จับแล้วแก๊งอำพรางศพยัดซอกหินเซ่นหนี้ ญาติฉะมือยิงโกหกฆ่าแล้วโยนผิดให้น้อง (คลิป)

คดียิงแล้วอำพรางศพยัดซอกหิน จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบแล้วว่า ผู้ก่อเหตุมี 2 คน ได้แก่ นายธนิตย์ วังกุ่ม หรือ บอล อายุ 37 ปี และนายรุ่ง บุญมอญ อายุ 36 ปี โดยนายธนิตย์ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 15 ต.ค. 64 รับสารภาพว่าช่วยกับนายรุ่งในการอำพรางศพ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิงนั้น

ทราบชื่อผู้ตาย นายบัญชา กลิ่นเกษร อายุ 37 ปี ชาว ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี อาชีพช่างทำเฟอร์นิเจอร์ และงานอดิเรกเป็นช่างซ่อมรถยนต์ โดยญาติได้เดินทางเข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.หนองรี ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.64 เนื่องจากนายบัญชา ได้เดินทางออกมาหาเห็ดและของป่า แต่ไม่ได้แจ้งพิกัดว่าไปที่ใด เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 9 ต.ค.64 แล้วหายตัวออกจากบ้านไปนับตั้งแต่นั้น

ล่าสุด วันที่ 16 ต.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองรี ได้นำตัวนายธนิตย์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งนายธนิตย์บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ในช่วงเย็นของวันที่ 9 ต.ค. นายรุ่งได้มีปากเสียงกับผู้ตายบริเวณเชิงเขา ในพื้นที่บ้านโป่งรี หมู่ที่ 6 ต.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่จุดอำพรางศพ จากนั้นนายรุ่งก็ได้ยิงผู้ตาย แล้ววานให้ตัวเองช่วยอำพรางศพ

โดยได้ช่วยกันนำศพของผู้ตาย พร้อมรถจักรยานยนต์ของผู้ตายบรรทุกขึ้นท้ายรถอีแต๋น ช่วยกันนำร่างของผู้ตายไปยัดอำพรางที่ซอกหิน ซึ่งจำไม่ได้ว่าผู้ตายถูกยิงในเวลากี่โมงและบริเวณจุดไหนของป่า อีกทั้งยังจำเส้นทางของการนำศพไปอำพรางไม่ได้

เมื่ออำพรางศพของผู้ตายแล้ว นายธนิตย์ก็ได้นำปืนที่ใช้ก่อเหตุไปเก็บไว้ที่บ้าน จากนั้นได้ขับรถอีแต๋นออกจากบ้าน ไปจอดที่ ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา เพื่อนำรถอีแต๋นไปซ่อน ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งน้ำที่อำเภอพนมทวน แล้วแยกย้ายหลบหนีกันกับนายรุ่ง โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายแล้ว ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และซ้อนเร้นอำพราง

ช่วงเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองรี ได้นำตัวนายธนิตย์ออกจากสถานีตำรวจ พร้อมของกลางปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุ พาออกไปชี้จุดจอดรถอีแต๋น ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา แล้วพาไปชี้จุดทิ้งรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ที่บ่อน้ำอำเภอพนมทวน ก่อนจะพาตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวนายธนิตย์ ผู้ต้องหา ออกจากสถานีตำรวจ ทีมข่าวได้รีบเข้าไปถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นายธนิตย์ไม่ตอบคำถามใด ๆ

เวลาประมาณ 14.00 น. ทีมข่าวได้รับรายงานมาว่า นายรุ่ง ผู้ต้องหาอีกราย ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ถูกกันตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทาง พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้

ทีมข่าวเดินทางมายัง หมู่ 18 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี บ้านของผู้ตาย นางพัชยา กลิ่นเกษร อายุ 60 ปี แม่ของผู้ตาย บอกว่า ตนเริ่มทำใจได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนายบอลเอาไว้ได้ ตนยอมรับว่าตนเสียใจที่ลูกชายหายตัวไปตั้งแต่วันแรก โดยเมื่อตกกลางคืน เมื่อลูกชายไม่กลับมากินข้าว ตนก็ได้มีความคิดว่าลูกชายอาจจะไม่กลับมาอีก เนื่องจากปกติลูกชายไม่เคยหายตัวไปนาน อีกทั้งอุปกรณ์เดินป่าต่าง ๆ ก็ไม่ได้นำติดตัวไป

ซึ่งมีวันหนึ่งที่ตนบอกกับสามีว่า "ลูกเราโดนอุ้มหรือเปล่า หายไปทั้งรถทั้งคน โดนพาไปใส่เหวหรือเปล่า" สุดท้ายก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ทั้งนี้ ทางครอบครัวพุ่งเป้าผู้ต้องสงสัยไปที่นายบอล เนื่องจากเมื่อปลายปี 2563 นายบอลเคยมาทวงเงินจำนวน 70,000 บาท ที่บ้านกับตน ตนบอกนายบอลไปว่าตนไม่รู้ว่าเป็นหนี้อะไรกัน แต่คนเป็นเพื่อนกันเขาไม่มาทวงเงินชี้หน้าผู้ใหญ่แบบนี้ ซึ่งตนก็รับปากนายบอลว่าจะนัดลูกชายให้มาเจอภายหลัง

จากนั้น ตนก็ได้สอบถามลูกชาย ยืนยันว่าติดเงินนายบอลเพียง 13,000 บาทเท่านั้น แล้วตัดไม้เอาไม้ไปชดใช้ให้แล้ว ซึ่งลึก ๆ ตนสัมผัสได้ว่าหนี้ก่อนนี้น่าจะมีลับลมคมใน ตนจึงเตือนลูกชายให้ถอยห่างนายบอล ตนเสียใจที่นายบอลทำร้ายลูกชายตน เพราะตั้งแต่ที่ลูกชายตนรู้จักกับนายบอล ตนก็ให้ที่พักนายบอล เวลาที่นายบอลมาค้างที่บ้าน หาข้าวหาน้ำให้กิน ฝากข้าวกล่องให้ลูกชายนำไปให้นายบอลอยู่เสมอ เมื่อนายบอลเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่าแค่อำพราง ส่วนนายรุ่งเป็นผู้ก่อเหตุนั้น ตนไม่เชื่อ เพราะนายบอลเป็นคนเดียวที่ปัญหากับลูกชายตน

นางสาวช่อทิพธัญญา กลิ่นเกษร อายุ 38 ปี พี่สาวของผู้ตาย พาทีมข่าวไปมาร์คจุดเส้นทางขึ้นเขาไปยังจุดอำพรางศพของผู้ตาย เนื่องจากนายบอลอ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจำไม่ได้ว่าใช้เส้นทางใดขึ้นลงเขาในการก่อเหตุและหลบหนี พบว่ามีเส้นทางขึ้นลงที่รถเก๋งหรือรถจี๊ป หรือรถอีแต๋นของนายบอลสามารถขึ้นลงได้ทั้งหมด 4 เส้นทาง

เส้นทางที่ 1 ห่างจากจุดอำพรางศพ 4 กิโลเมตร (วัดจากต้นทางถนนตีนเขา)
เส้นทางที่ 2 ห่างจากจุดอำพรางศพ 5 กิโลเมตร (วัดจากต้นทางถนนตีนเขา)
เส้นทางที่ 3 ห่างจากจุดอำพรางศพ 4.7 กิโลเมตร (วัดจากต้นทางถนนตีนเขา)
เส้นทางที่ 4 ห่างจากจุดอำพรางศพ 2 กิโลเมตร (วัดจากต้นทางถนนตีนเขา)

นางสาวช่อทิพธัญญา กล่าวว่า ทางที่รถยนต์หรือรถจี๊ปหรือรถอีแต๋นของนายบอลจะถึงเขาได้ เพื่อขนย้ายอำพรางศพมีทั้งหมด 4 เส้นทาง เนื่องจากเส้นทางอื่นแคบวิ่งได้เฉพาะรถจักรยานยนต์ แต่รถจักรยานยนต์ยนต์ทั่วไปนั้นไม่สามารถขึ้นเขาสูงได้ ต้องใช้รถจักรยานยนต์เชิงวิบาก โดยตนเชื่อว่าเส้นทางที่ 4 เป็นเส้นทางที่นายบอลและนายรุ่งใช้ในการขนย้ายอำพรางศพและหลบหนี เนื่องจากเส้นทางนี้ใกล้กับจุดอำพรางศพมากที่สุด อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ เดินทางไปยังอำเภอห้วยกระเจา และอำเภอพนมทวนได้สะดวก และยังอยู่ห่างจากบ้านของผู้ตาย

ทั้งนี้ นายบอลมีสิทธิ์ที่จะบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจำเส้นทางฆ่าอำพรางไม่ได้ แต่เส้นทางมีเพียง 4 เส้นทาง และนายบอลยังเคยใช้ทุกเส้นทางเป็นประจำ ดังนั้นนายบอลจะอ้างว่าจำไม่ได้ไม่ได้ ตนอยากจะบอกนายบอลและนายรุ่งว่าทำอะไรไว้ก็ขอให้ออกมายอมรับ การเสียชีวิตของน้องชายมันโหดร้าย ถ้าไม่ยอมรับคงไม่ใช่ลูกผู้ชาย