เจ้าหนี้โหดเผารถลูกหนี้ สื่อเจอภาพลับนาทีเผา แต่มือวางเพลิงตีมึนยังดีใจตร.ไม่จับ (คลิป)

จากกรณีวันที่ 11 ต.ค. 64 เวลา 21.00 น. ร.ต.อ.คีรีเอก บุญมงคล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ ภายในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 5 แยก 10 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้เพิงพักคนงาน พบรถจักรยานยนต์ถูกเพลิงไหม้เผาวอด จนเหลือแต่ซาก 2 คัน คือ จยย. ยามาฮ่า ฟีโน่ 1 คัน
กับรถจยย. ฮอนด้า มูฟ 1 คัน ห่างออกไปประมาณ 2 เมตร เจ้าหน้าที่พบแกลลอนน้ำมันเชื้อเพลิงสีแดงวางทิ้งไว้บนถังขยะ จึงเก็บรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน

ล่าสุด วันที่ 12 ต.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 5 แยก 10 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพ ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้เพิงพักคนงาน ยพบว่ารถจักรยานยนต์ที่ถูกเพลิงไหม้เผาวอดจนเหลือแต่ซาก 2 คัน ก็ยังไม่ได้ทำการเคลื่อนย้ายออกไปจากจุดเกิดเหตุ

นายศิริ บัวดอก อายุ 50 ปี เจ้าของรถผู้เสียหาย เผยว่า ผู้ก่อเหตุ คือนายแสนชัย เอี่ยมพาณิช หรือ แสน อายุ 40 ปี เพื่อนร่วมงาน เหตุเริ่มจากตนประกอบอาชีพรับจ้างต่อเติมบ้าน ภายในพื้นที่เขตบางเขน กรุงเทพ ตนเองเห็นว่านายแสนชัยเป็นคนที่อยู่ในซอยบ้าน เลยชักชวนมาช่วยทำงาน จากนั้นก็ทำงานอยู่ด้วยกันมานานหลายปี

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนเองก็จะคอยช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยกันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวปลาอาหาร หรือเงิน ที่มักจะแบ่งปันและหยิบยืมกัน เวลาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเดือดร้อน โดยล่าสุดรุ่นน้องของตนอีกคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันไปขอยืมเงินนายแสนชัย จำนวน 1,000 บาท เพื่อมาใช้จ่าย ช่วงเดือน ก.ย. 64 ที่มาผ่านมา ซึ่งไม่ได้เป็นการกู้ยืมเงิน แล้วระยะเวลาผ่านมาเกือบ 2 สัปดาห์

กระทั่งวานนี้ 11 ต.ค. 64 ช่วง 19.00 น. นายแสนชัยได้เดินออกจากบ้านของเจ้าตัวที่อยู่บริเวณท้ายซอย มาหาตนที่บ้านจุดเกิดเหตุ ห่างกันประมาณ 800 เมตร พร้อมกับโวยวายขอทวงเงินที่รุ่นน้องของตนหยิบยืมมา แต่ช่วงนั้นรุ่นน้องของตนไม่ได้อยู่บ้าน ตนจึงพยายามไล่ให้นายแสนชัยกลับไปรอที่บ้านก่อน เพราะนายแสนชัยเริ่มมีพฤติกรรมโวยวายหนักขึ้น แต่เจ้าตัวก็ไม่ยินยอม และพยายามจะขอเอารถ จยย. ของตนออกไปแทน หากไม่ได้เงิน ซึ่งตนคิดว่าเกินไป เพราะไม่ตนไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย จึงยืนเถียงกับ นายแสนชัยสักพัก ก่อนเจ้าตัวจะยอมเดินกลับบ้านไป

หลังจากนั้น เมื่อตนต่อว่าไล่ให้เจ้าตัวกลับบ้านไป ตนก็เดินเข้าบ้านทำกิจวัตรประจำวันเหมือนตามปกติ จนช่วงเวลา 21.00 น. ขณะที่ตนกำลังจะเข้านอน ได้ยินเสียงชาวบ้านโวยวายอยู่ที่บริเวณที่จอดรถ จยย. หน้าบ้านว่า "ไฟไหม้ ไฟไหม้" ก่อนได้ยินเสียงคล้ายระเบิด ตนจึงรีบออกมาดู ปรากฏว่ารถของตนเกิดเพลิงไหม้ ไฟลุกท่วมทั้ง 2 คัน มีชาวบ้านกำลังช่วยกันสาดน้ำดับไฟ จนเพลิงสามารถดับลงได้ในที่สุด ตนจึงแจ้งตำรวจ สน.บางเขน พร้อมเตรียมดำเนินคดีเอาผิดกับนายแสนชัย

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกตกใจ เพราะตนไม่ได้รู้เรื่องด้วย อีกทั้งที่ผ่านมา ตนก็ค่อยช่วยเหลือผู้ก่อเหตุมาโดยตลอดเวลาเดือดร้อน ตนจึงคิดว่าไม่น่ามาก่อเหตุดังกล่าวกับตนได้ลง ปมเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ตนมองว่าผู้ก่อเหตุคงมีความจำเป็นต้องใช้เงิน บวกกับ เมายาเสพติด จึงตัดสินใจมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น มูลค่าความเสียหาย 6 หมื่นบาท เพราะไม่สามารถซ่อมได้ ในส่วนนี้ก็อยากให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย

จากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุ ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 5 แยก 10 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพ ห่างจากบ้านของผู้เสียหายประมาณ 800 เมตร ผู้ก่อเหตุก็ยังคงนอนอยู่ภายในบ้าน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นายแสนชัย เอี่ยมพาณิช อายุ 40 ปี ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด และไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้รถผู้เสียหายในครั้งนี้ อีกทั้งยืนยันว่าไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ถึงแม้ว่าทีมข่าวจะบอกว่ามีภาพกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ ก็ยืนยันคำเดิมว่า ขณะเกิดเหตุตนยอมรับว่าไปทวงเงินจริง จำนวน 1,000 บาท แต่หลังถูกไล่กลับบ้านมา ตนก็มานอนอยู่บ้านโดยที่ไม่ได้ออกไปไหนอีก

นางสำราญ เอี่ยมพาณิช อายุ 72 ปี แม่คนก่อเหตุ เผยว่า ลูกของตนมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมานานหลายปี เท่าที่ตนทราบ ลูกชายไปทำงานเกี่ยวกับรับจ้างต่อเติมบ้านกับพวกผู้เสียหายจริง แต่ปมเหตุรายละเอียดเจาะลึกตนไม่ทราบว่า ลูกชายของตนจะไปก่อเหตุดังกล่าวจริงหรือไม่ เพราะอยากให้มองว่าตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

อีกทั้งหากลูกของตนเป็นผู้กระทำผิดจริง ในส่วนนี้ตนก็ต้องปล่อยไปตามขั้นตอนของกฎหมายดำเนินการ ผิดก็ว่าไปตามผิด โดยที่ตนจะไม่ขอโทษ เพราะตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยว อีกทั้งไม่รู้เรื่อง จึงขอปล่อยให้เป็นขั้นตอนของตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย สุดท้ายนี้ ในฐานะคนเป็นแม่ มองว่าหากลูกชายเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง ก็น่าจะเป็นปมปัญหาเรื่องเงินบวกกับลูกชายที่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดเป็นเหตุ

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ระบุว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบสวน ให้ปากคำถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น หากพบว่าฝ่ายใดมีกระทำความผิดจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที