กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาแฉเกี่ยวกับการซื้อขายกล้วยด่างสายพันธุ์แดงอินโด ต้นละ 10 ล้านบาท เป็นขบวนการปั่นราคา ลักษณะเหมือนแชร์ลูกโซ่ โดยเป็นการหลอกลวงให้คนสนใจ เพื่อจะขายหน่อกล้วยที่เพาะเอาไว้แล้ว
ล่าสุดวันที่ 25 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่สวนเดอะลอร์ด ออฟเดอะการ์เด้นท์ ของนายนิรินาทย์ เธียรวรโชค อายุ 50 ปี ในพื้นที่ จ.ระยอง ซึ่งนายนิรินาทย์ นำทีมข่าวไปดูเรือนเพาะชำกล้วยด่างแดงอินโด โดยลักษณะเป็นเรือนมีลูกกรงล้อมรอบมิดชิด ใช้กุญแจล็อกถึง 2 ชั้น
โดยภายในมีต้นกล้วยกว่า 20 ต้น รวมถึงเดอะลอร์ด กล้วยด่างแดงอินโดราคา 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดที่ซื้อมา ขณะนี้ต้นเดอะลอร์ด มีหน่อแยกออกมาประมาณ 6 หน่อแล้วด้วย นายนิรนาทย์ ชี้ให้ทีมข่าวดูว่าความพิเศษของแดงอินโดต้นนี้ต่างจากต้นอื่นที่ลายบริเวณใบ ซึ่งมีถึง 4 ลายในต้นเดียว ประกอบด้วย ลายพายุ ลายตุ๊กแก ลายกาแล็กซี่ และลายวากิว ทำให้ต้นกล้วยดูมีมูลค่า
นายนิรนาทย์ กล่าวว่า ตนซื้อกล้วยด่างต้นนี้มาในราคา 10 ล้านบาทจริง ไม่ได้ปั่นกระแส หรือวางแผนร่วมมือกับผู้ขายแต่อย่างใด โดยหากศึกษาจริง ๆ จะทราบว่า ในกลุ่มซื้อขายมีการตั้งราคากันที่หลักแสน หลักล้าน และหลักสิบล้านเป็นเรื่องปกติ ตามความพิเศษและสวยงามของต้น
ก่อนหน้านี้ตนเป็นนักธุรกิจค้าขายอัญมณี ในจ.จันทบุรี ช่วงโควิด-19 ธุรกิจซบเซา จึงเริ่มศึกษาธุรกิจอื่น และลองซื้อกล้วยด่างแดงอินโดมาต้นแรก ในราคา 85,000 บาท ก่อนจะขายต่อในราคาหลักแสนบาท จึงมองว่าเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ดี และเริ่มศึกษาจริงจัง จากนั้นจึงเริ่มซื้อกล้วยด่างในราคาหลักแสนถึงหลักล้านมาเพาะพันธุ์ ก่อนจะซื้อกล้วยด่างที่มีข่าวในราคา 10 ล้านบาท เพื่อมาเป็นแม่พันธุ์ในฟาร์ม และตั้งชื่อว่า “เดอะลอร์ด”
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาตนได้แยกหน่อต้นเดอะลอร์ดขายไปจำนวน 3 หน่อ ราคาหน่อละ 2 ล้านบาท รวม 6 ล้านบาท และตอนนี้มีการจองไว้อีก 2 หน่อ ราคา 2 ล้าน และ 1.5 ล้านบาท รวมเงินทั้งหมด 9.5 ล้านบาท ซึ่งก็เกือบเท่าทุนที่ซื้อมาแล้ว ซึ่งกรณีที่บอกว่าตนมีหน่อกล้วยอยู่แล้วเป็นหลักหมื่นหลักแสนก็ไม่จริง ปกติต้นกล้วยด่างจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนจึงจะออกหน่อ ครั้งละประมาณ 5 ปี ปีละประมาณ 30 หน่อ และกล้วยด่างก็อยู่ได้ประมาณ 3 ปี ตนไม่มีทางหาหน่อกล้วยมาได้ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่บอกว่าตนยืมเงิน 10 ล้านบาทมาวาง ยืนยันไม่เป็นความจริง เงินดังกล่าวเป็นของตน เพราะปกติก็เป็นนักธุรกิจมีเงินอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปยืมใคร ทั้งนี้ ตนอยากฝากให้คนที่วิพากษ์วิจารณ์ลองไปศึกษาก่อน จะได้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร
