กรณีครอบครัวหนึ่งขับรถตกคอสะพาน บริเวณบ้านวังซ่าน อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ทำให้นางไพเราะ แสงสมลาด คนขับลอยไปกับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว และยังคงหาร่างไม่พบ ส่วนนายสมเวช แสงสมลาด ที่ป่วยอัมพฤกษ์เสียชีวิต ในขณะที่น.ส.วัชราพร แสงสมลาด ลูกสาวที่มาด้วยนั้น ได้รับการช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล อาการปลอดภัยแล้ว
ล่าสุดวันที่ 29 ก.ย.64 เวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา มีรายงานแจ้งว่าพบศพของนางไพเราะ แสงสมลาด แล้ว โดยไปพบศพบริเวณเถาวัลย์ห่างจากสะพานที่เกิดเหตุประมาณ 400 เมตร
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดพบศพ ลักษณะเป็นกอไม้ และเถาวัลย์ กลางคลองวังซ่าน ห่างจากสะพานที่เกิดเหตุ 400 เมตร พบว่าระดับน้ำลดลงและไหลเบาลงแล้ว ซึ่งศพของนางไพเราะ ยังอยู่ที่จุดพบศพรอกู้ภัยเดินทางมาเก็บกู้ไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ที่วัดบ้านหีบ อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาต่อไป
ทีมข่าวพูดคุยกับนายจำนงค์ คลองสินธุ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.แม่เล่ย์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า ครอบครัวนี้เข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านได้สักระยะแล้ว โดยมาปลูกบ้านอยู่ภายในพื้นที่ของพี่ชายนายสมเวช ผู้ที่เสียชีวิต และก่อนหน้านี้ก็จะเดินทางไปมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา เสมอ ๆ
โดยก่อนเกิดเหตุตนทราบว่าทั้ง 3 คน ได้เดินทางมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 27 ก.ย.64 เพื่อที่จะมาอยู่ที่บ้าน แต่เนื่องจากทั้ง 3 คนเคยติดโควิด-19 มาก่อน และรักษาหายแล้ว รวมถึงมาจากพื้นที่เสี่ยงจึงต้องกักตัว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เป็นกังวล ตนจึงมองว่าเขาคงจะตัดสินใจเดินทางกลับไปที่จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากไม่อยากกักตัวในพื้นที่ จ.นครสวรรค์
ในช่วงวันที่เดินทางมาพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ตนยังได้โทรศัพท์ไปเตือนนางไพเราะ ว่าสะพานขาด นางไพเราะจึงบอกว่า "จะไปอีกเส้นทาง" และนางไพเราะ ก็ทราบดีว่าสะพานขาด ตนไม่แน่ใจว่าช่วงที่จะเดินทางกลับ จ.พระนครศรีอยุธยา นางไพเราะอาจจะลืมหรือไม่ว่าเส้นทางที่จะผ่านนั้นสะพานขาด ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าทั้งคู่จะมาเสียชีวิตเช่นนี้
ขณะที่ จ.ส.อ.ขรรจร ประดับทอง เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.วังซ่าน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (28 ก.ย. 64) ได้ค้นหาจนถึงช่วงเย็นแต่ก็ไม่พบ แม้ว่าจะใช้เรือท้องแบน พร้อมเจ้าหน้าที่ ปภ.จากเทศบาลนครสวรรค์ ประมาณ 10 คน ค้นหาโดยรอบรัศมีห่างจากสะพานประมาณ 1 กิโลเมตรก็ยังไม่พบร่างของป้าไพเราะ จึงยุติการค้นหาเนื่องจากระดับน้ำยังไหลค่อนข้างแรง
ส่วนช่วงเช้าในวันนี้ ระดับน้ำลดและไม่ค่อยไหลเชี่ยวแล้ว จึงทำให้ช่วงเช้าที่ผ่านมา ครบ 24 ชั่วโมง หลังจากสูญหาย ทำให้พบศพป้าไพเราะ บริเวณกอไม้กลางน้ำ ลักษณะเสื้อโผล่ขึ้นจากน้ำเล็กน้อย จึงได้ใช้เรือท้องแบน พร้อมเจ้าหน้าที่ 4 คน ลงคลองและนำศพขึ้นมาบนเรือ ก่อนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์ชันสูตรเบื้องต้น ลักษณะศพที่พบไม่มีบาดแผล ก่อนห่อศพและรอญาติมารับกลับไป
"สะพานที่ขาด เป็นสะพานที่แข็งแรงนะครับ แต่เนื่องจากกระแสน้ำมีความแรงมากครับ และไม่มีช่องทางไหลผ่านเลย จึงทำให้สะพานชำรุด และขณะนี้กรมทางหลวงก็กำลังเร่งซ่อมแซมให้กลับสู่สภาวะปกติแล้ว" จ.ส.อ.ขรรจร กล่าว
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่วงก์ ระบุว่า จากการส่งศพนายสมเวช สามีของป้าไพเราะ ไปชันสูตรศพที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ แพทย์ระบุว่า “ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต” ส่วนนางไพเราะ เสียชีวิตเพราะจมน้ำขาดอากาศหายใจ