เจอตัวมือฆ่าโจ๋กลางกรุง คุยอวดเพิ่งแทงคน พิรุธแก๊งเพื่อนขอปืนไปดักซุ่ม (คลิป)

กรณีเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุมีชายถูกแทงเสียชีวิตบริเวณปากซอยพงษ์เพชรนิเวศน์ ถนนประชาชื่น แขวงและเขตจตุจักร กทม. จึงรุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพนายเกียรติศักดิ์ ใจดี หรือ เปี๊ยก อายุ 25 ปี ร่างกายพบบาดแผลถูกของมีคมแทงบริเวณหลัง 5 แผล และต้นขาซ้าย 1 แผล รวมจำนวน 6 แผล นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บริเวณปากซอย พบปลอกมีดปลายแหลมตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน

ล่าสุด วันที่ 7 ต.ค. 64 ที่วัดเทพประทาน จ.ฉะเชิงเทรา พิธีฌาปนกิจศพ มีเพื่อนสนิทและชาวบ้านในพื้นที่เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยป็นครั้งสุดท้าย พิธีเผาศพจัดขึ้นแบบเรียบง่ายภายในเมรุวัดเทพประทาน หลังพิธีเผาศพเสร็จสิ้นแล้ว นางฮวจ ใจดี แม่ของนายเกียรติศักดิ์ คนตาย นำรูปที่ใช้ตั้งหน้าศพกลับมาเก็บไว้ที่บ้าน มีร้องไห้เป็นบางช่วง ลักษณะน้ำตาคลอ

นายฮวย ใจดี แม่ของคนตาย เปิดใจว่า ตนเองยังรับไม่ได้กับการจากไปของลูกครั้งนี้ ลูกเป็นคนขยันทำงาน ส่งเงินมาให้ที่บ้านใช้ แถมยังผ่อนรถให้กับที่บ้าน วันเกิดเหตุช่วงตอนเย็นลูกชายก็ยังโทรมาคุยกับตนเองบ่นหิวข้าว ทำงานหนักไม่มีเวลาทานข้าว ตนเองก็ยังให้ลูกไปซื้อข้าวมากิน แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาถูกแทงตายในคืนวันดังกล่าว อีกครั้งลูกชายก็เพิ่งจะลาสิกขาบวชเป็นเณรมาได้ไม่นาน ตนเองจึงคาดไม่ถึงว่าลูกชายจะถูกคนอื่นมาทำร้าย ไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร เพราะที่ผ่านมาลูกชายก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง

ส่วนกรณีที่มีคนส่งไปรษณีย์จ่าหน้าซองถึงชื่อตนเอง "นางฮวย" มีการเก็บเงินปลายทาง 189 บาท เป็นค่าส่งไปรษณีย์โดยระบุเก็บปลายทาง ตนเองก็ได้โทรไปถามลูกชายก่อนที่จะเกิดเหตุ ช่วงประมาณ 17.00 น. ลูกชายก็ยืนยันว่าไม่ได้มีการสั่งของ ปกติเวลาลูกชายสั่งของหรือส่งของมาให้ก็จะมีการจ่ายเงินให้ ไม่ต้องให้มีการเก็บปลายทาง แต่ตนเองเห็นว่าของดังกล่าวถูกส่งมาและระบุเป็นชื่อตัวเอง จึงจ่ายเงิน 189 บาท เมื่อแกะออกมาพบว่าเป็นเสื้อกีฬาสีดำ เป็นเสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์สี ตนเองยืนยันว่าคนในบ้านรวมถึงลูกชายไม่ได้มีการสั่งเสื้อดำมาใช้ คาดว่าเป็นฝั่งของผู้ไม่หวังดี หรือหนึ่งในกลุ่มคนที่ก่อเหตุที่ไม่พอใจลูกชาย เจตนาที่จะส่งเสื้อดำมาให้เพื่อเป็นลางบอกเหตุ ตนเองจึงอยากให้มีคนช่วยตรวจสอบเกี่ยวกับที่มาของเสื้อตัวดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงไปหาตัวคนก่อเหตุแทงลูกชาย

