เหี้ยม! ฆ่าเซ่นหนี้เชือกมัดศพหย่อนซอกหิน กู้ภัยสยองลอดรูกู้ มือยิงโบ้ยญาติทำ (คลิป)

กรณีร.ต.อ.เกษม ปัทมพรภักดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เข้าไปเก็บของป่า ว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าของซากศพ บริเวณป่าเชิงภูเขาบ้านโป่งรี หมู่ที่ 6 ต.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ 

จากการตรวจสอบพบว่าจุดที่พบศพเป็นพื้นที่ซอกหินชายภูเขา มีลักษณะเป็นเหวลึกประมาณ 140-150 เซนติเมตร มีต้นไม้ขึ้นรก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากสมาคมบ่อพลอยร่วมใจ ต้องใช้เชือกผูกตัวโรยตัวไต่ลงไป เก็บกู้ศพ เพื่อนำส่งแผนกนิติเวชฯ รพ.ศูนย์นครปฐม ให้ผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการชันสูตรเบื้องต้นในที่เกิดเหตุพบว่า บริเวณหน้าอกของศพ มีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง จำนวน 6 รู แต่ที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะยิงผู้ตายมาจากที่อื่น แล้วนำศพมาทิ้งลงเหวเพื่ออำพรางคดี

เบื้องต้นจากการสอบสวน ทราบชื่อผู้ตาย นายบัญชา กลิ่นเกษร อายุ 37 ปี ชาว ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี อาชีพช่างทำเฟอร์นิเจอร์ และงานอดิเรกเป็นช่างซ่อมรถยนต์ โดยญาติได้เดินทางเข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.หนองรี ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.64 เนื่องจากนายบัญชา ได้เดินทางออกมาหาเห็ดและของป่า แต่ไม่ได้แจ้งพิกัดว่าไปที่ใด เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 9 ต.ค.64 แล้วหายตัวออกจากบ้านไปนับตั้งแต่นั้น

สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวบุคคลในครอบครัวของผู้ตายมาสอบปากคำแล้ว เพื่อหาเบาะแสของปมการก่อเหตุและผู้ต้องสงสัยที่น่าจะเป็นคนร้าย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะได้เบาะแสของผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายแล้ว ซึ่งปมขัดแย้งน่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกติดตามสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุดวันที่ 15 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายัง สมาคมบ่อพลอย ซึ่งเป็นสมาคมกู้ภัยที่เข้าไปเก็บกู้ศพที่ถูกอำพรางไว้ในซอกหิน ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายประสาน เมืองอินทร์ อายุ 64 ปี อุปนายกสมาคมบ่อพลอยร่วมใจ พร้อมด้วยนายปัญญา กิตร์บรรจง อายุ 22 ปี สมาชิกสมาคมบ่อพลอยร่วมใจ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเก็บกู้ศพ ส่วนสูง 155 เซนติเมตร น้ำหนัก 45 กิโลกรัม และนายสามารถ คงอาจหาญ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.บ่อพลอย และเลขาสมาคมบ่อพลอยร่วมใจ

นายประสาน กล่าวว่า สมาคมได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาประมาณ 12.00 น. จึงรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งกว่าจะเดินทางไปถึงก็เวลา 14.00 น. แล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่หลงทาง จากการประเมินสถานที่พบศพ พบว่าเป็นเหวมีหินล้อมรอบ ศพนอนคว่ำหน้าคล้ายถูกผลักลงไป มีกองหินขนาดเท่าถุงข้าวสาร 5 ก้อน และกองกิ่งไม้และใบไม้ทับร่างไว้ ถูกทิ้งไว้ใต้ซอกหิน ลึกประมาณ 1.5 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องโรยตัวลงไปยกก้อนหินที่ทับร่างผู้ตายออก ก่อนจะดึงร่างผู้ตายขึ้นมา ซึ่งสมาคมได้มอบหมายให้นายปัญญา เป็นผู้ลงไปเก็บกู้ศพ เนื่องจากปากซอกหินมีขนาดเล็ก ต้องใช้คนตัวเล็กเท่านั้นจึงจะสามารถลงไปได้

