แฟนสาวเปิดปาก "บาส" จำใจฆ่าโจ๋ล้อมบ้าน ลั่นไม่ออกก็ตาย รอตร.ก็เป็นศพ (คลิป)

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 64 สน.เพชรเกษม รับแจ้งว่า ผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส อายุ 21 ปี ได้ใช้อาวุธมีดสปาต้า ยาว 18 นิ้ว และอาวุธมีดปลายแหลมยาว 15 นิ้ว รวม 2 เล่มไล่แทงและฟันกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น ที่มารวมตัวกันหาเรื่องบริเวณหน้าบ้านพัก ในหมู่บ้านสุขสันต์ 6 ซอย 39 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. ส่วนผู้ก่อเหตุยังไม่ได้หลบหนีไปไหน จึงถูกควบคุมตัวไว้ได้

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากคมอาวุธมีด มีทั้งสิ้น 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายสมเดช ดุลยพัฒน์ หรือ ต้น อายุ 25 ปี ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2.นายธิติวุฒิ กลิ่นโพธิ์ หรือ แซม อายุ 19 ปี ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และ 3.นายพันกร อึ่งโต หรือ เย่อ อายุ 20 ปี ถูกนำส่งโรงพยาบาล แพทย์รักษาอาการอย่างเร่งด่วน

วันที่ 14 ต.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ สน.เพชรเกษม เวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวนคุมตัวขึ้นรถคุมขัง เพื่อนำฝากขังต่อศาลอาญาธนบุรี ระหว่างที่นำตัวขึ้นรถ นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส อายุ 21 ปี ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า "ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะก่อเหตุ และทำเพื่อป้องกันตัว แต่หากย้อนเวลากลับไปได้ ตนคงจะไม่ทำ ด้วยเหตุนี้ตนจึงอยากจะฝากขอโทษทางครอบครัวของผู้ตาย" ิทีมข่าวสอบถามว่าต้องการให้ดำเนินคดีกับคู่กรณีหรือไม่ นายณัฐวุฒิก็พยักหน้าตอบรับ

ด้าน นางอุ้ม (นามสมมติ) แม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มของผู้ตาย เพราะจากการสอบถามนายณัฐวุฒิ ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับกลุ่มของผู้ตายมาก่อน

แต่ก่อนที่จะก่อเหตุ นายณัฐวุฒิถูกหนึ่งในกลุ่มของผู้ตายขับรถปาดหน้า และเข้ามาหาเรื่อง ซึ่งนายณัฐวุฒิก็พยายามบ่ายเบี่ยง แต่กลุ่มของผู้ตายได้ตามเข้ามาหาเรื่องถึงที่บ้านพัก ตามในคลิปกล้องวงจรปิด ทำให้ทนไม่ไหวและก่อเหตุ เพราะจำเป็นต้องป้องกันตัว

ขณะนี้ ตนรู้สึกท้อใจมาก และฝากกล่าวขอโทษทางครอบครัวของผู้ตาย พร้อมกับวิงวอนขอความยุติธรรมให้กับลูกชาย เพราะตนยืนยันว่านายณัฐวุฒิเป็นคนดี

ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านสุขสันต์ ย่านบางแค ที่เกิดเหตุ เวลา 11.00 น. นางอุ้ม (นามสมมติ) แม่ของคนก่อเหตุ เดินทางมาพร้อมกับนางสาวเจน อายุ 21 ปี (นามสมมติ) แฟนสาวของคนก่อเหตุ พร้อมด้วยทีมทนายอาสา เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกับพาแฟนสาวของคนก่อเหตุไปชี้จุดต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจรับเป็นทีมทนายฝั่งของนายบาส

ทั้งนี้ วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ มีการถือมีดไล่แทงกลุ่มอริที่บุกมาที่บ้าน หลังจากถูกท้าทายและทำร้ายร่างกาย

นายสมเดช หรือ ต้น ผู้ตาย กลุ่มอริของผู้ก่อเหตุที่บุกมาบ้านคนอื่น และมีการยั่วยุ พูดว่า "เอาเลย ๆ เอามันเลย"

ส่วนพฤติกรรมยองของนายธิติวุฒิ หรือ แซม ผู้เสียชีวิต มีการปาก้อนอิฐใส่หน้าผู้ก่อเหตุก่อน รวมถึงทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุ ก่อนจะถูกแทงเสียชีวิต

นายพันกร หรือ ต่อ ร่วมมาบุกทำบ้านผู้ก่อเหตุ และทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายก่อน รวมถึงช่วยพยุงผู้ตายหนี

นายภาสกร หรือ นิด ร่วมบุกบ้านผู้ก่อเหตุ และร่วมทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย ก่อนจะพบว่ามีอาวุธและพยายามกราบขอชีวิต

นายณัฐพล หรือ บาย ต้นเหตุที่มีเรื่องกับผู้ก่อเหตุ แล้วโทรตามพวกมาบุกบ้านอีกฝ่าย แต่อ้างว่าไม่ได้มาหาเรื่อง เพียงแค่ตามพวกมาทำร้ายร่างกายก่อน และปาของใส่บ้านอีกฝ่ายก่อน ตามคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏอย่างชัดเจน

นายราเมษ หรือ บอล ร่วมกันบุกบ้านของผู้ก่อเหตุ และรุมทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุ

นางสาวเจน อายุ 21 ปี (นามสมมติ) แฟนสาวของคนก่อเหตุ เปิดใจว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุตนเองทราบว่านายณัฐวุฒิ แฟนหนุ่มออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ หลังจากช่วงเวลาที่ขับรถกลับเข้าหมู่บ้าน ไปเผชิญหน้ากับนายณัฐพล คู่กรณี ซึ่งมีการขับรถตัดหน้ากัน แต่ตัวของแฟนหนุ่มก็ได้มีการเคลียร์ใจกันที่บริเวณสี่แยกที่เกิดเหตุแล้ว คิดว่าทุกอย่างจบ เพราะบอกว่า "พี่ก็เป็นพนักงานส่งของ ผมก็ยังทำงานอยู่ ดังนั้นต่างคนต่างทำมาหากินแยกย้ายกันดีกว่าครับ" ซึ่งหลังจากที่เคลียร์ใจกันได้แล้วแฟนหนุ่มก็เดินทางกลับบ้าน

หลังจากที่แฟนหนุ่มเข้ามาถึงบ้านไม่ถึง 10 นาที มีรถมอเตอร์ไซค์มาเป็นกลุ่มใหญ่ขับผ่านหน้าบ้านเข้าไปที่ท้ายซอย สอบถามกลุ่มชาวบ้านในละแวกว่าบ้านของชายเสื้อสีเหลืองหรือนายณัฐวุฒิอยู่แถวไหน และเมื่อมีกลุ่มชาวบ้านชี้เป้าให้ กลุ่มของคนก่อเหตุจึงบุกมาที่หน้าบ้าน เป็นไปตามที่กล้องวงจรปิดแค่บางช่วง คลิปดังกล่าวก็ไม่ได้ผ่านการตัดต่อ แต่จะเห็นเฉพาะช่วงที่กลุ่มของคู่กรณีขว้างปาไม้ถูพื้นเข้ามาในรั้วบ้าน ไม่เห็นตอนต้น ตนเองอยากจะบอกให้สังคมรับรู้ว่าก่อนที่จะเกิดเรื่องตามที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด กลุ่มผู้กรณีได้มีการนำอิฐสีส้มขว้างปาเข้ามาภายในบ้าน กระทั่งนายณัฐวุฒิ แฟนหนุ่ม เปิดประตูออกมาดูก็ถูกปาเข้าที่หางคิ้วขวา ได้รับบาดเจ็บ จึงได้มีการตะโกนด่าทอกัน ฝั่งของคู่กรณีหยิบเอาไม้ถูพื้นขว้างปาเข้ามาตามกล้องวงจรปิด

จากนั้นกลุ่มของคู่กรณีก็ใช้เวลาเกือบ 5 นาทีท้าทายด้วยคำพูด ตะโกนด่าทอ แฟนหนุ่มกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับคนในบ้าน โดยเฉพาะตนเอง พยายามที่จะป้องกันทรัพย์สิน หยิบอาวุธมีดที่วางอยู่ที่ชั้นรองเท้าออกไปนอกบ้าน เพียงแค่การไล่ให้ออกไปพ้นจากหน้าบ้าน แต่กลุ่มวัยรุ่นไปดักรออยู่ซอยหลังบ้าน ตนเองเชื่อว่ากลุ่มคนก่อเหตุต้องมามากกว่า 6 คน

เมื่อออกไปถึงบริเวณซอยหลังบ้านก็พบว่ากลุ่มคนก่อเหตุได้ดักทำร้าย มีอาวุธอยู่ในมือ ตนเองก็เดินออกไปดู แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วย เห็นแต่เพียงแฟนหนุ่มโดนทำร้ายอยู่ ลักษณะหลับตาและใช้อาวุธมีดแทงแบบไม่ลืมตาดู แต่ตอนนั้นก็แทงไม่โดนใคร แฟนหนุ่มตัวคนเดียวก็จำเป็นต้องป้องกันตัวเอง

โดยปกติแฟนหนุ่มทำงานและขับรถกลับบ้าน ไม่เคยที่จะใช้คำพูดที่ไม่สุภาพหรือไปหาเรื่องใครก่อน ตามที่อ้างว่าแฟนหนุ่มของตนเองมีการแจกของลับ ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ วันนั้นได้มีการขอโทษและขอจบเรื่องแล้ว แต่ฟังของคู่กรณีไม่ยอมและตามมาหาเรื่องที่หน้าบ้าน ตนเองรู้สึกเสียใจและสงสารแฟนหนุ่มที่ตกอยู่ในชะตากรรมแบบนี้ ทุกวันนี้เจ้าตัวอยู่ระหว่างการศึกษาได้เรียนออนไลน์ เตรียมที่จะไปสอบข้าราชการตำรวจ ใช้เวลาว่างกับการทำงานหาเงิน แต่ก็ไม่คิดว่าจะจบชีวิตความฝันแบบนี้