สุดเครียด! ไฟไหม้ปริศนา 2 เดือนลุก 50 กว่าครั้ง วอนรัฐหาต้นตอ อนาถกางเต็นท์นอนนอกบ้าน (คลิป)

หลังจากเกิดเหตุ ไฟไหม้ปริศนาที่บ้านเลขที่ 339 หมู่ 16 บ้านปะหลาน ต.ปะหลาน อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม นานกว่า 2 เดือน รวมแล้วกว่า 50 ครั้ง ค่ำวันนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ และได้พูดคุยกับเจ้าของบ้าน (อ่าน : เจ้าของบ้านเครียด! ไฟไหม้ปริศนารวมกว่า 50 ครั้ง หาสาเหตุไม่ได้ วอนหน่วยงานช่วย)

วันที่ 8 พ.ย. 61 นางบุญมี ภูมิศรีจันทร์ เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า เหตุเกิดครั้งแรก ตั้งแต่ วันที่ 29 ส.ค. 61 เวลา 10.00 น. ขณะที่ตนนั่งเสียบลูกชิ้นเพื่อขาย โดยอยู่ 3 คน มีตน และยายคนข้างบ้าน ส่วนลูกสะใภ้ นั่งล้างจานอยู่ข้างบ้าน ได้กลิ่นควันไฟไหม้ขึ้นมา จึงตะโกนเรียกว่า “แม่ ๆ เสียงอะไร” ตนจึงเดินเข้าไปดู จึงพบว่าไฟไหม้ จึงช่วยกันตักน้ำไปดับไฟ หลังจากนั้นยายข้างบ้าน ไปเข้าห้องน้ำหลังบ้าน เดินออกมา พบว่าไฟไหม้ที่กระสอบข้าว ที่วางไว้ประมาณ 12 ถุง โดยเพลิงลุกไหม้แรงมาก พวกตนจึงช่วยกันนำสายยางฉีดน้ำเพื่อดับไฟ ทำให้บริเวณนั้นเปียกน้ำ ตนจึงไม่คิดว่าไฟจะไหม้ได้อีก

จากนั้น ตนจึงตัดสินใจเรียกชาวบ้านมาดู เมื่อเข้าไปดูในบ้าน พบว่าไมีฟไหม้อีก ที่ตรงกระสอบข้าว รวมถึงไหม้บริเวณกล่องโฟมที่วางไว้ไกล้กัน รวมทั้งไฟยังลุกไหม้บริเวณยางรถยนต์ ที่วางไว้ใต้ถุนบ้าน ซึ่งไฟลุกไหม้แรงมาก จึงตัดสินใจโทรบอกลูกสาว หลังจากนั้น ตนจึงรีบไปแจ้งเรื่องนี้กับทางกำนัน ขณะนั้นลูกสาวโทรมาบอกว่า ไฟไหม้บ้านลุกลามเร็วมาก จึงรีบกลับมาดูบ้านกับทางกำนัน ซึ่งทางกำนันโทรแจ้งทางเทศบาล ให้นำรถดับรถเพลิงมาดับไฟ

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ไฟปริศนาลุกไหม้บ้าน วันแรกไฟลุกไหม้ 13 ครั้ง วันต่อมา ไฟลุกไหม้ 7 ครั้ง หลังจากนั้น บางวันไฟไหม้ 4 ครั้ง บางวัน 2 ครั้ง โดยไหม้ต่อเนื่องไปจนถึง 15 วัน และไฟหยุดไหม้ จากเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้ตนหนักใจมาก จึงไปปฏิบัติธรรมที่วัด

จนกระทั่งวันที่ 28 ต.ค. 61 เวลาประมาณ 20.00 น. หลานที่มานอนเฝ้าที่บ้าน พบว่ามีกลิ่นควันไหม้ และพบว่าไฟไหม้บ้านที่นอนหมอนมุ้ง จึงโทรหากำนันให้มาช่วยดับไฟ คืนนั้นไฟไหม้ ข้าวของเสียหาย ไหม้เสื้อผ้านักเรียนของหลาน ทำให้หลานไม่ได้ไปโรงเรียน ทั้งนี้ ก่อนไฟไหม้ปริศนา ไม่มีลางบอกเหตุใด ๆ ซึ่งตนยังแปลกใจอยู่ทุกวันนี้ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร โดยหลังเกิดเหตุ มีหลายหน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครอง และตำรวจ ทาง อบต. นำเต็นท์มากางบนถนนให้นอน ซึ่งหน่วยงานที่เข้ามาดูแล ก็ถ่ายรูปเก็บไว้ แต่ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ครอบครัวได้รับความลำบากมาก อยากให้หน่วยงานเข้ามาตรวจว่า สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร ซึ่งตนเกรงว่าจะเกิดขึ้นกับเพื่อนบ้านคนอื่น และกลัวว่าไฟลุกไหม้ จนไปคลอกคนตาย จนกระทั่งทุกวันนี้ ก็กางเต็นท์นอนอยู่หน้าบ้าน ไม่กล้าเข้าไปนอนในบ้าน

ด้านนายสำเริง แก้วอมร เพื่อนบ้าน เผยว่า ตนอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้บ้านหลังเกิดเหตุ ช่วงที่เกิดขึ้นแรก ๆ มีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ ตนก็เข้ามาดู ก็สงสัยว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นได้อย่างไร เพราะเหตุเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยตนมาเฝ้าดูตั้งแต่วันแรก แล้วก็เห็นกับตาหลายครั้ง และได้ก็มาช่วยกันดับไฟ ครั้งก่อน ๆ ก็ไม่ได้รุนแรง แต่พักหลัง ๆ เกิดอย่างรุนแรง ไหม้สิ่งของชิ้นใหญ่ ๆ ถ้าคนไม่อยู่ ก็คาดว่าจะวอดทั้งหลังได้ ก่อนหน้านี้ ทาง อบต. รายงานไปยังจังหวัด แต่ว่ายังไม่ได้รับการช่วยเหลือ และต่อมาครั้งที่ 2 ก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตนมีโอกาสไปจังหวัด เพื่อร้องเรียนให้จังหวัดดำเนินการช่วยเหลือ อีกทั้งเคยขอความช่วยเหลือให้ส่งเจ้าหน้าที่ทางวิทยาศาสตร์ เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ว่าจะดำเนินการพิสูจน์สาเหตุอีกด้วย นายสำเริง กล่าวต่อว่า ชาวบ้านสงสัยว่าในพื้นที่จะมีสารเคมีหรือไม่ ส่วนเรื่องทางไสยศาสตร์ ตนก็เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง แต่ความจริงก็อยากให้หน่วยงานส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์มาตรวจสอบ เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน อีกทั้งสงสารเจ้าของบ้านด้วย