รวมเวลาเก็บกู้ศพทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง เริ่มจาก 16.00 - 17.00 น. ซึ่งตนคิดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะจงใจอำพรางศพ เนื่องจากศพถูกกระสอบคลุมศีรษะเอาไว้ อีกทั้งยังถูกเชือกมัดคอและข้อเท้าผูกเป็นปมแล้วคล้องกับคอเป็นเส้นเดียวกัน แล้วผูกปมหย่อนลงไป โดยจากการตรวจสอบสภาพศพ พบว่าศพสวมใส่เสื้อลายพรางสำหรับเดินป่า มีร่องรอยการถูกทุบด้วยของแข็งบริเวณศีรษะ และมีบาดแผลถูกยิงอีก 6 จุด บริเวณหน้าอก

นายปัญญา ผู้ลงไปเก็บกู้ศพ เปิดเผยว่า ตนต้องมุดลงไปยกกองหินที่ทับศพออก จากนั้นก็ได้ใช้มีดเจาะรูบริเวณกางเกงของศพ แล้วใช้เชือกเกี่ยวดึงขึ้นมา เนื่องจากหากใช้เชือกเกี่ยวหูกางเกง กางเกงอาจขาด เพราะศพเน่า คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 วัน อีกทั้งเสื้อผ้าก็เน่าและเปื่อยมาก โดยการเก็บกู้ศพค่อนข้างยาก เนื่องจากหากดึงขึ้นมาแรงเกินไป ศพอาจจะเปื่อยขาด 2 ท่อน หรือระเบิดออก เนื่องจากแก๊สเริ่มสะสมในศพแล้ว 

ทีมข่าวได้รับความอนุเคราะห์จากสมาคมบ่อพลอย ในการพาทีมข่าวไปยังจุดพบศพ ซึ่งการเดินทางเข้าไปค่อนข้างยากลำบาก ไม่มีบ้านคน โดยรอบข้างเป็นป่า มีต้นไม้รกทึบรอบตัว เมื่อเดินทางมาถึงจุดพบศพ พบว่าจุดพบศพเป็นซอกหิน ตั้งอยู่ค่อนข้างลึก ล้อมรอบด้วยป่าไผ่ โดยปากซอกหินจุดอำพรางศพ ยาวประมาณ 120 เซนติเมตร กว้าง 30 เซนติเมตร

โดยทีมข่าวยังคงได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยออกมาจากก้นซอกหิน ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เหล้าขาวราดดับกินเน่าและไล่หนอนไปแล้วตั้งแต่วันพบศพ (13 ต.ค.64) ทั้งนี้ ทีมข่าวยังคงพบกระสอบที่ใช้คลุมศีรษะของผู้ตายตกอยู่ใต้ซอกหิน ด้านบนพบก้อนหินที่ใช้ทับอำพลางศพ และซองพลาสติก ซึ่งใส่คลุมศีรษะผู้ตายเช่ยกันตกอยู่

ทั้งนี้ มีก้อนกินอีกหนึ่งก้อน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยกออกมาวางห่างจากจุดพบศพ เพื่อใช้ตรวจสอบ โดยลักษณะของก้อนหินดังกล่าวเป็นสีออกขาว มีขนาดประมาณ 30x30 เซนติเมตร สูงประมาณ 10 เซนติเมตร คาดว่าหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม เนื่องจากทีมข่าวได้ข้อมูลว่ามาต้องใช้ผู้ชายจำนวน 4 คน ในการยกก้อนหินก้อนนี้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ลองยกก้อนหินก้อนนี้ดูบ้าง แต่ปรากฏว่าไม่สามารยกได้ จึงเป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้อำพรางศพไม่ได้ก่อเหตุเพียงลำพัง

ในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมบ่อพลอย ได้เดินทางไปรับร่างของผู้ตายที่นิติเวช รพ.ศูนย์นครปฐม เพื่อนำร่างกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านของผู้ตาย หมู่ 18 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ซึ่งเดินทางมาถึงในเวลา 16.30 น.

จากนั้นในเวลา 17.00 น. ทางครอบครัวผู้ตายได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้ตายในจุดพบศพ โดยทางครอบครัวได้จุดธูป 16 ดอก ไหว้ศาลเจ้าที่ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากจุดพบศพมากนัก เพื่อขอให้เปิดทางพาดวงวิญญาณของผู้ตายกลับบ้าน จากนั้นครอบครัวของผู้ตายก็ได้เดินมายังซอกหินที่ศพของผู้ตายถูกอำพราง จุดธูปอีก 16 ดอก เพื่อไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา ขอให้เปิดทางพาดวงวิญญาณของผู้ตายกลับบ้าน นอกจากนี้ ทางครอบครัวได้จุดธูป 1 ดอก พร้อมเรียกชื่อนายบัญชา ขอให้ตามควันธูปกลับบ้านไปด้วยกัน

ทีมข่าวได้พูดกับ น.ส.กัลยรัตน์ แซ่จึง อายุ 18 ปี น้องสาวผู้ตาย ซึ่งฝันเห็นผู้ตายมาบอกใบ้จุดอำพรางศพให้รู้ จนชาวบ้านและครอบครัวได้กลิ่นเน่าแล้วตามไปพบศพ กล่าวว่า ครอบครัวหาผู้ตายมาหลายวันแล้ว รวมถึงเคยหาแถวจุดอำพรางศพแต่ไม่พบ กระทั่งในคืนวันที่ 12 ต.ค.64 ตนได้ฝันว่าครอบครัวกำลังเดินตามหาผู้ตายในป่า ขณะนั้นตนหันไปเห็นผู้ตายยืนใกล้ ๆ จุดอำพรางศพ ซึ่งตนจำได้ลาง ๆ ว่าเป็นป่าที่ผู้ตายมักจะไปเก็บเห็ดอยู่บ่อยครั้ง เมื่อตนสะดุ้งตื่นจึงได้บอกครอบครัวให้ทราบ

ในช่วงเช้าวันที่ 13 ต.ค.64 ครอบครัวและชาวบ้านช่วยกันตามหาผู้ตายใกล้จุดอำพรางศพ โดยขณะนั้นชาวบ้านที่ช่วยกันหาผู้ตายได้กลิ่นเน่า จึงได้พากันตามกลิ่นไป จนพบฝูงแมลงวันบินรอบ ๆ ซอกหิน เมื่อมองลงไปจึงพบขาคนโผล่ออกมาจากกองหินที่ทับร่างผู้ตาย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเมื่อกู้ศพขึ้นมา ก็รู้ชัดทันทีว่าคือผู้ตาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างโหดร้าย ตนไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัว จึงวิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว เพราะครอบครัวเชื่อว่ามีมากกว่า 1 คน

นายสุขเกษม กลิ่นเกษร อายุ 60 ปี พ่อของผู้ตาย กล่าวว่า เหตุการณ์สลดในครั้งนี้ น่าจะมีประเด็นยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง ค่อนข้างโหดร้าย โดยลูกชายหายตัวไปตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 9 ต.ค.64 ครอบครัวคาดว่าผู้ตายน่าจะออกไปเก็บเห็ด กระทั่งคืนวันที่ 9 ต.ค.64 เวลา 21.00 น. ครอบครัวเริ่มกังวลใจ แต่ก็คิดว่าลูกชายน่าจะกลับในวันรุ่งขึ้น จากนั้นเวลา 9.00 น. ของวันที่ 10 ต.ค.64 ภรรยาของตนร้องไห้ออกมา เพราะลูกชายยังไม่กลับบ้าน ตนได้แต่ปลอบใจ และในวันที่ 11 ต.ค.64 ครอบครัวก็เริ่มออกตามหาผู้ตายตามจุดต่าง ๆ ที่ผู้ตายมักจะออกไปเก็บเห็ด แต่ก็หาไม่พบ จนสุดท้ายหาพบในช่วงเช้าของวันที่ 13 ต.ค.64

ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่ลูกชายหายตัวไป ลึก ๆ ในใจตนคิดว่าลูกชายน่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากในพื้นที่ป่าใกล้บ้านตน มักมีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งตนยอมรับว่าลูกชายก็เสพยาเสพติดเล็กน้อย อีกทั้ง เมื่อปลายปี 63 ลูกชายเริ่มสนิทและรู้จักกับนายบอล คนเลี้ยงวัว จากนั้นเพียง 1-2 เดือน นายบอล ก็ได้เดินทางมาทวงเงิน จำนวน 70,000 บาท กับลูกชายของตนถึงที่บ้าน แต่ลูกชายปฏิเสธ บอกว่าติดหนี้เพียง 13,000 บาท ลูกชายก็ได้นำไม้ที่ตัดมาได้ไปมอบให้นายบอล แทนเงินที่ติดค้าง ซึ่งจากจุดนี้ ทำให้ตนเริ่มเอะใจและมั่นใจว่าเงินที่ลูกชายเป็นหนี้ น่าจะเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตนจึงเตือนลูกชายว่าให้ถอยห่างออกจากนายบอล

หลังจากที่ทีมข่าวได้รับข้อมูลมาจากพ่อของผู้ตาย ทีมข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านแม่ยายของนายบอล เพื่อหาความจริง ในพื้นที่ ต.หนองรี อ.บ่อพลอย ตรงกับพื้นที่ที่พบศพของผู้ตาย โดยนางอุดม เชื้อรุ่ง อายุ 55 ปี แม่ยายของนายบอล อายุ 37 ปี หรือผู้ต้องสงสัย กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ผู้ตายหายตัวไป นายบอล ลูกเขย กับนายรุ่ง อายุ 36 ปี ลูกชายแท้ ๆ ของตน ยังคงเลี้ยงวัวตามปกติ กระทั่งเมื่อครอบครัวผู้ตายพบศพผู้ตาย ทั้งคู่ก็หายตัวออกไปจากบ้าน ตนจึงเริ่มเอะใจและมั่นใจว่าทั้ง 2 คนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตายหรือไม่ เพราะหากบริสุทธิ์จริง คงไม่หายตัวไป อีกทั้งจากการสอบปากคำครอบครัวฝ่ายผู้ตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พุ่งเป้าไปยังลูกชายและลูกเขยของตน

โดยขณะนี้นายบอล เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่อ้างว่าไม่ได้ทำ เพียงรู้เห็นเหตุการณ์เท่านั้น ส่วนคนที่ลงมือปลิดชีพของผู้ตาย ตนเชื่อว่าเป็นนายรุ่ง เป็นผู้ลงมือทำ โดยตนไม่ทราบว่าลูกชายและลูกเขยนำปืนมาจากไหน ตนยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างโหดร้าย คาดว่าปมการก่อเหตุนั้นเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะผู้ตายก็ติดยาเสพติด ตนเชื่อว่าที่ลูกชายทำลงไปอย่างโหดเหี้ยมเป็นเพราะฤทธิ์ยาเสพติด ประกอบกับสติที่ไม่ค่อยสมประกอบจากอุบัติเหตุ ส่วนนายบอล ตนไม่มราบว่าเสพยาเสพติดด้วยหรือไม่ เพราะเพิ่งมาเป็นลุกเขยได้ไม่ถึง 1 ปี

ทั้งนี้ ตนขอฝากไปถึงลูกชาย เนื่องจากตนและนายรุ่ง ไม่มีโทรศัพท์มือถือ “มามอบตัว รุ่งมามอบตัวรับสารภาพ หนักจะได้เป็นเบา แม่เครียด แม่เห็นแววตาของครอบครัวผู้ตายที่มองมาหา เชื่อว่าเขามีอารมณ์โกรธ และแม่รู้สึกอับอายมากที่ลูก ๆ ก่อเหตุเช่นนี้ แม่คงไม่กล้าที่จะเดินทางไปร่วมพิธีศพของผู้ตาย และขอโทษที่ลูกชายทำผิดพลาดไป แม่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ ไม่มีใครอยากให้ลูกตัวเองมีความผิด"

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.หนองรี ให้ข้อมูลว่า ในเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา นายบอล ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายบอลไว้ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งนายบอล ยอมรับว่าเขาและนายรุ่ง เคยสนิทกับผู้เสียชีวิต แต่ระยะหลังมีปัญหาเรื่องหนี้สินและยาเสพติด แต่นายบอล อ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ยิง จึงได้ซัดทอดไปถึงนายรุ่ง ว่าเป็นคนลงมือยิงผู้เสียชีวิต โดยปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนลูกซองของนายบอล ซื้อมาตั้งแต่ปี 63 แต่ยังไม่ได้โอนทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมและกดดันให้นายรุ่ง เข้ามอบตัวโดยเร็วที่สุด