กะเทยโหดเชือดคอเพื่อนตอนหลับ ฉกทองเปย์หนุ่ม ญาติเดือดบุกห้องขังจี้ขมาศพ (คลิป)

กรณีเมื่อเวลาประมาณ 11.05 น. ของวันที่ 18 ต.ค. 64 น.ส.ดรุณี แก้วกระบิน อายุ 35 ปี สาวโรงงาน ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตภายในห้องพัก ม.3 ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยทรัพย์สินของผู้ตาย คือรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น PCX สีขาว 1 คัน, สร้อยคอทองคำรูปพรรณ 1 เส้น และเงินสดจำนวนหนึ่งหายไป

ซึ่งจากนั้นชุดสืบสวน สภ.ไทรน้อย เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ห้องพัก พบผู้ต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์ของ น.ส.ดรุณี ออกไปในช่วงตี 3 คือนายอมรเทพ สว่างดวง อายุ 24 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นสาวประเภทสอง เพื่อนสนิทของผู้ตาย

กระทั่งเมื่อเวลา 22.00 น. ตำรวจ บก.ภ.จว.ลพบุรี รวบตัวนายอมรเทพ ได้ที่ ต.ม่วงค่อม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี พร้อมรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย เจ้าตัวรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ และอ้างว่าต้องการชิงทรัพย์ เพราะติดยาเสพติด

ล่าสุด วันที่ 19 ต.ค. 64 ตำรวจ สภ.ไทรน้อย คุมตัวนายอมรเทพ สว่างดวง หรือ น็อต ผู้ก่อเหตุ มาที่สถานีตำรวจเพื่อทำการสอบสวนต่อ ในระหว่างการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำเพิ่มเติม นายน็อตบอกว่า "อยากขอโทษกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่ก่อเหตุไปเพราะมีความจำเป็น ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องเงิน ยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุไม่ได้ทะเลาะกับผู้ตายเลย"

สำหรับผู้ต้องหารายนี้ มีคดีที่ศาลพิพากษาพ้นโทษมาแล้วเป็นคดีก่อเหตุประทุษร้าย ชิงทรัพย์ และยาเสพติดที่ จ.อยุธยา โทษจำคุก 4 ปี และพ้นโทษมาเมื่อเดือนกันยายน 2563 ออกมาไม่มีมีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย มาอาศัยอยู่กับเพื่อน เบื้องต้น ผู้ต้องหาลงมือฆ่าผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว แต่ตำรวจจะสืบสวนขยายผลเรื่องค้ายาเสพติดต่อ

เจ้าหน้าที่ได้พบของกลางของผู้ตายที่ผู้ต้องหาขโมยไปเพิ่ม 16 รายการ รวมเป็น 20 รายการ คือรองเท้าแตะสีขาวจำนวน 1 คู่ ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นคู่ที่ใส่ในวันเกิดเหตุ, เงินสด 5,790 บาท เป็นเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายและได้มาจากการนำสร้อยคอทองคำไปขาย, แหวนทองคำหนัก 50 สตางค์ 1 วง เป็นแหวนที่ได้มาจากการนำเงินที่ขายแหวนวงเก่าของผู้ตายขายและนำมารวมกับเงินที่มีอยู่, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ทั้งรุ่นวีโว่ - ออปโป - หัวเว่ย, นาฬิกา 5 เรือน ทั้งรุ่นคาสิโอ - Protection - Calvinklein, สายชาร์จ, หูฟัง 3 อัน, กระเป๋าคาดเอว, แผ่นป้ายทะเบียนรถที่ถอดออกมา, เสื้อกันฝน, พวงกุญแจห้องพัก และถุงยาไมเกรนของผู้ตายด้วย รวมมูลค่าทรัพย์สินเกือบ 200,000 บาท

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า การก่อเหตุนายน็อตมีการเตรียมอาวุธมีดมา จงใจมาฆ่าแน่นอน จึงแจ้ง 2 ข้อหาคือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษสูงสุดติดคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะมีการสอบปากคำโดยละเอียดอีกครั้ง ก่อนขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรีฝากขัง

ซึ่งนายน็อตได้ให้การรับสารภาพคืนวันที่ 16 ต.ค. 64 เวลาประมาณ 22.00 น. ไปหาผู้ตายที่ห้องพักและอยู่ด้วยกันตลอด ต่อมาเวลา 02.00 น. ของเช้าวันที่ 17 ต.ค. 64 ได้ลุกไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ในห้องมีการสังเกตเห็นผู้ตายนอนอยู่บนที่นอน สวมสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท เกิดความอยากได้ทรัพย์สินของผู้ตาย จึงใช้มีดที่พกมาลงมือก่อเหตุ

จากนั้น เอาสร้อยคอทองคำพร้อมทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ หลบหนีไปด้วยรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย จากนั้นนำสร้อยคอทองคำและแหวนของผู้ตายไปขาย ได้เงินมาแล้วนำไปซื้อแหวนทองคำหนัก 50 สตางค์ 1 วง และเหลือเงินบางส่วนเพื่อไว้ใช้จ่าย และถูกตำรวจจับกุมตัวได้ที่ จ.ลพบุรี ซึ่งการฆ่าครั้งนี้ ผู้ต้องหาอ้างว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุ เกิดจากไปติดพันผู้ชาย จึงต้องการได้ทรัพย์สิน และรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย หลังชิงไปแล้ว ได้ขี่ไปหาผู้ชายที่ติดพันอยู่ที่ จ.ลพบุรี ก่อนถูกจับ เพราะก่อนหน้านี้ได้โกหกฝ่ายชายว่าจะซื้อรถใหม่

ทั้งนี้ เดิมที่ตำรวจจะต้องคุมตัวนายน็อต ผู้ต้องหา ไปทำแผนฯ เพราะในห้องที่เกิดเหตุไม่มีวงจรปิด หรือภาพที่จะยืนยันพฤติกรรมการก่อเหตุ แต่ต้องเปลี่ยนมาจำลองเหตุการณ์ที่ห้องสอบสวนชั้น 2 ของ สภ.ไทรน้อยแทน เนื่องจากทางตำรวจเกรงว่าญาติและประชาชนที่โกรธแค้นจะรุมประชาทัณฑ์

โดยให้ชุดสืบสวนนอนสมมติเป็นผู้ตาย และการก่อเหตุฆ่า ขณะ น.ส.ดรุณี นอนคว่ำอยู่ นายน็อตได้ขึ้นค่อมก่อนล็อกคอ ดึงคอขึ้นมาและใช้มีดปลายแหลมเป็นมีดพับเล็ก ๆ เฉือนไปที่คอ ใช้เวลาเพียง 5 นาที ขณะจำลองมี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เดินทางมาสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตัวเอง สังเกตการณ์ขณะทำแผนด้วย

ด้านนางนงลักษณ์ (นามสมมุติ) แม่ผู้ต้องหา เดินทางมาที่ สภ.ไทรน้อย พร้อมขนมและน้ำอัดลมและทิชชู 1 ถุงใหญ่ บอกว่าลูกชอบกินขนม แต่ไม่กล้าเข้าไป เพราะเห็นญาติคนตายอยู่ในโรงพักจึงกลัว จากนั้นวิ่งเอาของไปฝากตำรวจนายหนึ่ง บอกว่าฝากเยี่ยมลูก ทั้งนี้ ลูกไม่ไปบ้านนานแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ส่วนเรื่องคดี หลักฐานปรากฏชัดว่าลูกทำ ก็ให้ตำรวจดำเนินการ ตนไม่ปกป้อง

ทีมข่าวพยายามสอบถาม แต่แม่ผู้ต้องหาไม่ให้สัมภาษณ์ อ้างว่า "ตนไม่รู้ และมีอาชีพค้าขาย หวั่นได้รับผลกระทบ" เมื่อถามว่าอยากบอกอะไรกับครอบครัวคนตายไหม เจ้าตัวบอกว่า "ไม่รู้ ไม่พูด"

บรรยากาศที่ สภ.ไทรน้อย หลังมีการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นางสมจิต แก้วกระบิน อายุ 59 ปี แม่ผู้ตาย พร้อมด้วยญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต และนางสาวชมพู่ สอดห่วง อายุ 36 ปี เพื่อนสนิทของผู้ตาย ตะโกนบอกผู้ต้องหาว่า "มึงไม่ต้องร้องไห้ อีสั- เพราะว่ามึงเคยทำมาแล้วหลายครั้ง ลูกกูนอนหลับอยู่มึงฆ่าได้ยังไง เลี้ยงเหี้- ดีกว่าเลี้ยงมึง มึงต้องขอขมาลูกกู มึงตายในคุกสบายตัวได้เลย"

ล่าสุด ครอบครัวเชิญพระสงฆ์มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ น.ส.ดรุณี นางสาวสมพร แก้วกระบิน อายุ 39 ปี พี่สาวผู้ตาย เดินทางมาถึงหน้าหอพัก ร้องไห้ไม่หยุด และโผลเข้ากอดญาติ พูดตลอดว่า "มันทิ้งหนูไปแล้ว" ญาติพยายามปลอบว่า "อย่าร้อง เดี๋ยวน้องใจไม่ดี ไปไม่ดี" ก่อนที่พี่สาวจะเป็นจะล้มทั้งยืน ญาติต้องพยุงไปนั่งพัก และไม่สามารถร่วมพิธีเชิญดวงวิญญาณน้องสาวตัวเองได้ เพราะญาติเชื่อเรื่องกลัวน้ำตาหยดใส่จุดที่ตาย แล้วคนตายจะเป็นห่วง

