เตรียมรับมือ! ไลออนร็อค พายุลูกใหม่ จ่อถล่มไทย 7 ต.ค. นี้ บิ๊กแจ๊ส จับมือท้องถิ่นลอกคลองหนองเสือ กันน้ำท่วม ปทุมฯ

6 ต.ค. 64

ปทุมธานี บิ๊กแจ๊ส จับมือท้องถิ่นลอกคลองหนองเสือ เตรียมรับมือ ไลออนร็อค

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 ตุลาคม 2564 ที่คลอง10 บริเวณที่เขื่อนหน้าที่ว่าการอำเภอหนองเสือ ตำบลบึงบา อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายเสวก ประเสริญสุข,นายสิระ พงษ์สิริโพธินันท์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี,ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต,นายวริศ เจริญกัลป์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองเสือ ร่วมลงพื้นที่ติดตามตรวจการทำงานขุดลอกคลองโดยใช้เรือโป๊ะในการขุดลอกภายในคลอง 10 ซึ่งเป็นหนึ่งคลองจากการดำเนินการทั้งหมด 14 คลอง เพื่อเป็นการปรับทัศนียภาพเเละกำจัดวัชพืชบริเวณผิวน้ำ รวมไปถึงรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดปัญหาอุทกภัยในช่วงสองวันข้างหน้า

หากมีผลกระทบจากน้ำฝนและเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูงประกอบกับปริมาณน้ำรวมไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอีก 30-50 เซนติเมตรและรับพายุหมายเลข 17 ไลออนร็อค จะทำให้ฝนตกหนักในภาคเหนือและอีสานตอนบนในวันที่ 11-12ต.ค.64 นี้

สืบเนื่องกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ มีประกาศแจ้งว่าได้ประเมินสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก พบว่าเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม2564 ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,775-2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีและเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2564 ปริมาณน้ำหลากสูงสุดจากเขื่อนปาสักชลสิทธิ์ได้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกสูงสุดในอัตรา 762 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยคาดว่าในวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ปริมาณน้ำหลากรวมกันผ่านอำเภอบางไทรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในเกณฑ์สูงสุดที่ 3,050-3,150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะไหลออกสู่อ่าวไทย ในช่วงวันที่ 7-10 ตุลาคม 2564 ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง คาดว่าจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 30-50 เซนติเมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี จึงเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าว โดยแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริษัทห้างร้านที่ประกอบกิจการริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก ทราบถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบันและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ขอให้อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอสามโคก กำชับผู้อำนวยการท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาติดตามสถานการณ์และตรวจสอบแนวคันกันน้ำให้มีความพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าว ตลอดจนประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เตรียมความพร้อมกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรและยานพาหนะให้พร้อมปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด24ชั่วโมง หากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ให้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทราบทันทีผ่านทางสายด่วน 1784

ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี กล่าวว่าจากสถานการณ์น้ำในปัจจุบันทาง อบจ.ปทุมธานี ได้ดำเนินการเพื่อเตรียมรองรับน้ำมาก่อนหน้านี้ 2 เดือนแล้วเพื่อเป็นการเตรียมการรองรับน้ำที่หลากเข้ามาและให้ทันเหตุการณ์ ซึ่งเราได้เปลี่ยนวิธีการจากเดิมที่เมื่อก่อนได้ใช้รถแบคโฮอยู่บนถนนเพื่อแหวกทางน้ำทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของรถแบคโฮทำให้ดินด้านล่างปลิ้นออกทำให้ถนนทรุด เมื่อถนนทรุดก็มาซ่อมถนนอีก ภายในคลองเมื่อหน้าแล้งผักตกชวาหญ้าวัคพืชก็ขึ้นเต็มหมด แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วเพราะว่าเราเปลี่ยนวิธีการโดยการใช้เรือโป๊ะรถแบคโฮลงตามแนวความคิดของท่านเสวกประเสริฐสุขรองนายกอบจ.ปทุมธานี

ขณะนี้เราได้ว่าจ้างบริษัทเข้ามาขูดลอกโดยตรง ต่อไปนี้วัคพืชต่างๆ ต้องไม่มีในคลองส่งน้ำคลองส่งน้ำต้องเป็นคลองส่งน้ำ


ด้าน ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต กล่าวว่า การขุดลอกคูคลองเป็นประโยชน์ต้องประชาชนมาก โดยเฉพาะพื้นที่นครรังสิตต้องรองรับน้ำที่ผันลงมา เราเองจึงต้องทำงานให้สอดคลองกันกับ อบจ. ซึ่งหลายพื้นที่ในนครรังสิต เริ่มกลับมาสะอาดแล้วน้ำก็ไม่เน่า

ปัจจุบันยังมีการดำเนินการภายในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่นานเพื่อเตรียมจัดงานภายในเดือนพฤศจิกายนเพื่อเฉลิมฉลองสำนักในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 รวมถึงส่งเสริมประเพณีและฟื้นคืนเศรษฐกิจให้กลับมาโดยเร็ว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