ฉาว! พระเสียบจดหมายนัดสาว 19 ถวายตัว เจ้าตัวรับทำจริงแต่ตีมึนหน้าสื่อ (คลิป)

11 ต.ค. 64

กรณีนายแดง (นามสมมติ) ร้องเรียนกับหมอปลา ระบุว่า "หมอปลาครับ ข้อความที่ผมส่งมานี้ คือข้อความของพระรูปหนึ่ง ที่บ้านผม เขาเขียนจดหมายนี้เสียบใส่รถลูกสาวผม บอกให้ลูกผม ไปถวายตัว ถวายความสุข แล้วจะให้เงิน 1,500 บาท ผมโกรธมาก ทั้งๆ ที่ลูกกับเมียผม ไปทำบุญที่วัดเป็นประจำนั้น"

307190846101

ล่าสุด วันที่ 11 ต.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร นางสาวนก (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย เปิดใจว่า วันเกิดเหตุ 28 พ.ค. 64 ตัวเองได้ไปทำบุญเช้าที่วัดแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน ซึ่งมีพระตรงเป็นเจ้าอาวาส และเป็นพระสงฆ์รูปเดียวอยู่ในวัด ขณะที่ตัวเองกำลังเตรียมอาหารในครัว เพื่อจะไปวางให้พระฉัน ตัวเองก็มองไปเห็นว่า พระตรงมองมาที่ตัวเอง แล้วทำท่าอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น กระทั่งตัวเองขับรถกลับมาถึงบ้าน พ่อไปเจอกระดาษ 1 แผ่น แล้วพ่อก็มาสอบถามตัวเองว่ากระดาษดังกล่าวได้มาจากที่ไหน ซึ่งตัวเองก็บอกกับพ่อว่า ไม่รู้เรื่อง และตัวเองก็เพิ่งเห็นกระดาษดังกล่าว

718815

ตัวเองจึงคิดว่าพระตรงเขาเป็นผู้ที่นำกระกระดาษมาใส่รถมอ เพราะเมื่อปี 2563 พระตรงยังเคยกระซิบบอกให้ตัวเองไปเอาเงินทุนการศึกษาจำนวน 1,500 บาทกับเขาอีกด้วย ซึ่งตอนนั้นตัวเองไปกับเพื่อนผู้หญิง 1 คน ตัวเองติดว่าเงินที่ให้นั้น เป็นเงินที่เขาให้เป็นทุนการศึกษา ตัวเองจึงรับมา และตัวเองก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาคงเอ็นดูเท่านั้น

cg2

หลังเกิดเหตุ พระตรงเขาก็ถูกลงโทษทางวินัย ให้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดอื่น ซึ่งเขาก็ไม่มีการขอโทษตัวเองและครอบครัว ส่วนตัวแล้วตัวเองก็คิดว่าพระเขาน่าจะไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก แต่ไม่มีใครกล้าออกมาเปิดเผย หลังจากตัวเองและพ่อเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป ชาวบ้านก็ไม่เชื่อ กลับเข้าข้างพระ เพราะเขาเชื่อว่าพระรูปดังกล่าวเป็นพระนักพัฒนา เหตุที่เกิดขึ้นตัวเองอยากบอกสังคมว่า พระบางรูปเขาก็ไม่ได้ถือศีลทำตามวินัยสงฆ์เสมอไป เขายังมีความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป ยังทำผิดศีล ยังโกหก

859222

นายแดง (นามสมมติ) พ่อของนางสาวนก (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 64 นางสาวนก (นามสมมติ) ลูกสาวได้ไปทำบุญถวายอาหารเช้าที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในหมู่บ้าน กระทั่งลูกสาวทำบุญเสร็จ ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับมาที่บ้าน ตอนนั้นตัวเองได้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ต่อลูกสาว ขณะที่ตัวเองกำลังจะสตาร์ตรถ ตัวเองได้มองไปเห็นกระดาษ 1 แผ่น อยู่ในช่องใส่ของรถ มีข้อความที่เขียนด้วยปากกาทั้งด้านหน้าและด้านหลังกระดาษด้วยข้อความว่า "_มาทำบุญถวายความสุขกับพระ อจ.นะ ถวายตัวมาที่กุฏิโยมนะ หลังไหนก็ได้ช่วงเที่ยง ถึงบ่ายสองโมง มากลางวันเลยปลอดภัยดี โทร 0621151XXX" และกระดาษอีกด้าน ข้อความว่า "ถ้าไม่ทำก็ทิ้งกระดาษนี้ไป เอาเงินให้ใช้ที่เดิมนะ ใต้กล่อง 1,500"

445030

ตัวเองได้อ่านข้อความในกระดาษดังกล่าวแล้ว เสียความรู้สึกมาก เพราะพระอาจารย์ตรง (นามสมมติ) เป็นพระที่ตัวเองเคารพนับถือ เป็นที่เคารพของชาวบ้านทุกคน ไม่เคยคิดว่าพระรูปดังกล่าว เขาจะมาทำกับลูกสาวตัวเองแบบนี้ ไม่คิดว่าข้อความแบบนั้นจะออกมาจากพระ ตัวเองยังได้สอบถามลูกสาวว่ากระดาษแผ่นดังกล่าวมาอยู่ที่รถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างไร ซึ่งลูกสาวก็บอกว่าเขาไม่รู้เรื่อง เขาเพิ่งไปทำบุญที่วัดมา

ด้วยความคาใจ ช่วงเดือน มิ.ย. 64 ตัวเองจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปบอกผู้ใหญ่บ้าน และสอบทางไปยังทางพระตรง ซึ่งจากการสอบถามรอบแรก พระท่านก็ปฏิเสธ หาว่าตัวเองแต่งเรื่องทำร้ายพระ กระทั่งมีการร้องเรียนไปถึงเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะอำเภอจึงมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ กระทั่งพระตรงยอมรับว่ากระดาษดังกล่าวเป็นของเขา เพราะว่าเขาจำนนด้วยหลักฐาน ที่เป็นลายมือของเขาเอง จากนั้นพระเจ้าคณะอำเภอจึงมีการลงโทษทางวินัยสงฆ์ให้ย้ายไปจำพรรษาวัดอื่น และมีคนสนิทพระบางคนก็มายื่นข้อเสนอ จะให้เงินตัวเองแลกกับการไม่ให้เป็นข่าว แต่ตัวเองก็ไม่รับข้อเสนอ

737862

สำหรับพระตรง เขาจำพรรษาได้ประมาณ 18 พรรษา หลังเกิดเหตุขณะนั้น ลูกสาวตัวเองก็มีสภาพจิตใจย่ำแย่ รู้สึกอายชาวบ้าน และถึงขั้นอยากหนีไปอยู่ที่อื่น ตัวเองจึงบอกให้ลูกสาวสู้ ๆ และให้กำลังใจลูกสาวตลอดมา

เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ลูกสาวเล่าให้ตัวเองฟังต่ออีกว่าเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ลูกสาวได้ไปไหว้พระรูปดังกล่าว หลังจากสวดมนต์ให้พรเสร็จ พระตรงเรียกลูกสาวเข้าไปหาเขาใกล้ ๆ จากนั้นเขาก็ได้กระซิบลูกสาวว่าให้ลูกสาวไปเอาเงินในกล่อง ไปเปิดดูนะ ให้เป็นทุนการศึกษา ต่อมาลูกสาว และเพื่อนผู้หญิงจึงได้ไปที่ศาลาวัด และเปิดดูในกล่องพบเงินจำนวน 1,500 บาท จากนั้นลูกสาวและเพื่อนจึงนำเงินดังกล่าวมาเป็นทุนการศึกษา และเพิ่งมาบอกตัวเองตอนที่เกิดเหตุการณ์รอบที่ 2 ขึ้น

