เมียแฉผัวโฉดจับกรีดนมเหวอะ ช้ำใจแม่ผัวใส่ร้าย แฉกู้เงินให้กลับถูกเฉดหัว (คลิป)

19 ต.ค. 64

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายทิพากร ทับศรี อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงวันที่ 11 ต.ค.64 ในฐานความผิดข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น” โดยสามารถจับกุมได้บริเวณหน้าสนามกีฬาในพื้นที่ อ.เมือง จ.ยโสธร

958276

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก น.ส.น้ำทิพย์ แฟนสาวของนายทิพากร และนางสายหยุด แม่ของนายทิพากร ช่วยกันขายของอยู่ที่บริเวณริมทางรถไฟเปรง ต.คลองอุดม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนจะเกิดมีปากเสียงกันเรื่องหนี้สินที่ทั้ง 2 คนไปกู้ร่วมกันไว้ ระหว่างนั้นผู้ต้องหาก็อยู่ใกล้ ๆ จึงคว้ามีดไล่เเทงแฟนสาว จนล้มฟุบจมกองเลือดนอนแน่นิ่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ผู้ต้องหาจะรีบหลบหนีไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายทิพากร ได้หลบหนีมาทำงานรับจ้างอยู่ที่ อ.เมือง จ.ยโสธร ก่อนไปพบตัวอยู่ที่สนามกีฬาจังหวัด จึงเข้าจับกุมตัวดังกล่าว จากการสอบสวน นายทิพากร ยังให้การปฏิเสธ จึงได้นำตัวส่ง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีต่อไป

929788

ล่าสุดวันที่ 19 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงได้พบกับ น.ส.น้ำทิพย์ อายุ 33 ปี เปิดเผยว่า ตนกับนายทิพากร รู้จักกันเมื่อ 6 เดือนก่อน ตอนนั้นตนทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งตนไม่ได้ทำงานบริการอย่างที่นางสายหยุด แม่สามี ให้ข่าวก่อนหน้า

ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนก่อนเกิดเหตุการณ์ ตนได้ย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของนายทิพากร ในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน นางสายหยุด ก็ปกติ ดูแลตนอย่างดี คอยช่วยเหลือเอาใจใส่คนทุกอย่าง เเละยืนยันว่าตนไม่เคยทะเลาะกับเเม่สามี ส่วนนายทิพากร ตอนเเรกก็มีนิสัยปกติทั่วไป เเต่จะไม่ค่อยมีเพื่อน ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เเละมักจะมีปากเสียงกับตนบ่อยครั้ง

หลังจากนั้น นายทิพากร ก็ตกงาน และอาจเครียดเรื่องเงิน ตนก็ไม่ได้ทำงานที่ร้านอาหารเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทำให้ไม่มีเงินมาจุนเจือครอบครัว ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนที่อยู่ด้วยกัน ตนเเละสามีมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยขึ้น เเต่ที่ถูกทำร้ายร่างกาย ตนจำได้ประมาณ 4 ครั้ง

279980

ครั้งที่ 1 จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร เเละวันที่เท่าไร เเต่จำได้ว่าทะเลาะกันบนรถกระบะของนายทิพากร ตนถูกตบเข้าที่บริเวณใบหน้า

ครั้งที่ 2 ช่วงประมาณเดือน เม.ย.64 ตนทะเลาะกันบนบ้าน จนนายทิพากร หยิบกรรไกรเเทงบริเวณหางคิ้วขวาของตน ซึ่งตอนนั้นตนก็วิ่งหนีเข้าไปในครัว เเละถือมีดออกมาข่มขู่นายทิพากร เเต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการทำร้าย อย่างที่เเม่สามีให้ข่าวไป ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น เเม่สามี ก็ยังให้ตนลงมานอนด้วยกันข้างล่าง เพื่อไม่ให้ตนเเละสามีทะเลาะกัน

234693

ครั้งที่ 3 วันถัดจากเหตุทะเลาะครั้งที่ 2 ตนต้องการที่จะย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อน เพราะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมนายทิพากร เเต่นายทิพากรไม่ยอม เเละเกิดปากเสียงกัน จนมีการขว้างปาโทรศัพท์มือถือของตนพังเสียหาย นางสายหยุด จึงเข้ามาห้ามเเละบอกว่าจะให้เงินซื้อโทรศัพท์ใหม่ 3,000 บาท หลังจากที่ตนได้เงินมาก็นำไปซ่อมเเซมโทรศัพท์ เเละได้ย้ายออกไปอยู่ที่บ้านของเพื่อน นายทิพากร ก็ได้ตามมาง้อให้กลับไปอยู่ด้วยกันเชานเดิม 

เเต่เมื่อตนกลับมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน กระทั่งวันที่ 14 มิ.ย.64 นางสายหยุด ต้องการที่จะกู้ยืมเงิน จึงขอร้องให้ตนช่วยติดต่อให้ เเต่ด้วยจำนวนเงินที่นางสายหยุดต้องการกู้มีจำนวนมากถึงหลักหมื่น เจ้าหนี้จึงไม่ยอมให้กู้ ทำให้ตนและนางสายหยุด ต้องสลับกันเป็นผู้ค้ำประกันให้กันและกัน เจ้าหนี้ถึงยอมให้กู้ ซึ่งเมื่อนายทิพากรทราบเรื่องในวันที่ 16 มิ.ย.64 ก็เกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งที่หนักที่สุด

cg_1

โดยในครั้งที่ 4 ตั้งเเต่ช่วงเช้าตนได้มาขายปลาหมึกย่าง ใกล้ ๆ กับร้านขายผลไม้ของนางสายหยุด ซึ่งนายทิพากร ก็นั่งดื่มเหล้าอยู่หลังร้าน ขอเงินก้อนที่ตนไปกู้มาทั้งหมด 13,000 บาท อ้างว่าจะนำเงินไปผ่อนรถกระบะ 9,000 บาท เเต่ตนไม่ยอมด้วยเหตุผลที่ว่าต้องเก็บเงินไว้ลงทุนขายของ อีกทั้งตนต้องส่งเงินให้ลูกชายที่อยู่ต่างจังหวัด เเต่นายทิพากรก็ตามตื๊อ จึงยอมให้ไป 4,000 บาท

กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. นายทิพากร กลับมาขอเงินอีกครั้ง และยังข่มขู่ว่า หากตนไม่ให้เงินก็จะทำร้ายร่างกาย ด้วยความกลัวตนจึงได้โทรศัพท์เเจ้งตำรวจ 191 เเละประสานงานกับตำรวจในพื้นที่ เเต่ไม่ได้อยากจะให้มาจับสามี หลังจากนั้นตนก็ได้เดินมาที่ร้านขายผลไม้ของนางสายหยุด เเละยื่นโทรศัพท์ให้นางสายหยุด คุยกับตำรวจ 

962524

เเต่เมื่อนายทิพากร เห็นเเละคงเข้าใจผิดคิดว่า ตนมาด่าว่าเเม่ของเขา นายทิพากร จึงเดินมาตบตน เเละทำร้ายร่างกาย ก่อนจะหยิบมีดปลอกผลไม้ของนายสายหยุด มาเเทงตน เเต่ตอนนั้นตนจำไม่ได้ว่าบริเวณใดบ้าง เพราะเป็นช่วงชุลมุนมาก ตนต้องยกเเขนขึ้นมาป้องกัน ซึ่งในช่วงนี้นางสายหยุด ก็เข้ามาห้าม เเต่สู่เเรงลูกชายไม่ไหว หลังจากนั้นมีดเล่มเเรกก็หัก นายทิพากรจึงต้องหยิบมีดอีกเล่มมาเเทงตนซ้ำ ก่อนที่ตนจะล้มลง เเต่นายทิพากร คงเข้าใจว่าตนสลบไป เขาจึงขับรถกระบะหลบหนีไป

222543668416302257

 

สำหรับอาการบาดเจ็บในตอนนั้น มีรอยเเผลถลอกบริเวณกรามฝั่งซ้าย มีแผลบริเวณอก ยาวประมาณ 17-20 ซม. ลึกประมาณ 3-4 ซม. ทะลุซิลิโคน ต้องเย็บ 2 ชั้น ตนจำจำนวนเข็มไม่ได้ ส่วนเเผลที่ถูกแทงบริเวณสีข้างฝั่งซ้าย ยาวประมาณ 6 ซม. เย็บ 3 เข็ม ต้องดูดหนองที่ค้างข้างในออก ส่วนเเผลบริเวณหลังมือขวาตรงโคนนิ้วก้อยต้องเย็บ 3 เข็ม เอ็นฉีกขาด รักษาใส่เฝือกอ่อนนาน 1 เดือน แผลถูกเเทงบริเวณอกซ้าย ลึก 2 ซม. ต้องเย็บ 2 เข็ม เเละแผลที่อกขวาบน ใกล้ไหปลาร้า ลึกประมาณ 1 ซม. ต้องเย็บ 2 เข็ม ส่วนอาการตอนนี้ที่บริเวณหน้าอกยังมีอาการบวม แพทย์เเนะนำให้นำซิลิโคนออก หรือเก็บซิลิโคนไว้ก่อน 1 ปี รอเนื้อเยื่อสมานตัว แล้วจึงค่อยถอดซิลิโคนออก

200851551023

หลังจากตนรักษาตัวในรพ.ได้ 3 วัน ครอบครัวของนายทิพากร ก็ไม่ได้ติดต่อเข้ามาเยียวยาอะไร เงินค่ารักษาพยาบาลตนก็ใช้สิทธิ์ 30 บาท ส่วนเงินประกันที่ตนทำไว้ ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ ทำร้ายร่างกาย ก็ยังไม่มีการจ่ายเงินเยียวยาเช่นกัน สิ่งที่ตนพูดในวันนี้ เป็นเพราะต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม เเละต้องการที่จะออกมาพูดความจริง ตนไม่ได้ทำงานขายบริการ เเละการทะเลาะกันของตนเเละเเม่สามี ตนยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันเลย รวมถึงวันที่เกิดเหตุ ตนก็ไม่ได้ด่าว่าเเม่สามี ส่วนเรื่องเงินกู้ ตนกู้เงินจริง ต่างตนต่างเป็นผู้ค้ำประกัน

429244

"มีคนให้ข้อมูลมาว่า สามีหนูหลังจากถูกจับกุมตัวที่ยโสธร เเละนำตัวกลับมาที่ฉะเชิงเทรา ครอบครัวก็ได้มีการประกันตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยเเล้วค่ะ ทำให้หนูรู้สึกหวาดกลัวมากว่าเขาจะกลับมาทำร้ายอีกหรือไม่" น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวทิ้งท้าย

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่บ้านของนายทิพากร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จากการสำรวจบริเวณรอบนอกบ้าน พบเป็นบ้าน 2 ชั้น ไม่มีรั้วรอบขอบชิด แต่ตั้งอยู่ติดริมถนน ไม่มีคนอยู่บ้าน ประตูปิดล็อก นอกจากนี้ ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปยังนางสายหยุด เเม่ของนายทิพากร เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกันตัวของนายทิพากร เเต่ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส