ซัดยับ! 2 พ่อค้ากุ้งชิงตั้งแผงหัวถนน เจ้าเก่าแกล้งตายถึงรอด อีกฝ่ายชี้ถนนไร้เจ้าของ (คลิป)

27 ก.ย. 64

จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 64 ที่ริมถนนสาย นครนายก-สาริกา ช่วงก่อนถึงถนนร้อยล้าน เขตเทบาลเมืองนครนายก พ่อค้าแม่ค้าจับของพื้นที่ริมถนนเปิดร้านขายของกว่า 10 ร้าน มีเหตุพ่อค้ากุ้ง 2 ร้านเกิดเขม่นกัน เนื่องจากร้านของนายยุทธพงษ์ ภูกาบทอง อายุ 30 ปี พ่อค้ากุ้งเจ้าของเฟซบุ๊ก Poom Yuttapong ได้มาตั้งขายกุ้งก่อน จากนั้นร้านของคู่กรณีชื่อนายไอซ์ มาตั้งขายทีหลัง ซึ่งอยู่ด้านหน้าร้านของนายยุธพงษ์ และขายกุ้งเหมือนกัน แต่ราคาถูกกว่า

262063697613

ต่อมานายยุธพงษ์จึงได้ไปคุย ขอให้ย้ายไปขายด้านหลัง ถัดจากร้านของตัวเอง เนื่องจากตัวเองมาขายก่อน จนกระทั่งเหตุการณ์

155606

วันที่ 27 ก.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ซอยวังขอน 1 อ.เมือง จ.นครนายก นายยุทธพงษ์ ภูกาบทอง อายุ 30 ปี พ่อค้ากุ้งที่ถูกรุมทำร้าย ซึ่งยังมีรอยช้ำที่ขา และลำตัวเพียงเล็กน้อย เจ้าตัวได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 10 บาทมาให้ทีมข่าวดู อ้างว่าตะขอของสร้อยงอเพราะถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุกระชากสร้อยในขณะที่วิ่งหนีตาย

515610

นายยุทธพงษ์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 11.00 น. ตัวเองได้ไปจอดรถกระบะ และตั้งแผงขายกุ้งขาวและกุ้งก้ามกรามอยู่ริมถนนสาย นครนายก-สาริกา โดยขายกุ้งขาวราคากิโลกรัมละ 220-230 บาท ตามขนาดตัวกุ้ง และพบนายไอซ์มาแอบตั้งแผงขายกุ้งตัดหน้าตนอยู่ก่อน ร้านห่างกันประมาณ 30 เมตร และเขาขายราคากิโลกรัมละ 170-200 บาท ตามขนาดตัวกุ้ง ทำให้ลูกค้าไปซื้อที่ร้านของนายไอซ์ทั้งหมด ตนจึงเดินไปตำหนินายไอซ์ว่าสิ่งที่เขาทำเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะตนตั้งร้านขายอยู่ก่อน แถมยังขายตัดราคากันอีก

406918

แต่นายไอซ์ก็ทำเป็นไม่สนใจ บอกว่าต่างคนต่างขายไป ซึ่งเมื่อตนได้ยินดังนั้น จึงให้ลูกน้องยกลังกุ้งไปตั้งขายตัดหน้าร้านของนายไอซ์ และขายกิโลกรัมละ 160 บาท ยอมขาดทุนเพราะอยากให้นายไอซ์เข้าใจความรู้สึกที่ตนถูกขายตัดราคา แต่กลับทำให้นายไอซ์ยิ่งไม่พอใจ และโทรศัพท์ตามนายเบนซ์ คู่อริเก่า มาหาเรื่องตน เหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป นายเบนซ์ก็เดินเข้ามาพูดจาหาเรื่อง และจะเข้ามาต่อยตน แต่เขาไม่กล้าเข้ามาเพราะเห็นว่าที่ร้านตนมีมีด ตนก็พยายามชี้แจงว่าตนเป็นขายของทำมาหากิน ไม่อยากมีเรื่อง แต่ระหว่างที่ตนยืนหันหลัง นายเบนซ์ก็ชกเข้ามาที่ด้านหลังของตน ตนก็ต่อยสู้และลูกน้องของตนก็เข้ามาช่วยกัน จนเป็นเหตุตะลุมบอนกัน นายเบนซ์ก็ถูกลูกน้องของตนชกจนตาซ้ายแตก หลังจากนั้นทั้ง 2 ฝ่าย ก็ไปเคลียร์กันที่ สภ.เมืองนครนายก แต่ช่วงที่เดินลงจากโรงพัก นายเบนซ์และพี่ชายก็พูดว่า "เดี๋ยวมึงเจอกู"

385759

หลังจากนั้น ตนก็ขับรถกลับไปที่จุดขายของ ไม่นานนักนายเบนซ์และพวกคาดว่า 4-5 คน ก็ขับรถกระบะมาจอดและวิ่งกรูกันมาที่ร้านตน ขณะเดียวกันลูกน้องของตนก็วิ่งหนีไปอีกทางหนึ่ง ตนวิ่งหนีเข้าป่าข้างทางไป ในช่วงที่วิ่งหนีตนก็หกล้มตกร่องน้ำ ขณะเดียวกันนายเบนซ์และพวกอีก 2 คน ก็วิ่งมาทัน และนายทินเป็นเพื่อนของนายเบนซ์ ใช้ไม้เบสบอลตีเข้าที่หัวตนถึง 3 ครั้ง ทุบตามลำตัวจนตนทรุดลงไปอยู่กับพื้น นายเบนซ์ก็ยืนถ่ายคลิป ส่วนพี่ชายของนายเบนซ์ก็พยายามกระชากสร้อยน้ำหนัก 10 บาทของตน ตนก็สู้ไม่ไหว จึงได้แกล้งตายด้วยการเอาหัวจุ่มไปในน้ำ และเมื่อฝั่งคู่อริเห็นตนแน่นิ่งไปเขาก็ชะงัก ตนจึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายลุกขึ้นและวิ่งหนี และขณะวิ่งหนีก็ได้ยินอีกฝั่งพูดว่า "เอาปืนมายิงมันเลย" ตนจึงวิ่งหนีสุดชีวิต วิ่งอ้อมไปขึ้นรถกระบะ มีเพื่อนของนายเบนซ์อีก 2 คน ชื่อนายเบียร์และนายเอิร์ทมาเอามือเคาะรถตน ตนจึงตัดสินใจขับหนีตั้งใจจะไปโรงพัก แต่นายเบียร์และนายเอิร์ทก็ขับรถกระบะตามมาและพยายามขับเบียด ปาดหน้าไปมา แต่สุดท้ายตนก็ขับถึง สภ.เมืองนครนายก ส่วนกลุ่มคนร้ายก็ขับรถหนีไป

241090

เบื้องต้น ตนได้แจ้งความที่ สภ.เมืองนครนายก ดำเนินคดีที่อีกฝ่ายมาทำร้ายและพยายามชิงทรัพย์ ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุก็เกิดกลัวและหวาดระแวงว่าเขาจะมาทำร้ายอีก ตอนนี้ตนไม่กล้าออกไปขายของเลย อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าเคยมีเรื่องกับนายเบนซ์มาก่อน เพราะนายเบนซ์เคยมาท้าต่อยตน แต่เรื่องนี้ก็จบไปนานแล้ว ตนไม่อยากมีเรื่องอีก เพราะตนตั้งใจจะออกไปทำมาหากิน แต่เขากลับมาชกต่อยตนก่อน ทำให้ตนต้องป้องกันตัว สุดท้ายถ้าอีกฝ่ายเข้ามาพูดคุย ตนก็ยินดีที่จะไกล่เกลี่ย แต่ตนยืนยันจะแจ้งความดำเนินคดีกับทุกคน

971458

ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่ 4 ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก นายกิตติเทพ ทองบริบูรณ์ อายุ 31 ปี พ่อค้ากุ้ง คู่กรณีของนายยุทธพงษ์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ตนและแฟนสาวรับกุ้งตัวเล็กมาส่งร้านอาหาร แต่เกิดความผิดพลาด และเหลือกุ้งอยู่ประมาณ 60 กิโลกรัม จึงขับไปจอดขายจุดเกิดเหตุ อยู่ริมถนนสาริกา-นครนายก ตั้งแต่เช้าตรู่ บังเอิญมีที่ว่างอยู่ตนจึงไปจอดขาย ขายกุ้งตัวเล็กกิโลกรัมละ 170-200 บาท ตามขนาดตัวกุ้ง และเอากำไรแค่เล็กน้อย กระทั่งช่วงเวลาสาย ลูกน้องของนายยุทธพงษ์ขับรถกระบะมาจอดขายกุ้ง เลยจากร้านตนไปประมาณ 30 เมตร ขณะเดียวกันนายยุทธพงษ์ก็ขี่มอเตอร์ไซค์มาพร้อมกับแฟนสาว ตะโกนโวยวายว่า "กูไม่ให้ขายตรงนี้ กูมาขายก่อน จะมาขายตัดราคากันได้ยังไง" ซึ่งตนก็ไม่สนใจ

และหลังจากที่นายยุทธพงษ์กลับไปที่ร้านของเขา เขาและลูกน้องก็แวะเวียนเดินมาที่ร้านของตน 4-5 รอบ มาพูดไล่ให้ตนไปขายที่อื่น และยังมีเรียกให้ตนไปคุยที่หน้าร้านเขา หลังจากนั้น ลูกน้องของนายยุทธพงษ์ก็ยกลังกุ้งมาตั้งขายข้างร้านตน และขายราคาต่ำกว่า กิโลกรัมละ 160 บาท ตนไม่ได้ติดใจที่เขาขายถูก แต่รู้สึกรำคาญที่เขาระรานจึงไล่ให้เขากลับไป เพราะคิดว่าควรจะต่างคนต่างขาย แต่เขาก็ไม่ยอม ตนจึงโทรไปขอความช่วยเหลือจากนายเบนซ์ นายเบนซ์ก็มาหาตนและพวกตนเดินไปคุยกับนายยุทธพงษ์ที่หน้าร้าน แต่สุดท้ายก็คุยกันไม่ลงตัว เกิดเป็นเหตุทะเลาะวิวาทกัน

ตนยอมรับว่ารู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอยากขอโทษที่สร้างเสื่อมเสียให้จังหวัดนครนายก แต่ตนก็อยากถามนายยุทธพงษ์ในฐานะคนทำมาหากินด้วยกัน ทำไมเขาถึงไม่เห็นใจตนบ้าง เพราะเป็นคนขายของด้วยกัน ไม่ควรจะมาระรานกันอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงทะเลาะวิวาทรอบหลังที่นายเบนซ์ยกพวกไปตีนายยุทธพงษ์นั้น ตนไม่ได้อยู่ด้วย และไม่ได้ร่วมก่อเหตุ

"สุดท้ายสังคมต่างรุมประณามว่าตนไม่เข้าไปช่วยนายเบนซ์ ตนอยากชี้แจงให้สังคมเข้าใจว่าตนเป็นคนอ้วน และไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนได้ เพราะตนไม่สู้คน และไม่เคยมีเรื่องกับใคร" คู่กรณีผู้บาดเจ็บ กล่าว

261424

ด้านนายเอกพงษ์ ทุมดี อายุ 31 ปี คู่กรณีพ่อค้ากุ้ง ยังอยู่ในอาการบาดเจ็บ ปากแตก เบ้าตาซ้ายแตกเย็บ 5 เข็ม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนได้รับสายจากนายกิตติเทพ หรือ ไอซ์ ว่าถูกนายยุทธพงษ์รังแก มาไล่ให้ไปขายของที่อื่น 4-5 รอบ ตนจึงเดินทางไป แต่ไม่ได้มีเจตนาจะไปหาเรื่องพ่อค้ากุ้ง เพียงแต่อยากเข้าไปพูดคุยสอบถามว่าเขามาหาเรื่องเพื่อนของตนทำไม ทั้งที่เพื่อนตนหากินสุจริตและแค่ไปขายของกับแฟน 2 คนเท่านั้น และเพราะว่าเพื่อนของตนเป็นคนไม่สู้คน และถูกรังแกอย่างนี้ ตนก็ตั้งใจที่เข้าไปเคลียร์ให้เพื่อน แต่เมื่อไปถึงกลับพูดคุยกันไม่ลงตัว เพราะนายยุทธพงษ์พูดยั่วยุตน ทำให้ตนโมโหและชกต่อยฝ่ายก่อน ตนก็ยอมรับผิดว่าเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่ตนทำไปด้วยความโมโห เพราะรับไม่ได้ที่เพื่อนถูกรังแก และตนก็ไม่โกรธนายกิตติเทพที่ไม่เข้าไปช่วยตน เพราะเขาเป็นคนอ้วน เดินลำบาก และเป็นคนไม่สู้คน

631561

สำหรับในคลิปที่พวกตนถือมีดนั้น ไม่ได้พกมีดยาวไปเอง แต่ตนหยิบมีดจากร้านของนายยุทธพงษ์ เพราะตอนนั้นตนถูกรุมทำร้าย จึงตั้งใจที่จะหยิบมีดมาไว้กับตัวเพื่อป้องกันตัว ซึ่งในรอบที่ 2 ที่พวกตนยกพวกจะตีนายยุทธพงศ์ เป็นเพราะตนยังฝังใจที่นายยุทธพงษ์และลูกน้องรุมทำร้ายจนเบ้าตาซ้ายแตก แต่ตนไม่ได้มีปืนอย่างที่เขากล่าวอ้าง เพราะเพื่อนตนถือไม้เบสบอลไปแค่อันเดียว และไล่ทุบตี แต่เขาก็วิ่งหนี และก็ไม่ได้ไปรวมทุบตีหัว 3 ครั้งอย่างที่นายยุทธพงษ์กล่าวอ้าง และพวกตนก็ไม่ได้กระชากสร้อยทองคำของเขา เรื่องที่นายยุทธพงษ์อ้างนั้นไม่เป็นความจริงเลย

อย่างไรก็ตาม หลังจากตกเป็นข่าวบนก็ถูกคนไม่หวังดีนำรูปไปสร้างเฟซบุ๊กปลอมและเอาไปด่าคนอื่นเขา ซึ่งตนอยากชี้แจงตรงนี้ว่าตนมีแค่บัญชีเดียว ชื่อว่า "เสือ ไร้นาม" และมีผู้ติดตามอยู่ประมาณ 20,000 คน นอกเหนือจากนี้ไม่ใช่ของตน

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส