กรณีร.ต.ท.พงศกร อินทร์คง รองสว.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุมีชายกระโดดลงมาจากชั้น 3 สถานีรถไฟฟ้า BTS ปู่เจ้า ถนนสุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ลงมากระแทกพื้นด้านล่างเสียชีวิต หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบนทางเดินเท้าข้างป้ายหยุดรถประจำทาง ซึ่งอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้าได้พบศพ นายกฤษณะ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี นอนหงายเสียชีวิตในสภาพแขนซ้าย ขาซ้าย และคอหัก ตรวจค้นในกระเป๋าสะพานที่ผู้ตายสะพายอยู่ได้พบ บัตรประจำตัวนักศึกษา ชั้น ปวส.1 สาขาช่างไฟฟ้า จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนมอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถานบันนิติเวช
ล่าสุดวันที่ 18 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายังวัดด่านสำโรง ศาลา 1 ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลของนายกฤษณะ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า พ่อ แม่ และน้องสาว ต่างร่ำไห้ โดยได้เดินไปกอดศพ ลูบหน้า โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อที่ได้เข้าไปกอด จับใบหน้า และนั่งจับปลายเท้าของลูกชาย
น.ส.เพื่อน (นามสมมติ) อายุ 43 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่า ตนมีลูกทั้งหมด 2 คน ซึ่งผู้ตายเป็นลูกชายคนแรก ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าตนได้นั่งทานกาแฟ และได้แยกย้ายกันที่บีทีเอสสำโรง ต่อมาช่วงเย็นเวลา 17.20 น. ลูกชายได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่าเลิกเรียนแล้ว กำลังจะกลับบ้าน ไม่มีวี่แววว่าลูกชายเครียดหรือมีปัญหาอะไร ก่อนที่จะบอกให้ผู้ตายซื้อไก่ย่างกลับไปให้น้องสาวของเขาด้วย ซึ่งทางผู้ตายก็ได้ตอบตกลงและได้บอกว่าหากถึงบีทีเอสสำโรงแล้วจะโทรบอกอีกครั้ง จากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย
ขณะที่เกิดเหตุนั้น น้องสาวของผู้ตายได้โทรศัพท์มาบอกให้ตนรีบเดินทางไปที่สภ.สำโรงเหนือ เนื่องจากผู้ตายจะกระโดดลงมาจากบีทีเอส ตนได้พยายามติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะนั้นไม่คิดว่าผู้ตายจะกระโดนลงมา คิดว่าตำรวจคงพาตัวไปที่สภ.สำโรงเหนือ เมื่อไปถึงที่สภ.สำโรงเหนือ ตำรวจบอกให้ตนนั้นทำใจ พอทราบแล้วตนหัวใจสลายทำอะไรไม่ถูก
ที่ผ่านมาผู้ตายลักษณะนิสัยเป็นเด็กที่เงียบ ไม่ได้มาปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาหาเรื่องการเรียน ส่วนมากแล้วมักจะมาพูดคุยหรือมาเล่นกับตน แต่จะเงียบขรึมกับผู้เป็นพ่อ ส่วนสาเหตุที่ผู้ตสยตัดสินใจกระโดดลงมานั้น คาดว่าเครียดเกี่ยวกับเรื่องของการเรียน ซึ่งผู้ตายเรียนอยู่ปวส.ปี 2 ช่างไฟฟ้า โดยผู้ตายบอกว่าติดศูนย์ 1 วิชา หากไม่แก้ก็จะไม่จบพร้อมกับเพื่อน ตนจึงแนะนำให้ไปน้องสาวช่วยกันพิมพ์งาน
กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 17 ต.ค.64 ผู้ตายบอกว่าจะไปรับวุฒิการศึกษา และตนได้หยอกล้อว่า "หากไม่ได้รับวุฒิการศึกษาจะไปจัดการคุณครูที่โรงเรียนให้ ทำไมไม่ให้ลูกของแม่เรียนจบสักที" ภายหลังตนมาทราบว่าผู้ตาย ติดศูนย์ 6 ตัว ตนคาดว่าผู้ตายน่าจะกลัวว่าถูกพ่อแม่ดุ จึงเกิดความเครียด หาทางออกไม่ได้ กระทั่งตัดสินใจกระโดดลงมา ประกอบกับอาจกดดันที่ผู้เป็นพ่อได้ตั้งความหวังเอาไว้เยอะ
สำหรับตนที่เป็นแม่ ไม่เคยกดดันหรือคาดหวังให้ลูกประสบความสำเร็จ แต่ยอมรับว่าสามีของตนนั้นกดดัน เพราะอยากให้ลูกประสบความสำเร็จ และตัวของสามีเรียนไม่สูง จึงจะต้องพยายามให้ลูกเรียนจบสูง ส่วนตนนั้นจะเลี้ยงลูกเหมือนเพื่อนมีอะไรก็จะพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม หากผู้ตายโทรมาปรึกษาก่อน ตนเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ตนไม่ได้เครียดเกี่ยวกับเรื่องการเรียน ซึ่งเขาเรียนปานกลาง นอกจากนี้ตนไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไร
