ผัวแข้งโหดซ้อมเมียตายต่อหน้าลูก โทรสารภาพทืบน่วม เด็ก 4 ขวบคิดว่าแม่หลับ (คลิป)

18 ต.ค. 64

วันที่ 18 ต.ค. 64 ช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. ร.ต.อ.ก้องภพ ถึงแสง พนักงานสอบสวน สภ.ร้องกวาง จ.แพร่ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในห้องนอนของบ้าน หมู่ 3 ต.ร้องกวาง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ทราบชื่อ นางอุษณา กิติขู้ อายุ 41 ปี นอนอยู่บนที่นอน ห่มผ้า คล้ายคนนอนหลับ และสวมเสื้อยืดลายพรางสีเขียว กางเกงขาสั้นสีเขียว

286912548995

ตรวจสอบพบว่าตามลำตัวมีรอยฟกช้ำตามร่างกายจากการถูกทำร้าย โดยเฉพาะบริเวณหน้าอก แผ่นหลังช่วงบน ลำตัว และแขนขวา แพทย์ชันสูตรเบื้องต้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12-15 ชั่วโมง

422451

ช่วงประมาณ 18.40 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ไม่มีคนอยู่บ้าน จึงเดินทางต่อไปยังบ้านครอบครัวของผู้ตาย ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร ทราบว่าผู้ก่อเหตุแท้จริงแล้วคือสามีของผู้ตาย ทราบชื่อคือ นายพงศกร พรมใจ อายุ 37 ปี หลังจากก่อเหตุก็ได้หลบหนีไปทันที เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามประสานตามตัวมาดำเนินคดี คาดว่าคงหนีไปยังภูมิลำเนา จ.น่าน

545708

นางรัตนา เขื่อนโพธิ อายุ 41 ปี ลูกพี่ลูกน้องผู้ตาย เล่าว่า สามีผู้เสียชีวิตโทรไปบอกญาติ ญาติเขาโทรมาบอกตนอีกทีว่าเกิดเหตุขึ้น ตนก็เลยพาแม่มาดู โทรศัพท์ผ่านลุงข้างบ้านตอนมาถึง ก็ไม่พบใครบ้านเงียบ ไม่ได้เปิดเข้าไป แต่ไปเรียกแม่ของสามีผู้ตายมาดูพร้อมกัน พอเปิดเข้าไป พบว่าเสียชีวิตแล้ว

554153

นางพอดี ถึงดี แม่ของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ประมาณ 06.00 น. ตนกำลังนึ่งข้าวเหนียวไว้บนเตาในบ้านตัวเอง ซึ่งห่างออกไปประมาณ 200 เมตร แล้วก็แวะเอาแกลบไปให้ลูกชาย เพื่อเอาไว้สำหรับให้เป็ด ไก่ที่เขาเลี้ยงไว้ในสวนหลังบ้าน แล้ว ลูกชายก็ตะโกนออกมาบอกให้ตนช่วยพาลูกสาววัย 4 ขวบของเขาไปโรงเรียนหน่อย ตนจึงบอกให้หลานแต่งตัวเร็ว ๆ เพราะกลัวกลับมาไม่ทัน แล้วข้าวเหนียวจะไหม้เสียก่อน จากนั้นประมาณ 07.00 น. ตนก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งหลานโรงเรียนทันที ไม่ได้เจอกับลูกชายและลูกสะใภ้ เพราะรีบมาก

688298

ต่อมาช่วงประมาณ 09.00 น. ตนก็พาหลานกลับมาส่งที่บ้านเกิดเหตุ แล้วก็ขับรถกลับบ้านไป แต่ตนก็ไม่ได้เจอลูกชายกับลูกสะใภ้ เพราะไม่เอะใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งช่วงประมาณ 10.00 น. หลานสาววิ่งมาบอกกับตนว่า "ย่า ย่า ย่า เข้าไปบ้าน ไปดูว่าแม่ตื่นหรือยัง" แต่ตอนตัวเองยังวุ่น ๆ อยู่กับการทำกับข้าวก็เลยไม่ได้เข้าไปดู และไม่ได้ตอบอะไรหลานด้วย เพราะเห็นว่าหลังจากหลานพูดเสร็จก็เดินไปเล่นกับหมาแมวที่หน้าบ้าน

