จากกรณีผู้เสียหายร้องเรียนผ่านสื่อ หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นขี่บิ๊กไบก์มาสั่งข้าวต้ม แต่เกิดเหตุไม่พอใจ จึงชักปืนโชว์ก่อนยิงใส่ขาลูกชายเจ้าของร้าน และนำเพื่อนร่วมตะลุมบอนสองแม่ลูกร้านข้าวต้ม โดยเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. ผ่านไปแล้วกว่า 2 เดือน คดีกลับไม่คืบหน้า และผู้เสียหายค่อนข้างกังวลความปลอดภัย เพราะกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเป็นพวกผู้มีอิทธิพล
วันนี้ 22 ต.ค. 61
นางสาวสุนันท์ อ่อนศิริ หรือ เจ๊นันท์ อายุ 38 ปี และนายนันทวัฒน์ อ่อนศิริ หรือ เวย์ อายุ 19 ปี บุตรชาย ผู้เสียหาย แจ้งว่า ถูกลูกค้าที่เข้ามาสั่งอาหารชักปืนยิงใส่และรุมเตะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม นานกว่า 2 เดือน แต่จนถึงวันนี้ คดีไม่มีความคืบหน้า จึงกลัวว่าจะได้รับอันตราย และคนร้ายกลับมาแก้แค้นเนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายคนมีฐานะ และเคยถูกจองจำในคดียิงคนตายมาแล้ว
นางสาวสุนันท์ อ่อนศิริ หรือ เจ๊นัน อายุ 38 ปี แม่ของเวย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.20 น. ของคืนวันที่ 16 ส.ค. ตนเปิดร้านตามปกติ จากนั้นได้มีลูกค้าประจำคือนายจักร มาที่ร้าน จากนั้นได้มีชายอีก 1 คน ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ สีบรอนซ์เงิน มาจอดที่หน้าร้าน ทราบชื่อต่อมา คือ นายพัศพงษ์ หรือฉายาเอกชิน เมื่อมาถึงหน้าร้านจึงได้ชักอาวุธปืนที่ติดตัวมาออกจากเอวชึ้นโชว์เพื่อน และมีซองกระสุนตกลงถึงพื้น โดยมีลักษณะอาการคล้ายคนมึนเมามาก่อนหน้า
จากนั้นชายกลุ่มดังกล่าวมานั่งรวมกันที่หน้าร้านที่โต๊ะริมถนน โดยมีเพื่อนร่วมโต๊ะรวม 4 คน ขณะนั้นตนเองได้เดินมารับออร์เดอร์ก็ยังพูดจากันปกติ จากนั้นได้เดินกลับไปทำอาหาร 2 เมนู ที่สั่งไว้ เวลาเดียวกันลูกชาย หรือเวย์เดินไปเสิร์ฟและบริการ
แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ด้วยความตกใจตนจึงวิ่งเข้าไปดู และพบว่านายพัศพงษ์ชักปืนขึ้นมาแล้วด่าลูกชาย ตนจึงวิ่งไปยกมือไหว้และขอไม่ให้มีเรื่องกัน แต่เมื่อลูกชายนั่งลงกับพื้น นายพัศพงษ์หรือเอกชิน ก็เตะใบหน้าของลูกชาย ตนจึงพยายามดึงลูกชายเข้ามาในอ้อมกอด แต่เพื่อนในกลุ่มอีก 3 คน สลับกันเตะเข้าที่ใบหน้าลูก ทั้งที่ตนเองได้พยายามตะโกนบอกว่า "ลูกหนูเอง ๆ" หลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ขณะนั้นรู้สึกกลัวมาก เพราะกลุ่มวัยรุ่น 3 ใน 4 คน นั้นพกปืนมาด้วย ไม่รู้ว่าใครจะชักปืนขึ้นยิง ตนเองกับลูกชาย
ด้าน
พ.ต.ท.สมจิตร ยศหนองทุ่ม สารวัตร (สอบสวน) สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นได้เรียกให้กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาพบพนักงานสอบสวน โดยนายเอกชิน หรือ นายพัศพงศ์ ได้มามอบตัววันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลจังหวัดนครปฐมเพื่อฝากขัง โดยท้ายคำร้องได้ระบุคัดค้านการประกันตัว ซึ่งผู้ต้องหาได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาอีกสองคน คือ นายเก่ง และนายไมค์ ได้ประสานขอเข้ามอบตัววันพรุ่งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 3 คน ในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และยิงปืนในที่สาธารณะ
นอกจากนี้
นายพัศพงษ์ หรือ เอกชิน คู่กรณี เล่าว่า ขณะตนเองกับเพื่อนไปนั่งทานอาหาร ได้สังเกตเห็นนายเวย์ ลูกเจ้าของร้านเดินเข้ามาในโต๊ะตน ระหว่างรออาหาร นายเวย์ก็หยิบโทรศัพท์มือถือตนจากโต๊ะไป จากนั้นนายเวย์ก็เอาโทรศัพท์ตนมาคืนด้วยการกระแทกใส่มือ กระทั่งผ่านไปไม่นาน นายเวย์นำอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ และกระแทกจานอาหารลงบนโต๊ะ
จากนั้นนายเวย์ก็เดินอ้อมหลังเก้าอี้ตนไป ตอนนั้นตนได้ยกแขนขึ้นมาวางบนเก้าอี้ พร้อมกับถามว่า “มึงอยู่แดนไหน” นายเวย์จึงตอบกลับมาว่า “กูอยู่แดน 2 กูไม่กลัวมึงหรอก” และเดินก้าวเข้ามาหาตนในลักษณะที่ท้าทาย ตนจึงลุกขึ้นและขณะกำลังมีปัญหากัน แม่นายเวย์และเพื่อนตนชื่อ นายจักร เข้ามาห้ามปราม โดยแม่นายเวย์ได้กอดลูกไว้ ซึ่งหากดูจากภาพกล้องวงจรปิด จะเห็นว่าตนไม่ได้รุมทำร้ายอีกฝ่าย แต่นายเวย์มีการเริ่มต้นก่อน
ส่วนที่อีกฝ่ายจะอ้างว่าตนโชว์อาวุธปืน ตนยืนยันว่าตัวเองไม่ได้นำอาวุธปืนมาโชว์ข่มขู่ ตนเพียงมาทานข้าว และหากตนมากันถึง 3 คน ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็คงไม่คิดจะมามีปัญหากับคนแบบนั้
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุอีกฝ่ายได้พยายามติดต่อตนมาเพื่อขอโทษ ซึ่งตนก็ได้ให้อภัยไปแล้ว แต่เขาก็ยังพยายามที่จะขอเบอร์โทรศัพท์ตนจากคนอื่น พร้อมเรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท แต่ตนไม่ยอมจ่าย อีกฝ่ายจึงไปแจ้งความดำเนินคดี
ขณะที่
นายนันทวัฒน์ อ่อนศิริ หรือ เวย์ ผู้เสียหาย อายุ 19 ปี เล่าถึงเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุว่า นายพัศพงษ์ชักปืนขึ้นและพยายามจะยิงใส่ขาตนเอง เมื่อตนเห็นจึงได้กระโดดหลบ เฉียดกระสุนไปนิดเดียว และจากนั้นนายพัศพงษ์ก็สั่งให้ตนนั่งลง ตนจึงนั่งและพูดขอโทษไปด้วย แต่นายพัศพงษ์ก็ไม่หยุดและตรงเข้าเตะเสยหน้า 1 ครั้ง แต่ตนใช้แขนขวาบังไว้ ก่อนที่เพื่อนของนายพัศพงษ์ อีก 2 - 3 คน จะเวียนกันเข้ามาเตะใส่ที่หน้าตน โดยมีคนหนึ่งพูดว่า "มึงไม่รู้ซะแล้ว ว่าเล่นกับใคร"