ตนเองต้องการที่จะให้ตำรวจเร่งรัดคดีและติดตามตัวคนร้ายที่ทำกับลูกชายให้ได้โดยเร็ว แม้ว่าวันนี้จะมีการเผาศพไปแล้วแต่ก็ยังรอความคืบหน้า และรอความยุติธรรมให้กับคนตาย ที่สำคัญตัวเองอยากจะรู้จากปากของคนที่ก่อเหตุว่าจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมถึงทำลูกของตนจนตายแบบนี้

นายดิว (นามสมมติ) รุ่นน้องของคนตาย คนรู้จักกับฝั่งของผู้ต้องสงสัย เปิดใจว่า หลังจากเกิดเหตุ ในกลุ่มเพื่อนทุกคนก็ตกใจเกี่ยวกับการตายของนายเกียรติศักดิ์ ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อเหตุ และไปถูกแทงตายด้วยสาเหตุอะไร จนกระทั่งในวันดังกล่าวหลังเกิดเหตุไปได้ไม่นาน เพื่อนของตนเอง คือนายต๊ะ ผู้ต้องสงสัยอยู่ในอาการมึนเมาเล็กน้อย เข้ามาพูดกับกลุ่มของตนเองโดยสารภาพว่า "เพิ่งไปแทงคน 10 แผลมา" ทุกคนจึงตกใจ และเชื่อว่าคำพูดดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการตายของนายเกียรติศักดิ์อย่างแน่นอน

ที่ผ่านมาตัวของนายต๊ะ ซึ่งมีปัญหากับนายเกียรติศักดิ์เกี่ยวกับที่พักอาศัย เพราะทั้งคู่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องของหญิงสาว แต่ตนเองไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงคนไหน หรือแฟนคนปัจจุบันหรือไม่ แต่เชื่อว่าถ้าหากนายต๊ะตัดสินใจที่จะบอกกับกลุ่มเพื่อนแบบนั้น ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะดูจากกล้องวงจรปิดก็มีลักษณะใกล้เคียง

โดยหลังเกิดเหตุ แม้ว่าจะมีคลิปจากกล้องวงจรปิดค่อนข้างชัดเจน และถ้าเอาคลิปไปให้คนรู้จักดูก็ยังสามารถที่จะระบุรูปพรรณสันฐานได้ ตนเองก็อยากจะวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนก่อเหตุ หรือเรียกสอบผู้ต้องสงสัยที่มีกลุ่มเพื่อนหรือญาติออกมาให้ข้อมูล อย่างน้อยก็สามารถเร่งติดตามตัวคนร้ายได้โดยเร็ว เพราะทุกอย่างค่อนข้างมีความชัดเจน ทั้งเรื่องประเด็น และปมความขัดแย้ง

ทีมข่าวติดต่อ นายเพียว หนึ่งในผู้ต้องสงสัย ที่ญาติและเพื่อนของคนตายตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง เปิดใจว่า ตัวเองตกใจที่กลุ่มญาติและเพื่อนสงสัยในตัวของตนเอง ซึ่งถ้าหากดูจากกล้องวงจรปิดไม่มีส่วนใดที่จะคล้ายตนเอง เพราะในคลิปสังเกตว่าหนึ่งในคนก่อเหตุจะมีลักษณะวิ่งแบบสะดวก กระฉับกระเฉง แต่ในทางกลับกันตนเองประสบอุบัติเหตุ ขาทั้ง 2 ข้างยังใส่เหล็ก

ส่วนตัวยอมรับว่าเคยมีปัญหากับคนตาย 1-2 ปี เพราะตอนนั้นคนตายกำลังจะไปทำงานกับแฟนสาวที่ จ.ชลบุรี แต่ไม่มีเงินเติมค่าน้ำมันรถ จึงได้ยืมเงินตนเอง 1,500 บาท เพื่อที่จะเติมน้ำมันขับรถไปทำงาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตนเองก็เพิ่งจะมีโอกาสได้ทวง แต่ตัวของนายเกียรติศักดิ์คนตายก็ไม่ได้มีการจ่ายให้ จึงได้ทะเลาะกันไปมาผ่านเฟซบุ๊ก และระยะหลังก็เริ่มมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น มีการโพสต์ท้าทายกันหรือใต้คอมเมนต์ แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องรุนแรงถึงขั้นชกต่อยกัน ตนยืนยันว่า เงินเพียงแค่ 1,500 บาท ไม่จำเป็นต้องฆ่าใครตาย ที่สำคัญตนเองจบสถาปัตย์ ทำงานเขียนแบบได้เงินเดือน 16,000 บาท เงินแค่นี้ไม่จำเป็นต้องไปง้อหรือก่อเหตุทำร้ายใคร