793893

จนกระทั่งช่วงประมาณ 12.00 น. กว่า ๆ ด้านของนางแหวง แม่ของผู้ตาย เข้ามาบอกว่าลูกชายตนทำร้ายลูกสะใภ้จนตายคาที่ไปแล้ว จึงรีบพากันมาดู ปรากฎว่านางอุษณานอนตายอยู่ในผ้าห่ม ลักษณะคล้ายนอนหลับ ทำให้ตนแอบกลับมาคิดเหมือนกันว่าเหมือนหลานกำลังจะบอกเป็นนัย ๆ ว่าแม่โดนพ่อทำร้ายแล้วหลับไปตั้งแต่เมื่อคืน และยังไม่ตื่นจนถึงเช้า

cg

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่รู้แน่ชัดว่าสาเหตุที่ลูกชายทำร้ายเมียจนตายนั้นเกิดจากอะไร แต่ปกติเขาก็ชอบทะเลาะกันอยู่แล้วตามประสาผัวเมีย ลูกชายตนชอบบ่นว่าลูกสะใภ้หรือเมียมีคนอื่น ซึ่งตนก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะเวลาเขามีปัญหาอะไรกัน เขาจะไม่ค่อยมาบอกตน สุดท้ายตนก็อยากบอกกับลูกชายที่กำลังหลบหนีว่าตัวเองทำผิด ก็ให้เข้ามารับผิด แม่ยินดีให้อภัย ส่วนกับลูกสะใภ้ก็สงสารเหมือนกัน อยากให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี

541919

นางแหวง กิติขู้ อายุ 67 ปี แม่ของผู้ตาย บอกว่า ช่วงประมาณเที่ยง ตนอยู่ที่บ้านในอีกหมู่บ้านหนึ่ง แล้วน้องชายตน นายคำสุข กามาตร อายุ 63 ปี โทรมาบอกว่าลูกเขยฆ่าลูกสาวตายแล้ว ตนจึงรีบไปบอกนางพอตา แม่ของผู้ก่อเหตุ แล้วก็พากันไปดูว่าจริงหรือเปล่า ก็พบว่าลูกสาวนอนตายอยู่แล้ว แต่ลูกเขยไม่อยู่ในพื้นแล้ว ยอมรับว่าตอนที่ไปถึงบ้านและรู้ว่าลูกสาวตาย ไม่กล้าเข้าไปดูศพลูกเลย

ซึ่งสาเหตุของการทำร้ายร่างกายกันนั้น ตนคาดว่าลูกเขยคงเมา เพราะหลานยังเล่าให้ฟังอีกว่าช่วงประมาณ 20.00 น. ของเมื่อคืน เห็นว่าพ่อกับแม่นั่งกินเหล้าอยู่ด้วยกัน แม่กินไป 2 แก้ว ส่วนพ่อกินไปเยอะมาก บวกกับเวลาเมา ตนบอกว่าลูกเขยชอบคิดไปเองว่าเมียมีชู้ แอบซ่อนกิ๊กไว้ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง

ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แค้นลูกเขยมาก แต่ก็จะขออโหสิกรรมให้ เพราะยังไงเขาก็เป็นผัวเมียกัน จึงอยากให้เข้ามามอบตัว ส่วนเรื่องบทลงโทษทางกฎหมาย ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของตำรวจ เพราะเห็นว่าตำรวจสามารถตามเจอรถมอเตอร์ไซค์ที่ลูกเขยใช้ขับหลบหนีไปอยู่ที่บ้านใน จ.น่าน

780629

นายคำสุข กามาตร อายุ 63 ปี น้าผู้ตาย ที่ได้รับโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายจากผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เวลาประมาณ 11.00 น. ตนตั้งใจจะโทรไปหานายพงศกร เพื่อให้มาฉีดวัคซีนที่อนามัยในหมู่บ้าน แต่เขาไม่รับสาย ต่อมาเวลา 11.24 น. นายพงศกรก็โทรกลับมาแล้วบอกกับตนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "เมียผมตายไปแล้ว ผมกระทืบมัน ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง" แล้วก็วางสายไปเลย ตนยังไม่ได้ถามอะไรเลย ตัวเองก็เลยรีบประสานครอบครัวของทั้ง 2 ฝั่งให่เข้าไปในที่เกิดเหตุ ก็พบว่านางอุษณาตายแล้ว

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส