กรณีประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ หลังจากมีภาพของนายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ ที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว เเละทำพิธีฉลองวันเกิดอายุครบ 70 ปี โดยมีลูกศิษย์ที่เป็นประชาชน เเละพระสงฆ์ แม่ชี แห่เข้ามากราบไหว้ด้วยความศรัทธาจำนวนมาก
ล่าสุดวันที่ 20 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางลงพื้นที่มายัง อาศรมเกพลิตาโพธิวิหาร ในพื้นที่ ต.หนองบอน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ตามข้อมูลที่ได้รับมาว่า อาจารย์ยันตระจะมีการพักค้าง ณ ที่แห่งนี้ เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน (19-22 ต.ค.64) ซึ่งตามกำหนดการเดิมได้เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ก.ย.- 8 ต.ค.64 อาจารย์ยันตระ ได้เดินทางมาพักกักตัวที่โรงเเรมแห่งหนึ่ง จ.ปทุมธานี
วันที่ 9-14 ต.ค.64 เดินทางไปที่สำนักป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย กาญจนบุรี
วันที่ 15 ต.ค.64 เดินทางไปอ.ปากพนัง
วันที่ 16 -18 ต.ค.64 ไปพักอยู่ที่บ้านเกิด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
วันที่ 19 ต.ค.64 เดินมาถึงจ.สระแก้ว
วันที่ 20-22 ต.ค.64 พักอยู่ที่อาศรมเกพลิตาโพธิวิหาร จ.สระแก้ว
วันที่ 23 ต.ค.64 พักที่บ้านคุณหญิงสิริกร จ.ปทุมธานี
วันที่ 27 ต.ค.64 เดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกา
เวลา 17.50 น. อาจารย์ ยันตระ ที่ยังคงห่มจีวรสีเขียวไข่กา ได้เดินทางมารับมอบกุฏิ เเละจะพักที่อาศรมแห่งนี้ เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน เมื่ออาจารย์ยันตระ มาถึงศาลาบริเวณด้านหน้าหลวงพ่อหยกขาว ลูกศิษย์ก็มีการจัดเตรียมสถานที่อย่างสวยงาม เพื่อรอต้อนรับอาจารย์ยันตระ มีโต๊ะนั่งเป็นประธาน เเละมีพระสงฆ์จำนวน 6 รูปมาร่วมในพิธี โดย 1 ในพระทั้ง 6 รูป คือ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังมีบรรดาลูกศิษย์ที่นุ่งขาวห่มขาว มาร่วมเคารพอาจารย์ยันตระ อีกทั้งยังมีชายชาวต่างชาติที่เลื่อมใสศรัทธาอาจารย์ยันตระ เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้อีกด้วย
เมื่อาจารย์ยันตระ เดินลงจากรถ เหล่าลูกศิษย์ร่วม 100 คน ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ต่างก้มกราบอาจารย์ยันตระ ก่อนจะมอบภาพถ่ายปัจจุบัน หนังสือ เเมสก์ เเละยาหม่อง เพื่อเป็นของที่ระลึก ในงานอาจริยบูชา น้อมถวายมุทิตาจิต สักการะอายุ วัฒนมงคล 70 ปี อาจารย์ยันตระ อมโร เนื่องในวันที่ 14 ต.ค.64 โดยหน้าซองใส่เเมสก์ ได้มีลายมือของอาจารย์ยันตระ เขียนไว้ว่า “ให้มีเเต่ความเจริญ ร่มเย็น ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เจริญพร”
ในช่วงเวลา 18.30 น. อาจารย์ยันตระ เเละคณะสงฆ์ทั้ง 6 รูป ก็ได้เดินขึ้นไปกราบสักการะ หลวงพ่อหยกขาว ก่อนที่จะเดินลงมาในเวลา 18.45 น. เเละทางด้านเหล่าลูกศิษย์ เเละพระสงฆ์ก็เริ่มมีการสวดมนต์ เป็นทำนองสรภัญญะ
หลังจากลูกศิษย์ได้สวดมนต์เสร็จสิ้น อาจารย์ยันตระ ก็สวดมนต์ให้พร เเละเเสดงธรรมเทศนาแก่ลูกศิษย์ ประมาณ 15 นาที โดยเนื้อหาของการแสดงธรรมในครั้งนี้ คือ ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข ไม่เดือดร้อน ไม่เศร้าหมอง เพราะมีธรรมรักษาใจ เเม้จะอยู่กับสิ่งที่ไม่ดี ก็ให้มองเเต่สิ่งที่ดี มีสุขมีทุกข์ ธรรมดาเป็นของคู่กัน ขอให้ความสุขสวัสดี จงมีแก่บุคลลทั้งหลาย
