โจ๋น้อยใจมือถือพังไม่ได้เครื่องใหม่โดดบึงดับ อึ้งยัดหิน 10 กก.ใส่เป้ถ่วงศพ

กรณีตำรวจสภ.แก่งหางแมว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสานจันทบุรี รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้สูญหายภายในสระน้ำ บ้านคลองเรือแตก หมู่ 8 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็พบร่างผู้สูญหายจมน้ำเสียชีวิตอยู่ก้นสระ ห่างจากฝั่งไปประมาณ 5 เมตร ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายปรีชา หรือ น้องอาร์ม อายุ 18 ปี

ทั้งนี้ สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ที่ด้านหลังสะพายเป้สีน้ำเงิน และมีสายรัดแบบใช้ตัวล็อกรัดที่ช่วงหน้าอกและช่วงเอวเอาไว้แน่น เมื่อเปิดกระเป๋าเป้ออกมาดูพบมีก้อนหินขนาดใหญ่ จำนวน 3-4 ก้อน น้ำหนักประมาณ 10 กก. ยัดใส่ไว้ด้านใน ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12-15 ชม.

ล่าสุดวันที่ 27 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านคลองเรือแตก หมู่ 8 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ตาย ตั้งอยู่กลางหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยป่ายาง โดยบ้านหลังนี้อาศัยอยู่ร่วมกันทั้งหมด 4 คน ได้แก่ พ่อแม่ของผู้ตาย ย่าของผู้ตาย และผู้ตาย ผู้ตายเป็นลูกคนเล็ก มีพี่ชายทั้งหมด 2 คน อาศัยอยู่อีกพื้นที่หนึ่ง

นอกจากนี้ ห่างจากบ้านของผู้ตายประมาณ 15 เมตร คือจุดที่เกิดเหตุ เป็นบ่อน้ำกลางหุบเขา ความกว้าง 40x10 เมตร ความลึกเท่ารถแบ็กโฮ 2 คัน หรือประมาณ 6 เมตร บริเวณริมสระน้ำมีเครื่องสูบน้ำ ก่อนที่จะเกิดเหตุผู้ตายได้แขวนไฟฉายส่องกบไว้เหนือเครื่องสูบน้ำ ส่วนก้อนหินที่นำใส่ในกระเป๋าขณะก่อเหตุ น่าจะเป็นก้อนหินที่อยู่บริเวณริมสระน้ำ

นายบุญยิ่ง พัฒนกิจ อายุ 60 ปี พ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า ช่วงกลางคืนของวันก่อนที่จะเกิดเหตุ ตนกับภรรยาออกไปรับจ้างกีดยางในป่ายาง ส่วนน้องอาร์ม อยู่บ้านย่ากันแค่ 2 คน กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. ของเมื่อวานนี้ ตนเพิ่งจะเลิกงาน และเดินทางกลับมาถึงที่บ้าน แต่ไม่พบนายอาร์ม ตนเลยเดินดูรอบ ๆ บ้าน ขณะนั้นสังเกตเห็นไฟฉายแขวนอยู่เหนือเครื่องสูบน้ำ และบริเวณพื้นดินริมสระมีรอยเท้าเดินลงไปในน้ำ ทำให้ตนเริ่มรู้สึกเอะใจ จึงโทรไปหาลูกชายคนโต และเวลาประมาณ 09.00 น. ลูกชายคนโตได้เดินทางมาถึงที่บ้าน แต่ยังค้นหานายปรีชาไม่เจอ ทุกคนเลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาค้นหาที่บริเวณสระน้ำ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงพบร่าง แต่ตนไม่ได้เห็นสภาพศพ เพราะตนไม่ได้เข้าไปดู และนั่งรออยู่ในบ้าน

ทั้งนี้นายอาร์ม ไม่เคยว่ายน้ำที่สระน้ำแห่งนี้มาก่อน เพราะว่ายน้ำไม่เป็น โดยสาเหตุน่าจะเป็นเพราะเรื่องโทรศัพท์ ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุ หน้าจอโทรศัพท์ของนายอาร์มได้พังเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ นายอาร์มเลยโทรไปเล่าให้พี่ชายคนโตฟัง และพี่ชายคนโตได้ว่ากล่าวตักเตือนที่นายอาร์มทำโทรศัพท์พัง และกล่าวว่าจะซื้อให้ใหม่ แต่ยังไม่ได้ซื้อให้ทันที ตอนนี้คงจะไม่ได้ซื้อแล้ว เพราะกำลังยุ่งกับการจัดงานศพ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวไม่ได้ติดใจ เพราะนายอาร์ม ไม่ได้มีปัญหาเรื่องอื่น และตอนนี้ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น

ทีมข่าวเดินทางมาที่ วัดคลองเรือแตก ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลของน้องอาร์ม อายุ 18 ปี โดยวันนี้เป็นวันที่ 2 ในการจัดพิธีสวดพระอภิธรรม และวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.64) จะเป็นการจัดพิธีฌาปนกิจ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายธนา โพธิ์สุวรรณ รุ่นพี่คนสนิทของผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ตนเพิ่งจะทราบเรื่องว่า นายปรีชา ได้ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง โดยก่อนที่จะจากไป น้องไม่ได้ทิ้งจดหมาย หรืออะไรไว้ และไม่มีลางบอกเหตุมาก่อน สำหรับสาเหตุตนไม่แน่ใจสาเหตุที่แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะน้อยใจเรื่องโทรศัพท์ เพราะนายอาร์ม ค่อนข้างจะติดโทรศัพท์ เนื่องจากนายอาร์มต้องทำงาน และอาศัยอยู่กลางหุบเขา จึงไม่ค่อยได้ออกไปไหน และไม่ได้ไปเจอเพื่อน โทรศัพท์กลายเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้สามารถติดต่อกับเพื่อนได้

ทั้งนี้ นายอาร์ม พักการเรียนมาได้สักพักหนึ่งแล้ว เนื่องจากทางบ้านมีปัญหาเรื่องการเงิน เลยพักการเรียนไว้ชั่วคราว และตั้งใจว่าจะให้เรียนต่อ แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน โดยระหว่างที่อยู่บ้าน นายอาร์ม ได้ช่วยพ่อแม่ทำงานหาเงิน ซึ่งพ่อแม่เป็นชาวสวนรับจ้างกีดยาง และตนไม่คาดคิดมาก่อนว่า จะเกิดเรื่องขึ้นได้ เพราะนายอาร์ม ไม่เคยระบายความเครียดให้ฟัง อีกทั้งยังเป็นคนที่นิสัยดี อารมณ์ดี ร่าเริง พูดอะไรก็หัวเราะ ไม่เคยมีเรื่องกับใคร และไม่เคยมีแฟน

นอกจากนี้ ตนสนิทกับนายอาร์ม ถ้าตนอยู่กับเขาเวลานั้น เหตุการณ์นี้อาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะนายอาร์มสนิทกับตนมาก อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะฝากเตือนภัยถึงผู้ปกครอง เพราะคนที่ร่าเริง ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ แล้วถ้าเป็นคนที่เครียดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะเป็นอย่างไร