เปิดใจ! บิ๊กตร.โดนสาวแฉไข่แล้วทิ้ง เจ้าตัวรับเลิกเมียแต่รักลูก ยันส่งเสียเป็นแสน (คลิป)

14 ต.ค. 64

กรณีน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ถ่ายคลิปวิดีโอพร้อมลูกสาววัย 7 ขวบ ระบุว่า สามีเป็นผู้กำกับแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทอดทิ้งลูกเมียและไม่สนใจ ทั้งที่ลูกสาวป่วยต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง 

881223

ล่าสุดวันที่ 14 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านของน.ส.เอ ในเขตพื้นที่ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้สอบถามแม่ของน.ส.เอ อายุ 55 ปี กล่าวว่า ลูกสาวคบหากับผู้กำกับนายหนึ่ง ตั้งแต่ลูกสาวของตนอายุ 17 ปี ขณะนั้นลูกเรียนปวช. ส่วนฝ่ายชายอ้างว่าเป็นนักธุรกิจ ไม่ได้บอกความจริงว่าเป็นตำรวจ ลักษณะเหมือนมาหลอกลูกสาว หลังจากนั้นก็ตัดสินใจคบหาและย้ายไปอยู่ด้วยกัน

กระทั่งลูกสาวอายุประมาณ 27 ปี ตั้งท้อง ซึ่งหลังจากตั้งท้องได้ 2-3 เดือน ลูกสาวก็กลับมาอยู่ที่บ้าน เพราะทะเลาะกับฝ่ายชาย จนลูกสาวคลอดฝ่ายผู้กำกับก็ส่งเงินมาให้ แต่ตนไม่ทราบจำนวนเท่าไร จากนั้นตนก็เป็นคนเลี้ยงดูหลานสาวมาโดยตลอด และทราบว่าฝ่ายชายก็จะส่งเงินมาให้บ้างนาน ๆ ครั้ง

738485

พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ เดินทางมาที่บ้านของน.ส.เอ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้เจอกับ น.ส.เอ และลูกสาวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 โดยอดีตภรรยากับลูกสาวไปหาที่สภ.ท่าเรือ แต่วันนั้นเป็นงานเกษียนราชการของข้าราชการตำรวจในสภ. จึงได้คุยกันไม่นาน แต่ตนยังเข้าไปกอดและหอมลูกสาว โดยบอกให้อดีตภรรยากลับบ้านไปก่อน เพราะกำลังวุ่น ๆ

หลังจากนั้น ตนก็ติดต่ออดีตภรรยาไม่ได้ กระทั่งมีเรื่องมีราวออกมา ตนจึงตัดสินใจมาถามพ่อแม่ของอดีตภรรยา ทราบว่า น.ส.เอ พาลูกสาวหายไปติดต่อไม่ได้ ตนก็รู้สึกเป็นห่วง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เดิมทีตนเป็นสารวัตร ที่สภ.แห่งหนึ่ง ส่วน น.ส.เอ อายุ 18 ปี กำลังเรียนปวช. จากนั้นก็คบหากันประมาณ 7-8 ปี กระทั่งน.ส.เอ ตั้งท้อง ขณะนั้นอยู่ด้วยกันที่แฟลตตำรวจ มีปัญหาระหองระแหงกัน น.ส.เอ หอบเสื้อผ้ากลับบ้านมาอยู่กับพ่อแม่ ตนก็ตามมาง้อ

700152

แต่อีกฝ่ายไม่ยอมคืนดี ตนจึงตัดสินใจเลิกรากันไป แต่ช่วงที่คลอดเด็ก ตนก็ส่งเงินมาให้จำนวน 20,000 บาท หลังจากนั้นก็ดูแลมาตลอด มีการรับรองเป็นพ่อ วันสำคัญต่าง ๆ หรือวันที่มีงานก็ไปหาลูกที่โรงเรียนเสมอ โดยน.ส.เอ อยากมีรายได้ ตนก็ลงทุนสร้างปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญ ราคาประมาณ 80,000 บาท เพื่อจะได้มีรายได้เลี้ยงลูกสาว 

ในช่วงที่ลูกสาวกำลังจะเข้าเรียน น.ส.เอ ก็ตัดสินใจไปทำงานที่ประเทศเกาหลี ลูกสาวจึงอยู่กับตายาย ตนก็มาดูแลโอนเงินให้เสมอ ลูกสาวมีอาการแพ้และคัน ต้องกั้นห้องติดแอร์ ซื้อโทรทัศน์ให้ นอกจากนี้ ยังซื้อรถจักรยานยนต์ยนต์ จำนวน 50,000 บาท ก่อนไปประเทศเกาหลี น.ส.เอ ขอเงินทำนารอบแรก จำนวน 70,000 บาท รอบ 2 จำนวน 50,000 บาท รวมถึงยังซื้อตู้เย็น 20 คิว และเครื่องซักผ้าให้ใช้กันในบ้าน

963897

ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าดูแลลูกสาวดีมาโดยตลอด และส่งเงินให้ตามที่ขอเดือนละประมาณ 5,000 ถึงหลักหมื่นบาท และส่วนใหญ่ก็โอนให้มากกว่าที่ขอด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องที่ทะเลาะกัน เพราะอีกฝ่ายไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง ทั้งที่เลิกกันไปนานแล้ว ตนยอมรับมีการใช้คำหยาบคาย แต่เป็นเรื่องที่ไม่พอใจเวลาฝ่ายหญิงไม่ฟังพยายามโยงเรื่องผู้หญิง และด่าบุคคลที่ 3 ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องลูกเลย

"กรณีเรื่องการไปสถานีตำรวจ ผมยืนยันไม่ได้ห้าม ผมให้ลูกไปหาได้ตลอด และลูกก็เคยไปหา ซึ่งผมก็ไม่เคยปิดบังใคร แต่เคยพูดห้ามอดีตภรรยาเข้าไปป่วนตอนงานเกษียณ หากเกิดความวุ่นวาย จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตอนนี้อยากคุยกับอดีตภรรยา เพราะสงสารลูกคิดว่าลูกรับรู้เป็นเด็กฉลาด ทุกครั้งที่เถียงกันลูกจะเครียด เพราะตอนนี้ยังไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร" พ.ต.อ.ธีรวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส