ปริศนาคดีสาวหายตัว ญาติโวยตำรวจรู้ชื่อศพ 24 วันไม่แจ้ง ผกก.รับบกพร่อง (คลิป)

27 ต.ค. 64

กรณี น.ส.กาญจน์สุดา จุมปาลี อายุ 43 ปี เดินทางเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ว่าหลานสาวชื่อ น.ส.จิรารัตน์ ทรงพูล หรือ "น้องเจน" อายุ 25 ปี ได้หายออกจากหอพักแห่งหนึ่งซอยชมจันทร์ ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.64 พร้อมกับประกาศตามหาทางสื่อโซเชียลฯ ในจังหวัดเชียงใหม่

957325245731

ต่อมาวันที่ 26 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ ได้นำหมายเลขทะเบียนรถไปตรวจพบว่าตรงกับหมายเลขทะเบียนรถคันหนึ่ง ประสบอุบัติเหตุเมื่อคืนวันที่ 3 ต.ค.64 เวลา 02.20 น. ในพื้นที่สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ ส่วนผู้ขับขี่เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ได้นำตัวส่งรพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ในตัวไม่พบเอกสารใด ๆ จึงไม่ทราบว่าเป็นใคร ศพผู้เสียชีวิตได้เก็บไว้ที่แผนกนิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ 

ล่าสุดวันที่ 27 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ถนนมหิดลตรงข้ามร้านลุงรัตน์ไก่อบฟาง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยลักษณะถนนก่อนจุดเกิดอุบัติเหตุเป็นช่วงทางโค้ง ที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยเศษกระจกอยู่บนทางเดิน

883758

ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับ น.ส.กาญจน์สุดา จุมปาลี อายุ 43 ปี ป้าของผู้ตาย เปิดใจว่า ตนได้คุยกับหลานสาวครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 64 ทางแชตเฟซบุ๊ก ซึ่งคุยกันปกติ โดยหลานไม่ได้บอกว่าจะออกไปไหน กระทั่งโทรศัพท์หาก็ไม่รับ และโทรศัพท์หาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 64 ไม่รับโทรศัพท์ กระทั่งวันที่ 11 ตุลาคม 64 โทรศัพท์ปิดเครื่อง ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย แต่ก็ยังไม่เอะใจเพราะคิดว่าหลานสาวไปอยู่กับเพื่อน และระหว่างนั้นก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดต่อมาหาตนด้วย 

ต่อมาตนได้รับโทรศัพท์จากแม่ของน้องเจน ในวันที่ 24 ตุลาคม 64 ที่อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต บอกว่าไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ และรู้สึกกังวลใจ ตนจึงมีการเดินทางไปที่สภ.เมืองเชียงใหม่ ในวันที่ 25 ตุลาคม 64 เพื่อที่จะลงบันทึกประจำวัน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวหลานสาวให้ กระทั่งช่วงเช้ามืดเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่ แจ้งว่ามีการตรวจสอบจากทะเบียนรถ ที่หายไปกับหลานสาว จึงได้ข้อมูลว่าพบศพที่เก็บอยู่ที่โรงพยาบาล ตนจึงไปดูก็พบว่าเป็นศพของหลานสาวจริง จึงเดินทางไปรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศล

โดยตนยังคาใจหลายเรื่อง ทั้งเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และอยากจะดูกล้องวงจรปิดในวันที่เกิดเหตุว่าแท้จริงแล้วหลานสาวประสบอุบัติเหตุจากการล้มเองหรือมีคู่กรณีชนแล้วหนีไปหรือไม่ ซึ่งหากหลานสาวล้มเอง ตนก็ไม่ติดใจอะไร แต่หากมีคู่กรณีตำรวจต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

477088663430

"ที่ยังติดใจอยู่มากก็คือ การทำงานของตำรวจ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุและมีทรัพย์สินของหลานสาวที่ติดตัวไปด้วย ก็คือโทรศัพท์จำนวน 2 เครื่อง รวมถึงยังมีกระเป๋าเงินที่มีเอกสารตั๋วจำนำอยู่ด้านใน และระบุชื่อของหลานสาวด้วย แต่ทำไมไม่มีการสืบหาตัวบุคคล และไม่ติดต่อหาญาติให้ทราบ ปล่อยจนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านมากว่า 24 วัน หากไม่เดินทางเข้าแจ้งความที่สภ.เมืองเชียงใหม่ ก็คงไม่ทราบว่าหลานสาวเสียชีวิต" น.ส.กาญจน์สุดา กล่าว 

495485

โดยก่อนเกิดเหตุมีลางบอกเหตุที่ตนรู้สึกแปลก ๆ อยู่ 2 เรื่อง คือเมื่อ 3 วันก่อนที่หลานสาวจะประสบอุบัติเหตุ ตนกินขนมที่หลานสาวชอบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยกิน รวมไปถึงที่บ้านมีนกแสกร้อง ซึ่งหลังจากเกิดเหตุไม่ได้มีวิญญาณของหลานสาวมาหา ตนอยากจะบอกหลานสาวว่า อยากให้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกล้องวงจรปิดมาให้ครอบครัวดู จะได้หายข้อสงสัย และขอให้หลานสาวไปสบายไม่ต้องห่วง ส่วนลูกสาวตนจะเป็นคนช่วยดูแลให้เอง

711611

ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปยังวัดม่วงถ้อย ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของน้องเจน ซึ่งจะมีการสวดพระอภิธรรมศพคืนนี้ และฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติ และชาวบ้าน เดินทางมาช่วยงานจำนวนมาก

420454

ทีมข่าวได้คุยกับ นางสาวประภาศิริ ทรงมูล อายุ 43 ปี แม่ของเจน เปิดเผยว่า ตนไปทำงานที่จังหวัดภูเก็ตมาเป็นระยะเวลานานแล้ว นานครั้งจะกลับมาที่เชียงใหม่ แต่มีการคุยกับลูกสาวเป็นประจำทุกวัน และฝากฝังลูกสาวกับป้าให้เป็นคนช่วยดูแล ตนคุยกับลูกสาวผ่านทางเฟซบุ๊กวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 30 กันยายน 64 จากนั้นก็ไม่มีการตอบรับจากลูกสาว พยายามโทรศัพท์หาตลอด แต่ก็ไม่รับสาย จนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 64 โทรศัพท์น่าจะแบตหมด และโทรไม่ติดอีกเลย ตนพยายามจะสอบถามญาติ แต่ก็ไม่มีใครติดต่อลูกสาวได้

752444

ทั้งนี้ ตนจึงโทรศัพท์มาหาป้าของเจน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 64 ให้ช่วยตามหา และไปแจ้งความคนหาย เพราะคิดว่าผิดสังเกต ขณะนั้นคิดว่าอาจจะถูกลักพาตัว หรือถูกนำไปกักขังหรือไม่ แต่สุดท้ายได้รับข่าวว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ก็ตกใจเป็นอย่างมาก และตนยังข้องใจในเรื่องที่ตำรวจไม่ติดต่อหาญาติ และข้องใจเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นว่าล้มเองจริงหรือไม่ ตอนนี้ตนยังทำใจไม่ได้ เพราะเป็นลูกสาวคนเดียว อยากให้ลูกมาเข้าฝันเพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตให้กระจ่าง

466722

ทีมข่าวยังได้เดินทางไปพูดคุยกับ นายนพดล ผิว และนายกรินทร์ชัย เหลืองสมบูรณ์ กู้ภัยหยาดฟ้า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 64 เวลาประมาณ 02.12 น. ตนได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ ว่ามีจักรยานยนต์เสียหลักล้มเอง โดยได้รับแจ้งจากพลเมืองดี

เมื่อไปตรวจสอบก็พบว่าร่างของผู้บาดเจ็บอยู่บนถนนส่วนรถจักรยานยนต์อยู่บนฟุตพาท ซึ่งห่างกันประมาณ 10 เมตร โดยเมื่อไปถึงก็รีบปฐมพยาบาลลักษณะผู้บาดเจ็บซึ่งมีบาดแผลบริเวณศีรษะ เป็นลักษณะแผลบากยาว มาถึงบริเวณจมูกและมีเลือดไหลจำนวนมาก ขาซ้ายหัก และมีรอยถลอกตามตัวเล็กน้อย จึงรีบห้ามเลือดและนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยขณะนั้นไม่ได้พบคู่กรณีในที่เกิดเหตุ คาดว่าเสียหลักแล้วชนกับเสาอย่างแรง

170767828096

ส่วนเอกสารที่พบขณะนั้น มีกระเป๋าสะพายข้างเพียงหนึ่งใบ และทำการปลดออกจากโซ่คล้องกระเป๋าส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อ เนื่องจากต้องรีบนำคนเจ็บไปส่งยังโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด จึงยังไม่ทราบชื่อ ซึ่งหลังจากตนนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ที่ห้องฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็รับช่วงต่อ ตนไม่ทราบหลังจากนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง กระทั่งมาทราบว่าเกิดเรื่องราวแบบนี้ ก็รู้สึกตกใจเพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดกรณีแบบนี้ ตนยอมรับว่าบริเวณจุดดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อย ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ที่แหกโค้งแล้วเสียหลักชนเสา

945163

พ.ต.อ.นฤบาล จิตทยานันท์ ผกก.สภ.แม่ปิง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนทำรายงานขึ้นมาให้ตนทราบ หากพบว่ามีความผิดจริง ตนก็จะเอาผิดต่อไป ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนรายงานว่าผู้เสียชีวิตประสบอุบัติเหตุล้มเอง ไม่มีคู่กรณี และบริเวณจุดเกิดเหตุเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อยครั้ง ส่วนสาเหตุทำไมไม่มีการแจ้งญาติ ทั้งที่มีเอกสารอยู่กับผู้ตาย จะต้องรอสอบสวนอีกครั้ง

ส่วนที่ญาติตั้งข้อสงสัยว่า ผู้เสียชีวิตเกิดอุบัติเหตุจากการคู่กรณีชนนั้น ขณะนี้ตนก็ได้เร่งให้ฝ่ายสืบสวนดำเนินการติดตามหากล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อที่จะนำไปให้ญาติของผู้เสียชีวิตดู แต่หากมีคู่กรณีที่เฉี่ยวชนก็ต้องมีการติดตามหาตัวบุคคลมาดำเนินคดี ขณะนี้ยังไม่ได้คุยหรือติดต่อไปยังญาติของผู้เสียชีวิต รอให้ญาติประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้เสร็จสิ้นก่อน และจะมีการเรียกมาพูดคุยทำความเข้าใจ และตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดอีกครั้ง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส