สท.โหดบุกตบสาวคาร้านกาแฟฉุนไม่จ่ายหนี้ เหลืออดหลังทวงถี่ เหยื่อแฉดอกโหดรับผวาถูกขู่ฆ่า (คลิป)

กรณีสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแห่งหนึ่ง ได้บุกเข้าไปร้านกาแฟใกล้ตลาดโรงเกลือสระบุรี ก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายหญิงสาวรายด้วยการตบเข้าที่ใบหน้า กระชากผม ดึงศีรษะ เเละทำร้ายร่างกาย โดยมีสาเหตุมาจากหญิงสาวติดหนี้ฝ่ายชาย 

ล่าสุดวันที่ 17 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่ร้านกาแฟใกล้ตลาดโรงเกลือสระบุรี ในพื้นที่ หมู่ 9 ต.นายาว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เเละได้พบกับ นางฝน (นามสมมติ) อายุ 37 ปี หญิงสาวที่ถูกทำร้าย

นางฝน ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับฝ่ายชาย อายุ 40 ปี ที่มีอาชีพเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแห่งหนึ่ง มาได้เกือบ 10 ปีเเล้ว สนิทกันเหมือนพี่น้อง โดยปกตินิสัยของเขาก็มักจะเป็นคนปากร้ายใจดี ชอบโวยวาย ในช่วงปี 2559 ตนมีลูกที่ต้องดูแล 5 คน การทำงานร้านกาแฟเพียงอย่างเดียว รายได้เเละค่าใช้จ่ายจึงไม่เพียงพอ จึงได้หยิบยืมเงินจากเขา จำนวน 20,000 บาท เพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว ทั้งค่านมลูก ค่าเทอม ซึ่งตนจะต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยร้อยละ 10 ที่ผ่านมาตนก็จ่ายมาโดยตลอด เเต่เงินต้นที่ยืมมาไม่เคยลดลง

หลังจากที่มีการยืมครั้งเเรก ซึ่งเป็นการยืมปากเปล่า ไม่มีการเซ็นเอกสารสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้น ตนก็ไม่ได้จดไว้ว่ายืมมากี่ครั้ง เเละจำนวนเงินเท่าไร ซึ่งเขาก็มักจะมีพฤติกรรมชอบให้ยืมเงิน เช่น มีอยู่ครั้งหนึ่งตนยืมเงิน จำนวน 60,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ตนค้างดอกเบี้ยไว้ 3 เดือน รวมดอกเบี้ย 18,000 บาท ตนจะต้องคืนจำนวน 78,000 บาท เเต่เขาก็มีการบอกกับตนว่าจะให้ยืมอีก 2,000 บาท กลายเป็น 80,000 บาท ซึ่งดอกเบี้ยก็จะทบเพิ่มไปเรื่อย ๆ

กระทั่งต.ค.64 เขาทักมาในเเชต เพื่อมาทวงเงิน เเต่ตนก็จำไม่ได้ว่าสรุปเเล้วว่ายืมเงินมาเท่าไรกันเเน่ รู้เเค่ว่าตนไม่มีเงินต้นจ่าย จึงจะขอผ่อนจ่ายเดือนละ 2,000 ซึ่งเขาก็ได้เสนอให้ตนนำรถยนต์ของแฟนหนุ่มไปจำนำที่ร้านในตัวอำเภอเมืองสระบุรี ที่เขารู้จัก อาจจะได้เงินต้นมาสัก 100,000 - 200,000 บาท เเต่มีดอกเบี้ยร้อยละ 10 เเละมีค่าจอดรถอีกเดือน 2,000 บาท ตนไม่อยากนำรถไปจำนำ จึงไม่ได้ตอบตกลง

จากนั้นวันที่ 14 ต.ค.64 เขาได้พิมพ์ข้อความขอนัดเจอกับที่ร้านกาแฟที่ตนทำงาน ในวันที่ 15 ต.ค.64 เวลา 13.30 น. เเละทวงเงินค่าดอกเบี้ย จำนวน 2,000 บาท เเต่ตนไม่มีเงิน จึงขอผ่อนจ่ายสิ้นเดือนต.ค.64 เพราะตนเงินเดือน 5,000 กว่าบาท คงหาเงินมาจ่ายไม่ไหว เขาก็ตะโกนโวยวายว่า “ฝน ออกมาคุยกับกูหน่อย” ตนจึงบอกว่า “แป๊บหนึ่ง ถ้าทำกับข้าวเสร็จจะออกไป พี่จะมาโวยวายทำไม นี่ไม่ใช่ร้านหนู” หลังจากนั้นเขาก็ปาแก้วอัดเข้ากำแพง พร้อมกับบอกว่า “ทำไมกูจะโวยวายไม่ได้” ก่อนจะใช้ฝ่ามือตบตนเข้าที่บริเวณใบหน้า 2 ครั้ง หลังจากนั้นตนจึงเก็บกระเป๋าเพื่อที่จะเดินออกไปเเจ้งความ เขาก็ดึงผมจิกหัวกระชากมาตบเป็นครั้งที่ 2 ตนจำไม่ได้ว่าโดนตบไปอีกกี่ครั้ง จนครั้งที่ 3 เขาก็ลากตนมาตบซ้ำ ๆ

หลังจากนั้น เพื่อนของเขาก็เข้ามาดึงตัวออกไป ก่อนที่ตนจะเดินออกจากร้านกาแฟ เเละเเจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.พระพุทธบาท ตำรวจที่รับเรื่องจึงได้ทำหนังสือส่งตัวไปตรวตร่างกายที่ รพ.พระพุทธบาท ส่วนรอยบาดแผล ยังคงมีรอยเขียวช้ำบริเวณท้องเเขนขวา เเละต้นเเขนซ้าย ตอนนี้ยังคงมีอาการปวดศีรษะ เเละหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดต่อกลับมาให้ตนเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตั้งเเต่ในวันนั้น ตนกับเขาก็ยังไม่เจอกันอีกเลย เเต่หลังจากเกิดเหตุ เขาได้ส่งข้อความกลับมาหาตน เเต่ไม่ได้เป็นการขอโทษ เป็นการทวงถามเงินทั้งหมดที่ตนต้องคืน จำนวน 295,000 บาท ที่ยังไม่รวมดอกเบี้ย ซึ่งตอนนั้นตนตกใจมาก ๆ ไม่คิดว่าจำนวนเงินจะเยอะขนาดนี้ ตนคิดว่ามากกว่าที่ตนยืมมาถึง 2 เท่า และเขาขู่ว่าจะต้องหามาคืนภายในสิ้นเดือนต.ค.64 

ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปหานายชาญชัย ตระกูลพานิชย์ อายุ 40 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลดังกล่าว เปิดเผยว่า นางฝน เป็นลูกน้องของตน และตนก็คอยช่วยเหลือมาโดยตลอด เเต่นางฝนไม่เคยส่งดอกเบี้ย อีกทั้งตนยังเคยไปกู้เงินมา 50,000 บาท เพื่อมาให้นางฝนไปซื้อลอตเตอรี่เพื่อเอาไปขาย นางฝนจะเอารถจักรยานยนต์มาจำนำกับตน จำนวน 20,000 เเต่ตนไม่รับ จึงบอกให้นางฝนเก็บไว้ใช้ 

นอกจากนี้ ตนทราบว่านางฝน เล่นเเชร์ เเละบอกว่าถ้าเปียได้จะนำเงินมาคืน ตั้งเเต่วันที่ 10 ต.ค.64 เเต่เมื่อตนไปทวงถามในวันที่ 11 ต.ค.64 นางฝนก็บอกว่า ในวันที่ 15 ต.ค.64 ให้ตนมารับเงิน ตนเลยบอกว่า “ฝน ไหนว่าจะมาคุยไง” เเต่นางฝน ก็ใช้คำพูดคำจาไม่ดีใส่ตนก่อน อีกทั้งนางฝน ยังอ้างว่าคนที่เป็นท้าวเเชร์หนีไปแล้ว จริง ๆ เท้าเเชร์ที่นางฝนอ้างถึง ไม่มีตัวตนจริง ตนจึงต้องตบเพื่อสั่งสอน

“ฝนไม่เล่าถึงตัวมันหรอก เพราะมันทำกับพี่ไว้เยอะ พี่จะบอกให้ ไม่จ่ายเขาไปทั่ว เเต่พี่เห็นมันเป็นน้องสาว รักมันเหมือนน้อง เเต่มันมาหักหลังพี่ ไม่จ่ายเงินคืนพี่” ผู้ก่อเหตุ กล่าว