ทั้งนี้ บุคคลที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นนายต๊ะกับเพื่อนของนายต๊ะ ตนขอไม่ยืนยัน แต่นายต๊ะอ้วนกว่านี้ ในวันเกิดเหตุตนเองก็ทราบว่านายต๊ะนั่งอยู่ที่บ้านย่านพระปิ่นเก้า ไม่ได้ออกไปไหน ส่วนความสนิทสนมระหว่างนายเกียรติศักดิ์คนตาย กับนายต๊ะ ทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน เคยอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน ตอนที่ชาวบ้านอยู่ที่บางบัวทองหรือแถวบางใหญ่ จนกระทั่งระยะหลังทั้งคู่มีปัญหาเรื่องของค่าเช่า จึงได้ต่างคนต่างแยกย้าย ทราบว่าตัวของคนตายตอนที่อยู่บางบัวทองก็เคยไปติดเงินคนอื่นประมาณ 10,000 บาท และหนีไม่ยอมจ่ายเหมือนกัน

โดยนายเกียรติศักดิ์ เวลาพาผู้หญิงมานอนก็จะไล่ให้นายต๊ะไปอยู่ที่อื่น และเมื่อถึงเวลาเก็บเงินค่าเช่าหารครึ่ง ก็ยังเก็บค่าเช่าเต็มจากนายต๊ะ เรื่องดังกล่าวจึงทำให้ทั้งคู่ต่างคนต่างแยกย้ายไปเช่าอาศัยอยู่ที่อื่นไม่ได้อยู่ด้วยกัน ประเด็นที่ว่านายต๊ะกับนายเกียรติศักดิ์คนตายจะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ขอยืนยันว่าไม่ใช่ประเด็นดังกล่าว

นอกจากนี้ ตนเองเพิ่งจะผลคดีข้อหาเสพกัญชา ติดคุกไปประมาณ 3 เดือน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นอดีตผู้ต้องหา แต่ก็ไม่มีความจำเป็นใดที่จะก่อเหตุรุนแรง ถึงขั้นแทงใครตาย อยากให้ครอบครัวและเพื่อนคนตายลองพิจารณาใหม่ คนที่ทะเลาะกันทางสื่อออนไลน์ปะทะคารมกัน แต่ไม่เคยเจอกันแม้แต่ครั้งเดียวจะก่อเหตุกันได้อย่างไร

อีกกรณีแชตที่มีการนัดหมายให้คนตายออกไปเจอที่หน้ากระทรวง เป็นเพราะตนเองทำงานที่กระทรวงพลังงาน จึงนัดหมายให้ออกมาเคลียร์ใจกันโดยเฉพาะเรื่องเงินที่มีปัญหาด่าทอกันไปมา แต่นายเกียรติศักดิ์เปลี่ยนสถานที่นัดหมายให้ไปเจอกันที่กรมชลประทาน ฉะนั้นยืนยันว่าการนัดหมายให้ออกมาเจอกันก็เพียงแค่นัดเคลียร์ใจกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่จะพากันออกมาให้ถึงแก่ความตาย

ที่มีแชตปรากฏว่า ตนเองได้มีการยืมปืนจากเพื่อนคนสนิท เพื่อจะเอามาใช้ก่อเหตุยิงนายเกียรติศักดิ์นั้น ขอชี้แจงว่าตนเองเห็นนายเกียรติศักดิ์มีการโพสต์ภาพเกี่ยวกับปืน ตนเองจึงได้ไปขอยืมปืนเพื่อนเพื่อมาใช้ป้องกันตัวเองในขณะที่เจอกันเท่านั้น เพราะถ้าหากนายเกียรติศักดิ์ใช้อาวุธปืน ตัวเองก็พร้อมที่จะใช้ปืน เจตนาก็เป็นแค่ป้องกันตัวเอง