แม่เฒ่าร่ำไห้ลูกเฉดหัวพ้นบ้านฮุบมรดก ปลัดอึ้งลูกอ้างคนละวรรณะอย่าจุ้น (คลิป)

จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางกาญจนา อายุ 55 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร ว่ามีญาติอายุ 80 ปี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง โดนลูกสาววัย 49 ปี ทำร้ายทุบตีเกือบทุกวัน ได้รับบาดเจ็บทนไม่ไหว จนต้องทิ้งบ้านหนีตายมาขอพักอาศัยอยู่ด้วยกันนานนับเดือน นอกจากนี้ ลูกสาวคนดังกล่าวยังประกาศขายที่ดินจนเกือบหมด กลัวว่าจะไม่มีบ้านให้อยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิต จึงวอนให้หน่วยงานรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือ

วันที่ 5 ต.ค. 64 นายบุญก้อง ปลัดอำเภอสวี พร้อมทั้ง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม พาตัวนางพิศมัยมาพบนางสาวมยุเรศ เพื่อเจรจาหาทางออก โดยนางมยุเรศ ก็เริ่มออกอาการ และพูดจาไม่รู้เรื่อง อ้างว่าพ่อของตนคือซัดดัม ฮุสเซน และมีชื่อของกษัตริย์อีกหลายพระนาม พร้อมทั้งโต้แย้งทุกกรณี

ทีมข่าวและเจ้าหน้าที่ได้กลิ่นสุราจากนางมยุเรศ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ดื่ม โดยการอ้าปากแล้วพ่นลมให้แต่ละคนสูดกลิ่นพิสูจน์ และยืนยันจะขายที่ดินเอามาซ่อมแซมบ้าน

นายบุญก้อง ศรีสงคราม ปลัดอำเภอสวี กล่าวว่า ทางปลัดเองเป็นผู้ดำเนินการให้นางพิศมัย ซึ่งไม่เหลือใครแล้วนอกจากลูกสาว ตนก็ทำหน้าที่ช่วยเหลือ เมื่อลูกบ้านได้รับความเดือดร้อน จากที่ตนได้มีการเข้าไปพูดคุยกับนางสาวมยุเรศ ลูกสาวนางพิศมัย มีการตอบโต้ที่ผิดปกติ อ้างชื่อคนใหญ่โตว่าคือพ่อแม่ของตัวเอง บอกว่านางพิศมัยไม่ใช่แม่

ซึ่งประเด็นนี้ค่อนข้างชี้ชัดว่าคนปกติจะไม่อ้างชื่อคนอื่นมั่ว ๆ แบบนี้ ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกาย ก็มีการสอบถามจากนางกาญจนา น้องสะใภ้ ช่วยยืนยันว่ามีการด่าทอด้วยคำหยาบคาย และทำร้ายร่างกายกันจริง ตนยืนยันว่าจะช่วยให้ถึงที่สุด ไม่ทิ้งยายพิศมัยแน่นอน

นางสาวมยุเรศ ไข้บวช อายุ 49 ปี ลูกสาวนางพิศมัย บอกว่า ตนไม่ได้ติดเหล้า และไม่ได้ทำร้ายร่างกายแม่ ขอปฏิเสธทุกอย่างที่แม่พูดไป ไม่เป็นความจริง ซึ่งหม้อข้าวถ้าเอาไปทุบหัว หัวต้องแตกแล้ว นางพิศมัยเป็นประสาท ด่าทอตนด้วยคำหยาบคายตลอด ตนเป็นลูกก็ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งก็ไม่เคยเอาผ้าห่มไปอุดปากแม่ตามที่แม่อ้าง มองว่าแม่เป็นประสาท แต่งเรื่องเก่ง

ส่วนเรื่องการขายที่ดิน ก่อนหน้านี้ที่ตนยืนยันว่าขายจริง ซึ่งก็ให้เงินแม่ 50,000 บาท แต่นางพิศมัยทำหายเอง ไม่รู้เอาไปไว้ไหน ในครั้งนี้ตนตัดสินใจขายที่เพิมอีก 1 ไร่ 3 งาน ติดถนนดำ มูลค่า 900,000 บาท เพื่อนำเงินมาซ่อมแซมบ้าน และจะเอาเงินไปประกันตัวลูกชายวัย 22 ปี ที่ถูกจับเรื่องยาเสพติด และอยู่ในการบำบัด "ตนต่างหากเป็นผู้ถูกกระทำ โดนแม่ด่าทอ ไล่ออกจากบ้าน ซึ่งล่าสุดเอามีดที่ครัวมือยืนถือขู่จะทำร้าย ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้มีการไล่แม่ออกจากบ้าน และไม่ได้ติดสุราตามคำกล่าวอ้าง"

นางพิศมัย จินาอู อายุ 80 ปี ผู้ร้องเรียน บอกว่า ตนมีลูกกับสามี 2 คน เป็นลูกชายคนโต และนางสาวมยุเรศ ไข้บวช อายุ 49 ปี ผู้ก่อเหตุ โดยตนกับสามีได้มีการซื้อที่ดินของบรรพบุรุษพ่อสามี เป็นที่ดิน 11 ไร่ จากนั้นสามีเสียชีวิตจึงมีการมอบมรกดกให้กับลูกทั้ง 2 คน ด้วยการมอบที่ดินให้คนละ 5 ไร่ 2 งาน เนื่องจากตนไม่ได้จดทะเบียน แต่ลูกชายขายที่ในส่วนของตนเองไปหมดแล้ว และเสียชีวิตเมื่อปี 2562

จากนั้นตนได้เลี้ยงลูกชายของนางสาวมยุเรศ ลูกสาวที่บ้าน บนพื้นที่ 5 ไร่ 2 งาน ซึ่งล่าสุดเมื่อปี 2563 ขายไปแล้ว 3 ไร่ 2 งาน เป็นเงิน 500,000 บาท ซึ่งตนไม่ได้เลยสักบาทเดียว โดยนางสาวมยุเรศ ลูกสาว ชอบดื่มสุราแล้วด่าทอ ทำร้ายร่างกายตน ขู่จะฆ่าให้ตายหลายครั้ง วันที่ 6 ก.ย.64 ตนถูกนางสาวมยุเรศ ลูกสาว ใช้หม้อนึ่งข้าวฟาดเข้าที่ศีรษะ แล้วด่าคำหยาบคายว่า "มึงไม่ใช่แม่กู " แล้วอ้างชื่อคนใหญ่โตว่าคือพ่อแม่แท้ ๆ ของตัวเอง

ต่อมา วันที่ 20 ก.ย.64 ขณะที่ตนกำลังนอนอยู่บนที่นอน นางสาวมยุเรศ ลูกสาว ใช้ผ้าห่มมาอุดปากอุดจมูก บีบคอ บอกว่า "กูจะฆ่ามึงให้ตาย มึงไม่ใช่แม่กู" นอกจากนี้ตนถูกน้ำซักผ้าในกะละมังรดหัวในขณะที่นั่งกินข้าวอยู่เป็นประจำ จนตอนนี้ไม่สามารถอยู่บ้านหลังนั้นได้ เพราะกลัวถูกฆ่าตาย ส่วนตัวตนรู้สึกเสียใจทึ่ลูกแท้ ๆ เป็นลูกทรพีแบบนี้ ทุบทำร้ายตนหลายรอบ ตนไม่รักลูกแล้ว และไม่ขอให้อภัย ขอตัดขาดกันแค่นี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะตนไม่เหลืออะไรแล้วแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน ตอนนี้ต้องมาขออาศัยกับน้องสะใภ้ชั่วคราว