จากกรณีนายวิรัช แซ่เอ้ง อายุ 37 ปี ทำร้ายร่างกาย ด.ช.เหนือ อายุ 8 ขวบ จนเสียชีวิต ในพื้นที่ อ.หนองแค ต.หนองแค จ.สระบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค 21 นาย ได้นำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วนั้น
วันที่ 22 ต.ค. 64 นางยุวดี แม่ของน้องเหนือ เปิดใจว่า ตนเองก็ยังคงยืนยันย้ำคำเดิมแม้ตนเองจะรู้เห็นหรืออยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็ไม่สามารถที่จะห้ามหรือระงับเหตุได้ รู้สึกสงสารลูกชาย มีหลายครั้งที่ตัวของนายวีรัช พ่อเลี้ยง ไม่ทำต่อหน้าตนเอง ทำให้ตนเองไม่สามารถรับรู้เหตุการณ์ได้ทั้งหมดว่าลูกชายโดนอะไรบ้าง ตนเองก็พูดความจริงไปหมดแล้ว ไม่ได้มีการโกหกหรือปกปิด ส่วนเหตุการณ์ที่ตนเองเพิ่งจะทราบจากลูกสาวคนโต 16 ปี เพิ่งจะมาบอกกับตนเองวันที่ไปโรงพักว่านายวิรัชมีการกอดและหอมแก้ม ตนก็ตกใจเหมือนกัน
เมื่อวันนี้พ่อเลี้ยงเข้าคุกไปแล้วก็ให้รับโทษตามกฎหมาย ตนเองก็ไม่ได้ให้อภัยหรือคิดจะไปเยี่ยม เมื่อทำกับคนในครอบครัวของตนเองแบบนี้ ก็ควรที่จะรับโทษ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองยอมรับว่าถูกนายธนกร น้องชายคนเล็กไม่พอใจถึงขั้นประกาศตัดพี่ตัดน้อง เพราะคิดว่าตนเองรู้เห็นกับพ่อเลี้ยง แต่ไม่ยอมห้ามปราม ครอบครัวจะเข้าใจในตัวของตนเองผิด ตนก็พร้อมที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมทั้งเตรียมที่จะพูดคุยกับน้องชายหลังจากที่เสร็จงานศพของลูกชาย ไม่อยากให้เรื่องในครอบครัวถึงขั้นแตกแยก
กรณีที่ มีคนออกมาแฉว่าพ่อเลี้ยงเป็นเพื่อนสนิทที่แย่งแฟนคนอื่นนั้น ตนเองยอมรับว่าช่วงที่คบหากับแฟนเก่าคนที่ 3 ซึ่งไม่ใช่พ่อของลูกคนโตวัย 16 ปี และพ่อของน้องเหนือ แต่เป็นแฟนที่คบหากันในขณะที่ทำงานอยู่ในจังหวัดภาคใต้ แฟนคนดังกล่าวอาศัยอยู่จังหวัดพัทลุง ตอนนั้นตนเองก็เริ่มรู้จักกลับนายวิรัช แต่ในฐานะเพื่อนสนิทเท่านั้น ตอนที่อยู่ใต้ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลย ใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนกัน
กระทั่งเกิดความผูกพัน ตอนนั้นตนเองก็ไม่รู้จะพึ่งใคร จากนั้นก็ได้มีโอกาสพานายวิรัช ขึ้นมาเที่ยวที่บ้าน เป็นช่วงรอยต่อที่ตนเองบอกเลิกกับคนที่ 3 พอดี จึงได้มีโอกาสดูใจและคบหากัน ดังนั้นจึงไม่ได้เรียกว่าเพื่อนสนิทที่แย่งแฟนใคร เพราะเป็นช่วงรอยต่อที่ตนเองกำลังจะเลิกกับคนเก่าพอดี
ช่วงเช้าที่ผ่านมา ครอบครัวของน้องเหนือเดินทางย้อนกลับไปที่บ้านจุดเกิดเหตุ นิมนต์พระจำนวน 5 รูป นำเครื่องสังเวยเซ่นไหว้ คือ ข้าว กระเทียม พริก อ้อย โดยทำขึ้นจำนวน 3 เครื่องสังเวย แทนทิศต่าง ๆ 4 ทิศ และกลางบ้าน ให้พระสงฆ์ยืนล้อมถือสายสิญจน์ ประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณบริเวณเหล็กดัดตรงหน้าต่าง เพื่อเชิญดวงวิญญาณ หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วได้นำเสื้อผ้าแทนร่างของน้องเหนือใส่ในผ้าขาว เสมือนเชิญดวงวิญญาณลงไปในผ้า
ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดหนองพระบาง อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของน้องเหนือ คืนนี้จะเป็นคืนสวดอภิธรรมเป็นคืนสุดท้าย ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติพี่น้องรวมถึงชาวบ้านในชุมชนเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ
นายธนกร อายุ 25 ปี น้องชายคนเล็กของนางยุวดี แม่ของน้องเหนือ เปิดใจว่า ตนเองยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงติดใจ ในตัวของนางยุวดี แม่ของน้องเหนือ ที่เชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการตาย หรือรู้มาโดยตลอดว่าหลานโดนทำร้ายร่างกายอย่างไร แต่ไม่ยอมบอกให้ใครรู้ ซึ่งเป็นการรู้เห็นกับพ่อเลี้ยง ปล่อยให้ลูกโดนทำร้ายจนกระทั่งตาย ตัวของนางยุวดีก็ต้องมีการเคลียร์ใจตัวเอง ให้คนในครอบครัวเชื่อว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นจริง
สำหรับกรณีที่ตนเองตัดสินใจตัดพี่ตัดน้องเพราะว่ารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องให้เวลานางยุวดีในการเคลียร์ตัวเอง วันนี้ขอต่างคนต่างอยู่ แม้ว่าจะมาร่วมงานศพหลานด้วย ก็ช่วยกันจัดงานศพให้กับหลาน แต่ไม่ได้พูดคุยกัน ซึ่งหลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ถ้าหากเคลียร์ตัวเองได้ ก็คงได้กลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม
ทั้งนี้ ตนเองทราบว่าหลานชายโดนทำร้ายร่างกายจนกระทั่งตาย เป็นเรื่องที่ทำให้ตัวเองค่อนข้างที่จะเจ็บใจอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าตัวของพ่อเลี้ยงจะมีการกระทำลวนลามหลานสาวคนโตอีก ทำให้ตัวเองรู้สึกโกรธมาก และโกรธที่ตัวของนางยุวดีพี่สาวไปรับเอาคนแบบนี้เข้ามาในครอบครัว ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครเห็นด้วย ส่วนประเด็นที่ถูกแฟนเก่าออกมาแฉเรื่องของการคบพ่อเลี้ยงลักษณะแย่งแฟนคนอื่นนั้น ก็เป็นเรื่องที่เจ้าตัวก็ต้องรับตามผลกรรมที่เคยทำเอาไว้ เพราะตนเองเคยเจอเหตุการณ์แฟนเก่าของนางยุวดี ขึ้นมาตามถึงจังหวัดสระบุรี แต่ตอนนั้นก็ไม่ทันคิดว่าเป็นการคบซ้อน
