ลูกร้องข้ามทวีปหลานบีบคอยายขอเงินพี้ยา ตาไหว้วอนช่วยจับหวั่นโดนฆ่าตาย (คลิป)

จากกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับ ตำรวจและผู้นำชุมชนรุดช่วยเหลือสองตายาย หลังลูกสาวทำงานที่สหรัฐอเมริกา ส่งคลิปร้องข้ามประเทศ หลานชายวัย 15 ปี ข่มเหงเอาเงินซื้อยาบ้าเสพ ไม่ให้ก็จะตบหัว บีบคอบังคับให้ไปยืมคนอื่น ทนทุกข์ทรมานใจร่วม 2 ปี แต่ทำอะไรไม่ได้ ตำรวจตรวจค้นในบ้านเจออุปกรณ์เสพเพียบ ก่อนนำตัวส่งเข้าบำบัดไปแล้วนั้น

วันที่ 7 ต.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังบ้านจุดเกิดเหตุ ภายในพื้นที่ บ้านปะคำ หมู่ 1 ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เมื่อไปถึงพบว่า ช่วง 19.00 น. นายอาร์ม ผู้ก่อเหตุอยู่บ้าน ใช้ชีวิตร่วมกับตายายตามปกติ

หลังจากนั้นทีมข่าวพยายามพูดคุยกับนายอาร์ม ทีมข่าวถามว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากแสดงความเสียใจหรืออยากขอโทษ ทางยายตาหรือไม่ ซึ่งนายอาร์มกลับให้คำตอบกับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า "ไม่รู้" พร้อมทั้งเดินหนีทีมข่าวเข้าบ้านไป ไม่ยอมพูดคุย

โดยวันนี้นายโรจนินทร์ บวรฐิติชัยรัฐ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอปะคำ จ.บุรีรัมย์ พร้อมนายวรแสน ประสงค์ ปลัดป้องกัน, ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปะคำ เจ้าหน้าที่กองร้อย อส. และผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือสองตายาย

สำหรับนายอาร์ม มีประวัติการเข้ารับการบำบัดรักษาเรื่องยาเสพติด ทางโรงพยาบาลได้นำตัวไปบำบัด 1 ครั้ง และให้บำบัดเดือนละ 1 ครั้ง แต่นายอาร์มไม่ไปบำบัดถึง 3 ครั้ง และไม่ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงาน ส่วนที่ลูกสาวอยู่ต่างประเทศร้องขอความช่วยเหลือมานั้น เบื้องต้นก็ได้ประสานหลายภาคส่วนร่วมตรวจสอบ และนำตัวนายอาร์มเข้าสู่กระบวนการบำบัด ซึ่งถือว่านายอาร์มเป็นผู้ป่วยและยังเป็นเยาวชน ทั้งเพื่อความปลอดภัยของคนในบ้านด้วย

นายหมั่น เพ็งจันทร์ อายุ 82 ปี ตาผู้ก่อเหตุ เผยว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ตนยืนยันได้ว่าหลานชายของตนมีการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจริง เพราะจากกที่สังเกตุพฤติกรรม หลานมักจะชอบออกไปนอกบ้านช่วงมืด 22.00-23.00 น. ถึงจะกลับเข้าบ้าน อีกทั้งเจ้าตัวยังชอบบังคับเอาเงินกับภรรยาเป็นประจำ

ซึ่งพอให้ครั้งละ 30-40 บาท หลานก็จะไม่พอใจ และจะเอาเพิ่มอีกเป็นครั้งละ 200-300 บาท เพื่อนำไปซื้อยาบ้าเสพ บางครั้งหากเวลาตายายไม่มีเงินให้ หลานก็จะบังคับให้ไปหยิบยืมเพื่อนบ้านมาให้ก่อน ในส่วนนี้ตนมีความกังวลกลัวหลานจะทำร้ายภรรยา จึงต้องบอกให้หลานเอาข้าวเปลือกในยุ้งไปขาย เพื่อแก้ไขปัญหาไปก่อน เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรจริง ๆ เงินที่ลูกสาวส่งมาจากต่างประเทศ เพื่อไว้ให้ใช้จ่ายต่อเดือนก็เพียงเดือนละ 3,000 บาท โชคดีที่มีเงินเบี้ยสูงอายุของรัฐบาลมาเสริม จึงเอามารวมเก็บไว้กิน อยู่ภายในครอบครัวได้

อย่างไรก็ตาม ถึงหลานจะมีพฤติกรรมดังกล่าว แต่ตนกับภรรยาก็เป็นห่วงหลาน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมานำตัวหลานชาย ไปบำบัดและรักษาให้หายขาด เพื่อที่หลานจะได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดี เพราะหากยังปล่อยไว้ ตนกับภรรยารวมไปถึงเพื่อนบ้านก็เกรงว่าหากวันหนึ่งหลานควบคุมตัวเองไม่ได้ ตนกับภรรยาอาจจะถูกทำร้ายมากกว่านี้

นางสำเรียบ เพ็งจันทร์ อายุ 75 ปี ยายของผู้ก่อเหตุ เผยว่า สำหรับนายอาร์ม หลานชาย ตนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก แต่พอโตมา หลานกลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซี่งตนก็ไม่รู้ว่าไปยุ่งตอนไหน รู้เพียงแค่ว่านานแล้ว หลังจากตนทราบว่าหลานติดยา ตนก็รู้สึกเสียใจ และพยายามบอกให้หลานเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาหลายครั้ง แต่หลานก็บอกว่าเลิกไม่ได้ ตนจึงไม่รู้จะทำอย่างไร

โดยเวลาที่หลานชายเสพยา หลานมักจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว ชอบขู่เอาเงินกับตายายตลอดครั้งละ 200-300 บาท ถ้าวันไหนไม่มีให้จะใช้มือตบหัว บางครั้งก็บีบคอบังคับให้หาเงินมาให้ ซึ่งที่ผ่านมาตอนที่หลานเคยบีบคอบังคับเอาเงิน ตนก็เคยแจ้งตำรวจมาแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มาเอาตัวไป แต่ไม่นานก็ปล่อยออกมาเหมือนเดิม เพราะเป็นเยาวชน ทั้งนี้ ในฐานะคนเป็นยายก็อยากจะให้หลานเป็นคนดี เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และอยากวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับตัวหลานไปทำการบำบัดรักษาอาการติดยาให้หายขาด