หลังจากอาจารย์ยันตระ เทศนาธรรมเสร็จสิ้นเเล้ว เวลา 19.10 น. ก็ได้สวดมนต์ทำวัดเย็นพร้อมกับเหล่าลูกศิษย์ ก่อนจะให้ลูกศิษย์นั่งเจริญสติสมาธิ ประมาณ 25 นาที หลังจากนั้นก็สวดมนต์แผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวร หลังจากนั้นลูกศิษย์ก็กราบลาอาจารย์ยันตระ
นายวี (นามสมมติ) อายุ 63 ปี ลูกศิษย์อาจารย์ยันตระ เปิดเผยว่า ภาพต้นเรื่องที่มีพระภิกษุสงฆ์และแม่ชี กำลังก้มกราบอาจารย์ยันตระ เป็นภาพที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 14 ต.ค.64 ณ สถานที่ปฏิบัตธรรมแห่งหนึ่งในจ.กาญจนบุรี เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 70 ปี ของอาจารย์ยันตระ ซึ่งหลังจากภาพถูกเผยแพร่ออกไป ตนก็ไม่ได้ติดตามข่าวมากนัก เเต่ในเรื่องของความคิดเห็นของสังคม ตนคงห้ามความคิดเห็นใครไม่ได้ เเต่ตนอยากให้สังคมลองมาสัมผัสด้วยตัวเองมากกว่า อยากให้เปิดใจเปิดรับฟัง และมีมุมมองในตัวอาจารย์ยันตระอย่างเป็นกลางมากขึ้น
ทั้งนี้ ตนมองว่าอาจารย์ยันตระ ยังเป็นพระ เว้นเพียงแต่การแต่งกายหรือรูปลักษณ์ อาจจะแตกต่างจากพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาของสังคมไทย ตนอยากให้สังคมเปิดใจ แม้แต่ศาสนาพุทธก็มีหลากหลายนิกาย หลากหลายรูปแบบเช่นกัน ส่วนการเคารพหรือการนับถือเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ตนในฐานะลูกศิษย์ที่ยังคงนับถือและเคารพมานานกว่า 30 ปี ธรรมะของอาจารย์ยันตระ เป็นธรรมชาติ เเละอาจารย์ยังสามารถแสดงธรรมเทศนาให้ประชาชนได้ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
เเม้ว่าทุกวันนี้ทุกคนจะมองว่า อาจารย์จะไม่ได้อยู่ในสมณเพศเเล้ว เเต่ก็ยังมีความน่าเคารพ ความน่าเลื่อมใสศรัทธา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีประชาชนก้มกราบไหว้ ทั้งนี้ เรื่องเหล่านี้อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน บางคนอาจจะไม่อยากก้มกราบก็ไม่เป็นอะไร ตนไม่สามารถไปบังคับความคิดของใครได้ ส่วนเรื่องอื้อฉาวในอดีต ตนมองว่ากระเเสในอดีตต่างจากปัจจุบัน ในอดีตสื่ออาจจะนำเสนอข่าวไม่ครบทุกด้าน ตนจึงอยากให้ความเป็นธรรมกับอาจารย์ยันตระด้วย แต่จะไปบอกว่าพระอาจารย์ไม่ใช่อย่างนั้นหรือไม่ใช่อย่างนี้ ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ ทั้งหมดก็คงจะสุดแท้แต่ความคิดของแต่ละคน
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสได้พูดคุยกับอาจารย์จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา กล่าวว่า พระสงฆ์ไม่ควรกราบคนที่มียศตำกว่า แบบนี้ตนมองว่าพระอาบัติ เพราะไม่ใช่เรื่องที่พระสงฆ์จะต้องไปกราบฆราวาส ท่านก็อาศัยอยู่ในต่างประเทศจนคดีหมดอายุความไปแล้ว ขาดจากความเป็นพระ ดังนั้น ในวันนี้พระสงฆ์ก็ไม่ควรจะไปกราบเช่นนั้น
"แต่ถ้าลูกศิษย์เป็นสีกา ก็ปล่อยให้เขากราบไปเถอะครับ ถ้าเป็นฆราวาสก็กราบไปเถอะ จะไปทำอะไรวันเกิดก็ได้ ไปกราบไหว้ก็เรื่องของเขา แต่นี่เป็นพระ ซึ่งพระไม่ควรกราบเพศที่ต่ำกว่าแค่นั้นเอง การที่หลายคนยังเคารพก็คือสิทธิ์ของเขา ถ้าวันนี้เขายังศรัทธาก็ศรัทธาไป" อาจารย์จตุรงค์ กล่าว
