กรรมสนอง! หนุ่มบุกยิงญาติสะเก็ดถูกหัวแตก ตร.แกะรอยเลือดตามเจอรับฉุนรุกที่ (คลิป)

กรณีตำรวจรับแจ้งเหตุยิงกันตายในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่ หลังจากนั้นได้ควบคุมตัวนายขาล อายุ 58 ปี มาสอบสวน ให้การรับสารภาพอ้างว่า แอบซุ่มยิงนายปิยะ ปิ่นทอง อายุ 43 ปี สามีนางเริ่ม ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพราะโกรธที่นายปิยะ เป็นคนต่างถิ่น และกล่าวหาเรื่องการแบ่งที่ดิน ทำให้รู้สึกโกรธจึงตัดสินใจหยิบปืนออกมา แล้วไปแอบซุ่มยิงขณะที่นายปิยะ กำลังดูทีวีจนเสียชีวิตภายในบ้าน 

ล่าสุดวันที่ 26 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินนทางไปยังที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวยกสูง สังเกตว่ามีช่องว่าง ซึ่งมีลักษณะกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ที่นายขาล ส่องปืนยิงนายปิยะ จนเสียชีวิต โดยทางครอบครัวจัดเตรียมสถานที่บำเพ็ญกุศลของนายปิยะ ปิ่นทอง บริเวณลานกว้างข้างบ้าน โดยมีญาติ ๆ และเพื่อนบ้าน ต่างเดินทางกันมาช่วยงานจำนวนมาก

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางเริ่ม มั่นคง อายุ 62 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (25 ต.ค.64) ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ตนและสามีกินข้าว และกำลังดูข่าวช่องอมรินทร์ ทีวี โดยขณะนั้นบ้านหลังอื่น ๆ ได้เข้านอนกันหมดแล้ว ตนจึงชักชวนให้สามีเข้านอน แต่สามีบอกว่าขอดูข่าวให้จบก่อน ตนจึงเข้าไปนอนรอในห้อง ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ตนได้ยินเสียงดัง 1 ครั้ง เป็นเสียงดังมาก ๆ ตอนแรกคิดว่าโทรทัศน์ระเบิด เพราะสามีเปิดดูมาต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ตนจึงถามสามีว่าเป็นอะไร สามีตอบว่า "ถูกยิง" ตนออกมาดูก็ตกใจพบบาดแผลบริเวณหลังทะลุหน้าอก ก่อนสามีจะนอนแน่นิ่งไป และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยสาเหตุมาจากเรื่องการแบ่งที่ดิน จำนวน 12 ไร่ ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากยายของตน ได้แบ่งกันลงตัวคนละ 6 ไร่ เมื่อวันที่ 17 ต.ค.64 มีการแบ่งที่ดินครั้งแรก ผ่านไปไม่นานนายขาล ไม่พอใจ หาว่าตนไปรุกล้ำที่ของนายขาล ประมาณ 1 ศอก และหาว่าตนไปดึงหมุดที่ปักไว้ออกด้วย ตนไม่ได้คิดอะไรจึงบอกว่า "เดี๋ยววันไหนว่างค่อยนัดมาวัดกันใหม่"

ต่อมามีการวัดเพื่อแบ่งที่ดินครั้งที่ 2 ในวันที่ 22 ต.ค.64 และตกลงกันลงตัวที่จำนวนคนละ 6 ไร่ แต่คาดว่านายขาล คงจะมีความไม่พอใจตน และลามไปถึงสามีของตนด้วย ตนยืนยันว่าทั้ง 2 คนไม่เคยมีปัญหาหรือ ทะเลาะกันมาก่อน ตนมองว่านายขาล ทำเกินกว่าเหตุมาก ๆ เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนและไม่เอาพี่เอาน้อง ในวันเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง มีนกบินเหนือหลังคาบ้าน สามีถามว่านกอะไร ตนจึงบอกว่าน่าจะเป็นนกแสก หรือนกเค้าแมว และยังสังเกตเห็นว่าสามีหน้าเหลืองกว่าปกติ ทั้งที่เป็นคนผิวคล้ำ

โดยสามีตนมีคดียาเสพติด ติดตัวมา 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2559 ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2560 และครั้งที่ 3 พบยาบ้า 17 เม็ด เมื่อปี 2563 เพิ่งออกจากคุกมาได้ประมาณ 3 เดือน ได้รับการพักโทษ และกำหนดถอดกำไล EM ในวันที่ 27 ตุลาคม 64 ตนเสียใจมาก ๆ หากเป็นเรื่องยาเสพติดตนพอจะเข้าใจ แต่เป็นเรื่องที่ดินแบบนี้ทำเกินไป เพราะสามีเป็นเสาหลักของครอบครัวด้วย

พนักงานสอบสวน สภ.สอง จ.แพร่ ได้แจ้ง 4 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาติ, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนมาในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนโดยใช่เหตุ นอกจากนี้ขณะเข้าตรวจสอบยังพบกัญชาแห้งอีก 1 ถุง ซึ่งนายขาล รับว่าเป็นของตัวเอง จึงตั้งข้อหามียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายขาล จึงได้พูดคุยกับ นางลำไพ สถาน อายุ 44 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.64) ตนและสามีทะเลาะกันเรื่องการดูแลลูก จึงไม่ค่อยได้คุยกัน และสามีก็มีอาการมึนเมา เนื่องจากดื่มเหล้าด้วย กระทั่งตนทราบว่าสามีออกจากบ้านไปช่วงเวลา 20.00 น. แต่ก็ไม่ทราบว่าออกไปไหน เพราะนายขาลไม่ได้บอก จากนั้นนายขาลกลับมาที่บ้าน ไม่นานก็เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงบ้าน จึงทราบว่าไปก่อเหตุดังกล่าว

ทั้งนี้ ตนรู้สึกช็อกมาก ๆ และคิดไม่ถึงว่านายขาลจะไปก่อเหตุดังกล่าว และไม่ทราบมาก่อนว่านายขาลมีอาวุธปืน ที่ผ่านมานายขาลมักจะดื่มสุราและทะเลาะกับตนเป็นประจำ รวมถึงสามีเป็นคนอารมณ์ร้อน และไม่ทราบว่านายขาล มีปัญหากับนายปิยะ เพราะเขาเป็นคนไม่ระบายปัญหาให้ตนฟัง

"ปัญหาเรื่องที่ดินไม่ทราบมาก่อน เพราะปกติสามีจะจัดการเองเพียงคนเดียว ต่อจากนี้เรื่องที่ดินคงต้องจัดการต่อ ซึ่งก็แล้วแต่อีกฝ่ายว่าจะเอาอย่างไร หลังจากนี้คงไม่มีการประกันตัว คงให้สามีรับกรรมที่ก่อเอาไว้ ส่วนเราก็จะตั้งใจเลี้ยงลูกเอง" นางลำไพ กล่าว