แรงงานหนุ่มสาวชาวพม่า ทะลักชายแดนเข้าไทยต่อเนื่อง ช่วงเช้ามืดจับได้ 54 ราย ที่ชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี เตรียมผลักดันออกนอกประเทศตามนโยบาย
จากนโยบายของ พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.กกล. สุรสีห์ ผบ.พลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี ที่มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ตชด. ตม. ฝ่ายปกครอง ร่วมกันป้องกันการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวเมียนมา ตามแนวตะเข็บชายแดน ด้านจังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเมียนมา ระยะทางกว่า 371 กิโลเมตร ประกอบกับในห้วงเวลาที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมือง ในพื้นที่ชายแดน ต.บ้านเก่า อ.เมือง ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค และ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้บ่อยครั้ง จึงมอบนโยบายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่บูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว
ล่าสุด เมื่อเวลา 06.00 น พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ ผกก.รรท.สภ.สังขละบุรี ได้รับการประสานจาก พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ว่า กองกำลังสุรสีห์ โดยหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า และทหารพราน ร้อย 1402 ได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 54 ราย (ชาย 32 หญิง 22 ) บริเวณชายป่าริมถนนสายสังขละบุรี-บ้านห้วยมาลัย ในพื้นที่ (ห้วยลึก) ม.2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ขณะจะเดินไปยังริมแม่น้ำบี่คลี่ บริเวณประตูเมือง เพื่อรอเรือมารับ เดินทางต่อไปยัง อ.ทองผาภูมิ เพื่อหลบหลีกการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจบนเส้นทาง 323 สังขละบุรี - ทองผาภูมิ ก่อนจะมีขบวนการมารับเพื่อเดินทางเข้ามาไปพื้นที่ชั้นในของประเทศ
พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ จึงได้ประสาน นายปกรณ์ กรรณวัลลี นภอ.สังขละบุรี ร.ต.อ.ประทีป ทองยอดดี รอง สว.ตม.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท อรรถพล แพสอาด ผบ.ร้อย ตชด.ที่134 นำกำลังเจ้าหน้าที่ และรถยนต์ไปรับตัวแรงงานทั้งหมดมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.สังขละบุรี พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการตรวจวัดอาการไข้ผลอุณหภูมิในร่างกายพบไม่เกิน 37.5 องศา
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ว่าพวกตนเองออกเดินทางมาจากเมืองพยาตองซู ประเทศเมียนมา ตรงข้ามด่านเจดีย์สามองค์ เมื่อ 3 วันที่แล้ว โดยเดินเท้ามาจากชายแดน ตอนเช้าวันพุธที่ 28 ต.ค. โดยมีคนนำพาเป็นชายชาวเมียนมาจำนวน 3 คน ตลอดระทางทางพักค้างคืนในป่า โดยอาศัยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและกาแฟ รวมทั้งเกลือแร่ผงละลายน้ำในลำห้วยกลางป่าดื่ม เพื่อให้พลังงาน ก่อนจะลงเรือที่ริมแม่น้ำซองกาเลียเมื่อคืนที่ผ่านมา และเดินเท้าต่อมาถึงจุดที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ เมื่อตอนเวลา 05.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปพบเป็นช่วงเวลาที่หยุดพักเพื่อจะเดินทางต่อ
แรงงานทั้งหมดมาจากหลายเมืองในประเทศเมียนมา โดยการเดินทางมาทำงานได้ติดต่อผ่านนายหน้าจัดหางาน ก่อนจะมาพบกันที่เมืองพยาตองซู โดยเสียค่าใช้จ่ายรายละ 24,000 – 28,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง โดยจุดหมายปลายทางส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร (มหาชัย) สมุทรสงคราม (แม่กลอง) กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่ที่พบอยู่ในช่วงวัยรุ่น-วัยแรงงาน อายุระหว่าง 19-30 ปี จากการพูดคุยกับแรงงานพบว่า จากสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่มีงานทำ บวกกับสถานการณ์ในประเทศเมียนมา ที่ทางการได้มีการจับชายฉกรรจ์ที่อยู่ในรัฐทางด้านตะวันตกของประเทศไปเป็นทหาร เพื่อใช้ในการปราบปรามชนกลุ่มน้อย และ กลุ่มกองกำลังพิทักษ์พลเรือน (PDF) สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนคนหนุ่มสาวในพื้นที่ จึงมีความพยายามหนีเข้ามาทำงานในประเทศไทย
หลังจากการจับกุมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมหารือในการแก้ไขปัญหา ผลการประชุมมีมติเห็นควรให้ผลักดันแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวนดังกล่าวกลับประเทศทันที ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการแนวทางการบริหาร พื้นที่ชายแดนในห้วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากการจับกุมกลุ่มแรงงานในครั้งนี้ไม่มีผู้นำพา อีกทั้งจุดที่ถูกจับกุมอยู่ห่างจากชายแดนไทย-เมียนมา เพียงแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้น
ทั้งนี้พบว่าสถิติการจับกุมแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 18-30 ตุลาคม 2564 รวมทั้งหมด 11 คดี เกิดเหตุในท้องที่ สภ.เมือง 2 คดี สภ.ไทรโยค 3 คดี สภ.ทองผาภูมิ 1 คดี สภ.ท่าม่วง 1 คดี และ สภ.สังขละบุรี 4 คดี สามารถจับกุมแรงงานชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้ามาได้กว่า 537 คน เป็นชาย 298 คน หญิง 239 คน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมานั้น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายขณะลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำเขื่อนแม่กลองและเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ที่ห้องประชุมสำนักชลประทานที่ 13 อ.ท่าม่วง โดยเน้นย้ำให้จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะชายแดนด้านจังหวัดกาญจนบุรี เพราะประเทศไทยถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ลดระดับด้านการป้องกันการค้ามนุษย์ลงมาอยู่ในกลุ่ม Tier 2 เฝ้าระวัง
จากนโยบายดังกล่าวนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.เฉลิมชัย ชัดใจ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.กก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) จึงสั่งการให้ข้าราชการทุกสังกัดสนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้ามาราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเคร่งครัดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเน้นย้ำบริเวณชายแดน 5 อำเภอที่มีแนวเขตติดกับประเทศเมียนมา ประกอบด้วย อ.ด่านมะขามเตี้ย อ.เมืองกาญจนบุรี อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ที่มีระยะทางชายแดนรวมกันประมาณ 371 กิโลเมตร มีช่องทางเข้าออก 43 ทาง