หลังจากตัวเองร้องเรียนเรื่องดังกล่าว ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ไม่มีใครเชื่อตัวเอง ที้งด่าสาปแช่งตัวเองว่าใส่ร้ายพระ ถึงขนาดภรรยาของตัวเองก็ยังไม่เชื่อ ไม่คุยกับตัวเองตั้งแต่เกิดเรื่อง เพราะเขารักและเคารพพระรูปดังกล่าวมาก ภรรยาก็บอกกับตัวเองว่า "เรื่องยังไม่เกิด ลูกสาวเรายังไม่เสียหาย ทำไมถึงไปเอาเรื่องกับพระ" ตัวเองก็ได้บอกกับภรรยาว่าต้องรอให้ลูกสาวเสียหายก่อนเหรอ

410019

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังวัดที่พระตรงย้ายมาจำพรรษา โดยพระตรง (นามสมมติ) เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นนานแล้ว ทางคณะสงฆ์มีการดำเนินการเรื่องนี้ไปแล้ว

982468

ทีมข่าวสอบถามพระตรงว่าได้เขียนข้อความลงในกระดาษไปให้กับนางสาวนกจริงหรือไม่ พระตรงอ้างว่า "ตัวเองไม่ได้เขียน คนอื่นเป็นคนเขียน ตัวเองจะไปเขียนทำไม"

221282

ทีมข่าวเดินทางมายังบ้านญาติของพระตรง ในพื้นที่ ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร นายยนต์ ญาติของพระตรง ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่มีข่าวว่าพระตรงไปเขียนข้อความลงในกระดาษให้ผู้หญิงมาถวายตัวเพื่อแลกกับเงิน 1,500 บาทนั้น ตัวเองก็ไม่เชื่อว่าพระตรงท่านจะทำแบบนั้นจริง ชาวบ้านในหมู่บ้านอีกหลายคนเขาก็ไม่เชื่อว่าเป็นลายมือของท่าน เพราะเท่าที่ตัวเองรู้จักกับพระตรง เขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้น เป็นพระนักปฏิบัติ นักพัฒนา อีกทั้งท่านก็แก่พรรษาแล้ว ไม่ใช่พระที่บวชใหม่ ไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน

ตัวเองอยากให้พระตรงกลับมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์แห่งเดิม เพราะพระตรงท่านเป็นผู้ที่สร้างสำนักสงฆ์ดังกล่าว

191981

ทีมข่าวเดินทางมายังสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง เป็นสำนักสงฆ์ที่เกิดเหตุ บรรยากาศสำนักสงฆ์ที่เกิดเหตุมีศาลาห้องครัวอวู่ 1 หลัง ศาลาวัด 1 หลัง และมีกุฏิวัดอยู่ 1 หลัง แต่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา

นายจำนงค์ กุลวงศ์ ผู้ประสานงานสำนักสงฆ์ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า สำหรับตัวเองเป็นผู้ประสานงานสำนักสงฆ์ที่เกิดเหตุ ตัวเองไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร แต่ก็เห็นว่าพระตรงท่านก็ได้ออกมายอมรับว่าเป็นลายมือของท่าน แต่ท่านก็ไม่ได้บอกว่าเขียนไปเพราะอะไร กระทั่งเจ้าคณะอำเภอลงโทษทางวินัย ให้พระตรงย้ายไปจำพรรษาที่วัดอื่น สำหรับพระตรงในมุมมองของตัวเอง ท่านเป็นพระที่ดี เป็นพระนักพัฒนา และนักปฏิบัติ ไม่เคยมีประวัติลักษณะนี้มาก่อน

ตัวเองขอยืนยันว่า ตอนที่เกิดเหตุในฐานะที่เป็นผู้ประสานงานวัด ก็ไม่เคยไปยื่นข้อเสนอ โดยการเสนอจ่ายเงินให้กับครอบครัวของผู้ร้องเรียน เพื่อให้เขายอมจบเรื่องแต่อย่างใด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส