กู้ภัยเล่านาทีช่วย 3 ชีวิตวูบคาเก๋ง ผงะกลิ่นท่อไอเสียเตะจมูก ตร.เก็บน้ำ 2 แก้วหาสารพิษ (คลิป)

12 พ.ย. 61
วันที่ 11 พ.ย. 61 จากกรณีพ่อ​แม่​ลูก 3 ชีวิต น็อกในรถเก๋งสีขาว​ บนทางด่วนบูรพาวิถี เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา​ เบื้องตนยังไม่ทราบสาเหตุจากการน็อกในครั้งนี้ แต่คาดว่าอาจเป็นการสูดดมสารเคมีเข้าไป และก่อนเกิดเหตุ รถเก๋งเติมน้ำมันด้วยแก๊สโซฮอล์ 95 และจากการตรวจสอบพบแก้วกาแฟและชาเขียวในรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำน้ำไปตรวจเพื่อหาสารเคมีปนเปื้อน (อ่าน : หมดสติทั้งคัน! เก๋งจอดนิ่งทางด่วนบูรพาวิถี กู้ชีพช่วยพ่อแม่ลูก คาดสูดแก๊สรั่ว ขาดออกซิเจน)
เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
ภาพจำลองเหตุการณ์ ขณะที่ครอบครัวของนายธนัยนันท์ ประสบเหตุ
นายวินิจจัย ชลานุเคราะห์ นักสื่อสารมวลชนสายยานยนต์ และกูรูเทคโนโลยียานยนต์ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ตนคาดว่าอาจจะเป็นการสูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นสารพิษ เข้ามาในระบบห้องโดยสารของรถยนต์
นายวินิจจัย ชลานุเคราะห์ นักสื่อสารมวลชนสายยานยนต์ และกูรูเทคโนโลยียานยนต์ (แฟ้มภาพ)
โดยปกติภายในรถยนต์จะมีระบบหมุนเวียนอากาศภายในรถ โดยมีปุ่มกด 2 ปุ่ม หากกดปุ่มที่มีลูกศรหมุนเวียนในรถยนต์ หมายความว่า ภายในรถจะมีอากาศหมุนเวียนได้ หากอากาศภายนอกเข้ามาในรถยนต์ ก็จะถูกถ่ายเทออก และไม่ส่งกลิ่นเหม็น แต่ถ้าไม่ได้กดปุ่มเปิดที่สัญลักษณ์ดังกล่าว กลิ่นต่าง ๆ จะหมุนเวียนเข้าสู่ในรถได้ โดยไม่ถูกระบายออก ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงจะต้องตรวจสอบว่ามีการกดปุ่มดังกล่าวภายในรถยนต์ด้วยหรือไม่
ปุ่มกดระบบอากาศหมุนเวียนภายในรถยนต์ (ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Review by Biere)
นอกจากนี้ ตนสงสัยว่าก่อนที่ครอบครัวนี้จะสลบไป จะต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งตามปกติแล้ว หากมีการได้กลิ่นก๊าซ หรือกลิ่นผิดปกติ ก็อาจจะต้องมีการเปิดกระจกรถ เพื่อระบายกลิ่นออก แต่กรณีนี้ขับรถมาเกือบชั่วโมงแล้วหมดสติ ตนก็ไม่ทราบว่าคนที่นั่งอยู่ในรถทนกับกลิ่นได้อย่างไร
นายอนัน หลำเจริญ และนายธนา จันทรักษา อาสาสมัครกู้ภัย ฉะเชิงเทรา
นายอนัน หลำเจริญ และนายธนา จันทรักษา อาสาสมัครกู้ภัย ฉะเชิงเทรา เล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากกู้ภัยของบูรพาวิถีว่า มีรถจอดเสียอยู่บนทางด่วนบูรพาวิถี เมื่อไปถึงพบว่ามีพ่อแม่ลูกอยู่ในรถ ซึ่งแม่และลูกนอนนิ่งแต่ยังหายใจอยู่ มีน้ำลายฟูมปากทั้ง 2 คน ส่วนพ่อมีอาการเบลอ คุยไม่รู้เรื่อง ตนจึงบอกพ่อให้เปิดกระจกรถลง ซึ่งพ่อเองก็มีแรงเปิดกระจกได้แค่ครึ่งเดียว จากนั้นตนก็เอื้อมมือไปเปิดล็อกประตูรถ และดับเครื่องยนต์ ขณะที่เข้าไปในตัวรถได้ ก็ไปเขย่าตัวแม่ และลูกสาววัย 7 ขวบ แต่ไม่รู้สึกตัวแล้ว ขณะที่เข้าไป พวกตนได้กลิ่นคล้ายกับสารเคมีประมาณ 30 วินาที พวกตนเริ่มมีอาการมึนงงบ้าง จึงถอยออกมานอกรถ แล้วใส่หน้ากากอนามัยปิดจมูก จากนั้นก็เข้าไปใหม่ และเปิดประตูรถออกหมดทั้ง 4 ประตู ซึ่งใช้เวลากว่า 20 นาที จึงนำพ่อแม่ลูก 3 ชีวิต ออกมาจากรถได้ และนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกง ฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่พวกตนเป็นอาสาสมัครมา ก็ไม่เคยเจอกรณีแบบนี้มาก่อน และก็ไม่ทราบว่าสาเหตุการสลบของแม่และลูกเกิดจากสาเหตุใด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