เมื่อวันที่ 18 ต.ค.64 นับเป็นคืนที่ 2 แล้ว สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรมศพของ "อ๊อด คีรีบูน" หรือ นายรณชัย ถมยาปริวัฒน์ นักร้องนำและหัวหน้าวง คีรีบูน ที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งสมองระยะสุดท้าย ในวัย 57 ปี
โดยพิธีจัดขึ้นที่ศาลา 2 วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร คืนนี้ครอบครัวเป็นเจ้าภาพ ในส่วนของคนที่มาร่วมไว้อาลัยก็มีเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มทะยอยมากันตั้งแต่เวลา 17.00 น. สำหรับสิ่งที่แตกต่างจากเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.64) ทางครอบครัวได้นำเพลงของพี่อ๊อด มาเปิดระหว่างก่อนจะมีพิธี ซึ่งมีแต่เพลงฮิตติดหูที่โด่งดัง อาทิ รอวันฉันรักเธอ, อดีตรักยามเย็น และอีกมากมาย
ด้านคนในวงการบันเทิงที่มาร่วมพิธีในวันนี้ ก็มี ชมพู ฟรุตตี้, ต้อม เรนโบว์, เป้ ไฮร็อค, ฮาร์ท สุทธิพงษ์, หนุ่มเสก เสกสรรค์, หนึ่ง จักรวาล และซินแสเป็นหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางปภัสสรา ถมยาปริวัฒน์ หรือ เอ้ก วัย 57 ปี ผู้เป็นภรรยา และน.ส.ชมนวรรณ ถมยาปริวัฒน์ หรือ เอิ๊ก อายุ 26 ปี ลูกสาว ซึ่งวันนี้สังเกตว่าภรรยาดวงตาบวมมาก
น.ส.ชมนวรรณ กล่าวว่า แม่ร้องไห้หนักมากทุกวัน เพราะแม่และพ่ออยู่ด้วยกันมานานกว่า 40 ปี อีกทั้งทั้ง 2 คนยังเป็นรักแรกและรักเดียวของกันและกัน ตนก็ขอขอบคุณคนที่กล่าวชื่นชมตนมาก ๆ ที่เห็นว่าตนเข้มแข็ง ตนไม่ถนัดด้านการร้องเพลงและการแสดง แต่ถนัดเต้น ซึ่งมีโอกาสแข่งเต้นจนเป็นแชมป์อันดับ 1 ของประเทศไทย จึงถูกส่งเป็นตัวแทนไปแข่งเต้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยเรื่องนี้พ่อก็รับทราบและสนับสนุนมาโดยตลอด เวลาที่ตนแข่งเต้นก็จะไปดูทุกครั้ง แล้วเวลาที่ตนซ้อมจนกลับบ้านดึก พ่อก็ไม่เคยว่า เรียกว่าปล่อยให้ตนทำในสิ่งที่รัก ตนดีใจมาก ๆ ที่ทุกคนมาร่วมส่งพ่อมากมายขนาดนี้ ตนไม่คิดเลยว่าคนจะรักพ่อมาก ๆ เพราะช่วงนี้คนน่าจะกังวลสถานการณ์โควิด-19 ตนขอบคุณแทนพ่อด้วย และตนเชื่อว่าพ่อคงจะอิ่มเอมใจมากหากได้เห็น เพราะในเวลานี้กำลังใจเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ สำหรับครอบครัว
นางปภัสสรา กล่าวว่า เส้นทางความรักของตนกับสามี เกิดขึ้นตั้งแต่อายุ 17 ปี ตอนนั้นยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน เท่ากับว่าเป็นรักแรกและรักเดียวของกันและกัน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 40 ปีแล้ว พี่อ๊อด ตามจีบตน 1 ปี เพราะตนเรียนหญิงล้วน จึงไม่ค่อยมีความรู้สึกอะไรกับผู้ชาย แต่พอเข้ามหาวิทยาลัย ตนก็เริ่มรู้สึกว่าเขาจริงใจ ก็คบเป็นแฟน 7 ปี แล้วก็แต่งงาน ตนก็รู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่รับรัก เพราะเขาเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่วันแรก ปัจจุบันแต่งงานมีลูกเขาก็ยังเหมือนเดิม ขนาดช่วงที่เขาไม่สบาย ยังขอขับรถให้ตนนั่ง ทั้ง ๆ ที่ตนก็ขับรถได้ เพราะเขาบอกว่าเขาขอเป็นสุภาพบุรุษดูแลลูกเมีย
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขาตัดสินใจลาออกจากค่าย ทั้ง ๆ ที่กำลังโด่งดัง จนทำให้โดนดอง ไร้งาน ไร้เงินอยู่หลายปี เรียกว่าช่วงนั้นลำบากมากจริง ๆ ก่อนจะมาตั้งตัวได้จากการเปิดโรงเรียน โดยตอนนั้นเขาตัดสินใจก็เพราะเขาไม่ยึดติดกับชื่อเสียง เนื่องจากเข้าวัดตั้งแต่ ม.4 แล้วเขาก็ดึงตนเข้าวัดตั้งแต่ที่คบกัน วันหยุดก็จะพาตนไปวัด ไม่ได้ไปเที่ยวไหน
ที่ผ่านมา ช่วงที่พี่อ๊อดป่วยหนัก ๆ ตนก็เตรียมใจมาพอสมควร แต่พอถึงเวลาตนก็ไม่รู้ว่าจะรับได้แค่ไหน เพราะเขายังอยู่ในใจตนตลอด เขาเป็นคนปลอบใจทุกคน แล้วก็สั่งว่าหากเขาเป็นอะไรไปก็เสียใจได้ แต่อย่าเสียใจนาน อย่างวันนี้ที่เปิดเพลงก่อนเริ่มพิธี ก็อยากคนที่มางานไม่เศร้า ก่อนจะเสียชีวิตตนพูดคุยกับเขาหมดทุกอย่าง แล้วก็บอกเขาว่า “อ๊อดอยู่กับพุทโธนะ อยู่กับครูบาอาจารย์นะ เดินตามครูบาอาจารย์ไปนะ” เขาก็พยักหน้า ซึ่งตนคิดว่าเขารับรู้และเชื่อว่าไปสบายแน่นอน
