เปิดนาทีหนุ่มดับสยองกะโหลกเปิด เพื่อนเชื่อถูกฟัน ไม่ใช่รถล้ม แฉทะเลาะการ์ดผับ ก่อนตาย (คลิป)

จากรณีนายณวดล ยุ้ยพันธ์ หรือ นัท อายุ 26 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้นถนน บริเวณคอสะพานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง มีบาดแผลที่บริเวณหน้าผากด้านหน้า คล้ายถูกฟันด้วยของมีคม จนกะโหลกหน้าผากเปิดเป็นแผลฉกรรจ์ ตามร่างกายมีบาดแผลถลอกอยู่หลายแห่ง โดยเพื่อนผู้เสียชีวิตตั้งข้อสังเกตว่าไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุ แต่อาจจะเป็นการฆาตกรรมนั้น

วันที่ 6 พ.ย. 61 นายโฆษิต พิมาน เพื่อนผู้ตาย กลุ่มเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกัน เล่าว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. เวลา 22.30 น. พวกตนนัดรวมตัวกันที่ตลาดฟิน แพรกษา เพื่อที่จะไปเที่ยวผับ ย่านศรีนครินทร์ ตนและผู้ตายและเพื่อนรวม 7 คน เป็นชาย 4 หญิง 3 ได้ไปเที่ยว โดยนั่งรถแท็กซี่ไปที่สถานบันเทิง และหลังจากที่ดื่มกันจนมีอาการมึนเมา

กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. เพื่อนผู้หญิงที่ไปด้วยกัน ทำต้มยำหกลงร้าน การ์ดและผู้ดูแลผับ จึงเข้ามาต่อว่าและตะคอกใส่เพื่อนผู้หญิง พร้อมขอปรับเป็นค่าทำความสะอาด 500 บาท ทำให้ผู้ตาย และเพื่อนไม่พอใจ พวกตนพยายามอธิบาย แต่การ์ดก็ไม่ฟัง และกันให้ออกมาจากร้าน ทั้งหมดจึงนั่งรถแท็กซี่มาที่หน้าตลาดฟิน แพรกษา เพื่อนำรถจักรยานยนต์มาจอดไว้ โดยมาถึงตลาดเวลาประมาณ 02.30 น. ทั้งหมดได้ไปซื้อเบียร์มานั่งดื่มต่อ แต่ผู้ตายขอตัวกลับบ้านก่อน โดยบอกกับเพื่อนว่า “เดี๋ยวกูมา กูขอกลับบ้านก่อน” ซึ่งทุกคนก็รู้โดยนัยว่านายนัท ผู้ตาย จะกลับไปเอาปืน ก่อนที่จะขี่รถออกไป ซึ่งแฟนสาวของนายนัทจะขอไปด้วย เพราะเห็นว่าผู้ตายอยู่ในอาการมึนเมา แต่ผู้ตายไม่ยอม

นายโฆษิต เล่าต่อว่า ช่วงเวลาประมาณ 02.55 น. ของเช้าวันที่ 5 พ.ย. โดยระยะเวลาไม่ถึง 10 นาที นายนัทออกจากตลาดไปนานผิดสังเกต พวกตนจึงออกตามหาตลอดทั้งคืน แต่ไม่พบ ไปตามโรงพยาบาล สถานีตำรวจ และไปที่สถานบันเทิงที่เกิดเรื่อง แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. ตนขับรถมอเตอร์ไซค์มากับแฟนสาว และแฟนของนายนัท เห็นเจ้าหนาที่ตำรวจ 4-5 นาย อยู่ที่สะพานข้ามคลองหม้อแตก ต.แพรกษา จึงลงไปดู เห็นว่านายนัทเสียชีวิต ตัวเองถึงกับเข่าทรุด ไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนของตัวเอง

ทั้งนี้ การเสียชีวิตของเพื่อน ตนไม่คิดว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะตัวนายนัทก็มีคู่อริ ซึ่งก็ต้องมีคนถูกใจและไม่ถูกใจ อย่างไรก็ตาม หากย้อนเวลากลับไปได้ ตนอยากบอกห้ามไม่ให้นัทกลับมาที่บ้าน และต้องการบอกคนที่ฆ่านัทว่า เวรกรรมมันมีจริง ทำอะไรก็ต้องได้อย่างนั้น

ทีมข่าวอมรินทร์ ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในภาพเห็นว่า นายโฆษิต ผู้ชายใส่เสื้อแขนยาวสีขาว ออกมาพูดคุยกับการ์ดหน้าร้าน ในลักษณะที่โวยวาย และไม่พอใจ โดยนายนัท ผู้ตาย ชายใส่เสื้อสีเทา ยืนสูบบุหรี่ มีอาการโมโห ไม่พอใจการ์ด และในภาพจะเห็นว่ามีบางช่วงที่นายนัท พุ่งตัว คล้ายจะเข้าไปหาเรื่องการ์ดที่ยืนอยู่หน้าร้าน โดยมี น.ส.บี ผู้หญิงเสื้อสีแดง กางเกงขาสั้นสีดำ พยายามที่จะอธิบายบางอย่าง