จากนั้นพระสงฆ์ 1 รูป ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณภายในห้องพักที่เกิดเหตุ ให้นางสมจิต แก้วกระบิน อายุ 59 ปี แม่ผู้ตาย และน้องแพรว อายุ 11 ปี ลูกสาวผู้ตาย เรียกผู้ตายกลับบ้าน ขณะนั้นทั้งคู่เห็นกองเลือดบนที่นอนและฝาผนัง ทำใจไม่ได้ และโอบกอดร้องไห้ ผู้เป็นแม่พูดว่า "ไปกับแม่นะ แม่มารับลูกแล้ว ลูกของหนูแม่ดูแลเอง ทำไมมันฆ่าลูกแม่ได้เหี้ยมโหด แม่ไม่ให้อภัย ไม่ต้องห่วงอะไรนะลูก"

น้องแพรว ลูกสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้แม่จะตกงาน และเพิ่งเปลี่ยนงานมาทำงานโรงงานใหม่อีกแห่งหนึ่งได้ 3 เดือน ส่วนตนก่อนหน้านี้เรียนออนไลน์และตอนนี้ปิดเทอมมาประมาณ 1 เดือนแล้วก็ได้ไปพักอาศัยอยู่กับแม่ ก่อนฉีดวัคซีนและไปอยู่บ้านยาย จึงเชื่อว่าคนก่อเหตุรู้ว่าตนไม่อยู่ จึงไปหาแม่เพื่อหวังฆ่า และวางแผนมาก่อน เนื่องจากทุกครั้งที่ผู้ก่อเหตุจะไปหาแม่ มักจะโทรศัพท์มาก่อนถามว่า "น้องแพรวอยู่ไหม" ถ้าตนไม่อยู่ผู้ก่อเหตุถึงจะไปหาแม่

ส่วนนิสัยผู้ก่อเหตุดูน่ารัก เอ็นดูตนปกติ ไม่มีพิษภัย เมื่อไรที่แม่ตนมีปัญหาผู้ก่อเหตุก็จะช่วยแม่ทันที เป็นสาเหตุที่แม่รักและไว้ใจมาก แม้จะเคยมีประวัติไม่ดีมาก่อนก็ตาม ส่วนเรื่องยาเสพเชื่อได้แม่ไม่รู้เพราะผู้ก่อเหตุเคยยืนยันกับแม่ว่าไม่ทำแล้ว รวมถึงแม่เป็นคนเกลียดเรื่องแบบนี้ สำหรับตนไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนนี้ที่ทำแม่ เพราะแม่รักเพื่อนคนนี้มากจริง ๆ

นางสาวสมพร แก้วกระบิน อายุ 39 ปี บอกว่ ตนาเสียใจมากที่สุดในชีวิต เพราะที่บ้านมีพี่น้อง 5 คน ตนเป็นลูกสาวคนโต ส่วนผู้ตายคือน้องสาวคนที่ 3 เราสนิทกันมาก ล่าสุดตนเลิกกับแฟน น้องสาวก็ปลอบตนบอกว่าจะมาอยู่ด้วย เพราะงานน้องเองตอนนี้ไม่ค่อยมีโอที จึงสัญญาว่าจะไปอยู่ด้วยกันที่ร้าน

ส่วนสาวสองคนนี้สนิทกับน้องสาวตนมาก และน้องรักเพื่อนคนนี้ไว้ใจกันมาก ส่วนตนก็เคยเห็นสาวประเภทสองคนนี้ไปกินข้าวที่ร้านประจำ ตนก็รักเหมือนน้อง ขณะเดียวกันตนมักจะเตือนน้อง บอกน้องว่าให้ระวังตัว ล็อกห้องให้ดี โดยที่ไม่เคยคิดระแวงคนใกล้ตัว แม้จะรู้ว่าสาวประเภทสองคนนี้เคยติดคุกในคดีลักขโมยมาก่อน ตนก็ไม่เคยคิดระแวง และเขาก็มีพฤติกรรมปกติ ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับน้องสาวเลย "สำหรับตนไม่ขอให้อภัย ขอให้ถูกประหารชีวิตไปเลย แต่วันนี้ยังไงก็อยากให้มันมาขมาน้อง วอนตำรวจอย่าปล่อยมันออกมา ให้มันโดนประหาร เพราะเดี๋ยวมันก็ไปฆ่าคนอื่นอีก"

ทีมข่าวตรวจสอบบนเฟซบุ๊กของนายน็อต ขึ้นหน้าปกเป็นชายที่ใช้ชื่อว่า "บังอัด ลพบุรี" ทีมพยายามติดต่อไป แต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับมา

ล่าสุดได้พูดคุยผ่านแชตกับบุคคลที่รู้จักกับบังอัด บุคคลที่คบหาอยู่ ระบุว่า "แค่รู้จักบังอัด สเปคชอบสาวประเภทสอง แต่คบหาเพื่อหลอกแดก"