์ คาดว่า น.ส.ฝน โทรศัพท์มาตามให้ออกไปหา ก่อนน้องจะขับรถออกไป

เวลา 21.00 น. ทราบจากญาติว่าน้องเสียชีวิต ตนจึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงก็เจอ น.ส.ฝน แต่เจ้าตัวอ้างว่าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น มาเจอตอนน้องชายเสียชีวิตแล้ว โดยตนไม่เชื่อว่า น.ส.ฝน จะไม่รู้เรื่อง เนื่องจากเมื่อวานนี้ น.ส.ฝน เป็นคนโทรศัพท์ตามให้น้องชายตนไปหาทั้งวัน

นางสาวสุพัตรา กล่าวต่อว่า น้องชายคบหากับ น.ส.ฝน ประมาณ 5-6 เดือน จากนั้นก็ซื้อรถกระบะด้วยกัน น้องชายเป็นคนวางเงินดาวน์จำนวน 30,000 บาท จากนั้นก็ช่วยกันผ่อน แต่ใช้ชื่อ น.ส.ฝน เป็นเจ้าของรถ หลังจากนั้นเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา น้องชายถูกเพื่อนซึ่งชื่อคิง คนละคนกับแฟนเก่าฝนแต่ชื่อเหมือนกัน หลอกให้เอารถไปจำนำ ทำให้ น.ส.ฝน ไม่พอใจ และคิดว่าน้องชายมีส่วนรู้เห็นในการนำรถไปจำนำ จึงพยายามทวงรถคืนจากน้องชาย ทำให้น้องชายก็ค่อนข้างเครียด และมีปัญหากับ น.ส.ฝน มาประมาณ 1 เดือนแล้ว

ส่วนนายคิง แฟนเก่าของ น.ส.ฝน ตนไม่รู้จัก แต่น้องชายเคยบอกว่า น.ส.ฝน เคยมีแฟนมาก่อนและเลิกกันไปแล้ว ตนเชื่อว่า น.ส.ฝน รู้เรื่องทั้งหมดและอาจจะมีส่วนรู้เห็นด้วย ส่วนผู้ก่อเหตุคือใครตนไม่มั่นใจ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนตามขั้นตอน

จากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายคิง แฟนเก่าของน.ส.ฝน พบกับนางสุภาภรณ์ ยิ่งประดิษฐ์ อายุ 59 ปี แม่ของนายคิง กล่าวว่า ลูกชายคบหากับ น.ส.ฝน มาประมาณ 1 ปี ก่อนจะติดคุกในคดียาเสพติดประมาณ 5-6 เดือน โดยเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งหลังออกมา ลูกชายก็ยังไปอยู่กับ น.ส.ฝน ตามปกติ

เมื่อวานนี้ ลูกชายและ น.ส.ฝน กลับมาที่บ้านช่วงบ่าย ก่อนออกไปในเวลา 17.00 น. หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับเข้ามาอีกเลย ส่วนตัวเพิ่งทราบข่าวที่นายอนุชา หรือ ยอด ถูกแทงเสียชีวิต ที่หน้าบ้าน น.ส.ฝน โดยตนไม่รู้จักผู้ตาย ไม่ทราบว่าเป็นแฟนใหม่ น.ส.ฝน เพราะอีกฝ่ายไม่เคยเล่าให้ฟัง และลูกชายก็ไม่เคยพูดว่าเลิกกับ น.ส.ฝนแล้ว ตนยอมรับว่าลูกชายไม่ได้เป็นเด็กดีเท่าที่ควร แต่มองว่าลูกไม่น่าจะฆ่านายยอด เพราะที่ผ่านมาไม่เคยทำร้ายใครก่อน โดยหากได้เจอลูกชายตนก็จะสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะส่วนตัวก็ไม่สบายใจหลังทราบข่าว

นอกจากนี้ ญาติผู้ตายได้โทรศัพท์คุยกับ น.ส.ฝน แฟนของผู้ตาย โดยน.ส.ฝน อ้างว่าไม่เห็นรอยแทงในช่วงแรก เห็นแค่เลือดท่วมตัวช่วงที่ไปจับพลิกตัวผู้ตาย ยืนยันไม่รู้ปมเหตุ เพราะไม่เห็นเหตุการณ์ พร้อมทั้งร้องไห้ระบุว่าอยากจะตายตามนายยอดไป เพราะถึงพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ ไม่กล้าสู้หน้าใครอีกแล้ว

ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เรียกสอบพยานทั้ง ชาวบ้านที่ขับรถผ่านช่วงเกิดเหตุ น.ส.วันวิสา เจดีรัตน์ หรือ ฝน แฟนผู้ตาย และนางน้อย (นามสมมติ) น้าสะใภ้ น.ส.ฝน โดยพนักงานสอบสวนระบุว่า กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุต่อไป