สำหรับบรรยากาศที่ศาลาจันทโก วัดหัวลำภูทอง จ.สมุทรปราการ สถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพนายณวดล ยุ้นพันธุ์ หรือ นัท เป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีครอบครัว และเพื่อนสนิทเดินทางมารถน้ำศพที่ศาลา โดยกำหนดสวดพระอภิธรรมไปจนถึงวันเสาร์ ที่ 10 พ.ย. และฌาปณกิจในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ย. นี้ โดยนางเนตรมณี ปานสอน อาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผลชันสูตรเบื้องต้นคือ ศีรษะกระทบกับของแข็งแต่ไม่มีคม แต่ว่ารายละเอียดจะเป็นอย่างไรให้ไปฟังผลที่ สภ.บางปู อีกครั้ง

ทั้งนี้ ครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือการฆาตกรรม โดยยังไม่ปักใจเชื่อทางใดทางหนึ่ง 100% ขณะนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหลักฐาน และกล้องวงจรปิด ดังนั้นจึงไม่สามารถตอบชี้ชัดว่าอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมเลยได้ เพราะไม่มีพยานเห็น นางเนตรมณี ยอมรับว่า ขณะนี้รู้สึกแย่ เพราะน้องจากไปอย่างกะทันหัน ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ น้องนัทก็เป็นเหมือนวัยรุ่นทั่วไป มีโกรธมีเคือง เด็กผู้ชายมีกันทุกคน แต่น้องเป็นคนขยันช่วยทำงานที่ตลาดเพราะที่บ้านที่อาชีพค้าขาย นอนตั้งแต่หัวค่ำ ตื่นตอน 01.00 น. ก็ออกมาทำงาน และกลับบ้านปิดร้านตอน 07.00 น. ทำแบบนี้ทุกวันไม่เคยขาด ซึ่งในวันหยุดอาจขอไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง ซึ่งในวันเกิดเหตุตนก็พยายามโทรศัพท์ตาม ขณะนั้นรู้สึกกังวลใจ กระทั่งตอนเช้ามาก็มาจึงทราบว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น นางเนตรมณี กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนเรื่องปืน เป็นของพ่อนายนัท เหตุที่ต้องมีเพราะตนประกอบอาชีพค้าขาย มีทรัพย์สินเยอะ จึงต้องมีปืนไว้ป้องกันตัว ยืนยันว่าเป็นปืนถูกกฎหมาย แต่ไม่ทราบว่านายนัทนำปืนไปก่อเหตุ เพราะพ่อของนายนัทเก็บไว้ในลิ้นชักในห้องนอน ซึ่งขณะนั้นพ่อก็ไม่รู้ว่าปืนหายไปตอนไหน มาทราบว่านายนัทหยิบไป ก็เป็นตอนเช้าหลังเกิดเหตุแล้ว

นอกจากนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดกิดเหตุ บริเวณคอสะพานข้ามคลองหม้อแตก ต.แพรกษา จ.สมุทรปราการ พบว่าเป็นพื้นที่ก่อสร้างและค่อนข้างมืด จากการพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทราบว่า จุดที่นายนัทเสียชีวิตยังคงสภาพเดิมกับในวันเกิดเหตุ เมื่อเดินสำรวจจุดดังกล่าว ทีมข่าวยังคงได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทั่วบริเวณ และพบว่าทางดังกล่าวเป็นเป็นทางลูกรังที่ยังไม่มีการเทปูน มีแท่งแบริเออร์มาปิดเส้นทางเอาไว้ แต่เส้นทางดังกล่าวค่อนข้างมืด แสงสว่างไม่เพียงพอ ยากต่อการมองเห็น

เมื่อทีมข่าวลองวัดความสูงจากพื้นถึงคอสะพาน พบว่ามีความสูง 44 เซนติเมตร และดูจากขอบสะพานไม่พบร่องรอยการชนแต่อย่างใด

ด้าน นายเจริญ รื่นเริง ชาวบ้านที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ บอกว่า ตอนช่วงเช้าตนได้ออกไปทำงานตามปกติ ได้ยินชาวบ้านคุยกันว่ามีคนตายแถวสะพานจึงออกมาดู พบว่าศพนอนหงาย มีไม้อัดปิดหน้าอยู่ ตนก็มองว่าเป็นการฆาตกรรมมาจากที่อื่น แล้วเอามาทิ้งตรงจุดนี้ หากดูสภาพแล้วไม่น่าจะเป็นการชนคอสะพาน โดยในช่วงเกิดเหตุ ตนไม่ได้ยินเสียงอะไร เพราะบ้านตนอยู่ลึกเข้าไปอีก และจากการพูดคุยกับเพื่อนบ้านก็บอกว่าไม่ได้ยินอะไรเช่นกัน ตนจึงรู้สึกสงสัยว่า หากชนขอบสะพานจริงก็ต้องมีเสียงชน หรือตะโกนขอให้คนช่วยบ้าง หลังเกิดเหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้กลัว เพราะตนอยู่ที่นี่มานานแล้ว