กรณีเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 64 นายกิตติบูลย์ คูณทวี กำนัน ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมชุดรักษาความสงบหมู่บ้านห้วยหมากใต้ เกือบ 100 นาย แบ่งชุดปูพรมค้นหา นายสาธิต อายุ 27 ปี หลังขึ้นเขาเข้าไปเก็บเห็ดหาของป่าบนภูหลง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5-6 กม. แล้วหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่วนเพื่อนอีก 2 คนที่ไปด้วยกันกลับลงมาแล้วไปแจ้งคนในหมู่บ้าน จนมีการตั้งชุดค้นหาตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา และเจอตัวนายสาธิตผู้สูญหายแล้ว
ล่าสุด วันที่ 24 ก.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี นายสาธิต ทองอ่อน อายุ 27 ปี ผู้ประสบเหตุ เล่าว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 64 เวลประมาณ 20.00 น. ตัวเองและเพื่อนผู้ชายอีก 2 คน รวม 3 คน ได้ขึ้นไปนอนค้างคืนที่ป่าภูหลง ห่างจากหมู่บ้านที่ตัวเองอาศัยอยู่ 6 กิโลเมตร เพื่อจะตื่นนอนมาหาเก็บเห็ด ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 20 ก.ย. 64
กระทั่งเช้ามืดของวันที่ 20 ก.ย. ตัวเองและเพื่อนอีก 2 คน ก็ได้เดินหาเก็บเห็ดตั้งแต่เวลา 05.00 น. เดินหาเห็ดระยะห่างกับเพื่อนอีก 2 คน ไม่เกิน 3 เมตร และก็มองเห็นกันอยู่ในสายตาตลอด กระทั่งเวลา 08.00 น. ก่อนจะหลงทางกับเพื่อนอีก 2 คน ตัวเองได้เหยียบหนาม จึงมีการก้มลงไปเอาหนามออกจากเท้า พอเอาหนามออกเสร็จ เงยหน้าขึ้นมาตัวเองก็ไม่เจอเพื่อนอีก 2 คนแล้ว ตัวเองพยายามเดินหาเพื่อน และตะโกนเรียกชื่อเพื่อน 2 คนที่มาด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครขานตอบ
นายสาธิต เล่าต่อว่า ตอนที่หลงอยู่ในป่า 3 คืน 4 วัน ตัวเองได้ทานมะกอกเลื่อม หรือที่ทางภาคอีสานเรียก "บักเลื่อม" เป็นอาหาร วันละ 9-10 ลูก ส่วนน้ำดื่มก็ดื่มน้ำตามหนองน้ำในป่า ตอนกลางคืนตัวเองก็จะนอนกลางป่า นอนที่เดิมทั้ง 3 คืน ระหว่างที่ตัวเองนอนกลางป่าทุกคืน ก็จะได้ยินเสียงคล้ายคนประมาณ 10 คน เดินวนเวียนไปมารอบบริเวณที่ตัวเองนอนอยู่ แต่ตัวเองก็มองไม่เห็นว่าเป็นใคร เพราะได้ยินแต่เสียง
กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ย. 64 ตัวเองตั้งใจจะเดินหาทางออกอีกครั้ง และได้เดินไปตามทาง โดยสองข้างทางก็เต็มไปด้วยป่า ระหว่างที่เดินไปตามทาง ก็เห็นงูจงอางตัวใหญ่สูงประมาณ 3 เมตรแผ่แม่เบี้ย เหมือนไม่อยากให้ตัวเองเดินผ่านไปได้ ตัวเองจึงยกมือขึ้นเหนือศีรษะแล้วบอกว่า "ผมไม่ได้มาลบหลู่ ผมอยากกลับบ้าน" จากนั้นตัวเองก็รีบวิ่งหนีงู ยอมรับว่าตอนอยู่ในป่า ตัวเองนึกถึงแต่หน้าพ่อและแม่ และอยากจะกลับบ้านมาก สำหรับตัวเองเคยไปหาเห็ดในป่าดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่หลงป่าเป็นครั้งที่ 3
ที่ตัวเองหลงป่าครั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจากอาถรรพ์ป่า เพราะว่าก่อนตัวเองจะหลงกับเพื่อน ตัวเอง และเพื่อนอีก 2 คนได้พูดเล่นกัน โดยเพื่อนได้เตือนตัวเองว่า "ระวังหลงป่านะ" ตัวเองจึงบอกเพื่อนว่า "ไมกลัวหรอก เป็นคนดวงแข็ง" ซึ่งคำพูดเหล่านั้น อาจเป็นคำพูดที่ลบหลู่ป่า และหลังจากนี้ครอบครัวตัวเองจะทำพิธีแก้บนที่ป่าดังกล่าว โดยอยู่ระหว่างหาฤกษ์ยาม
นายศักดิ์ดา ทองอ่อน อายุ 32 ปี ชรบ.ที่พบตัวชายที่หลงป่า เล่าว่า ตัวเองเริ่มออกค้นหานายสาธิตตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. ค้นหาในรัศมี 6 กิโลเมตรในป่าภูหลง แต่ก็ไม่พบเบาะแส วันที่ 23 ก.ย. 64 ตัวเองและชุดค้นหาจำนวน 11 นาย ได้ทำการค้นหาผู้สูญหายในล่วงเช้าแต่ก็ไม่พบ กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. ชุดของตัวเองได้พักทานอาหารกลางวันในป่า ระหว่างที่นั่งทานข้าวกัน ตัวเองได้ยินเสียงผู้ชายพูดคุยกัน อยู่ประมาณ 10 คน ตอนนั้นก็คิดว่าเสียงของชุดค้นหาทีมอื่น แต่ยังมองไม่เห็นชุดดังกล่าว ตัวเองจึงตะโกนให้ชุดดังกล่าวมากอนข้าวกับชุดตัวเอง แต่ก็ไม่มีใครมา ด้วยความสงสัยจึงเดินไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียงดังกล่าวไปประมาณ 100 เมตร ก็เห็นนายสาธิตผู้ที่หลงป่า เดินอยู่ตรงนั้นคนเดียว
ตัวเองจึงสอบถามนายสาธิตว่าชุดค้นหาที่พูดคุยกันเมื่อกี้ไปไหน นายสาธิตก็บอกว่าไม่มีชุดค้นหามาเจอ นายสาธิตยังบอกว่าเขาเดินมาคนเดียว ตัวเองและเพื่อนในชุดอีก 10 คนก็ต่างพากันอึ้ง เพราะทุกคนล้วนได้ยินเสียงคนคุยกัน ก่อนจะมาเจอตัวนายสาธิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวเองคิดว่าน่าจะมีสิ่งลี้ลับนำทางมาส่งให้ตัวเองเจอตัวนายสาธิต เพราะช่วงเช้าของวันที่ 23 ก.ย. ตัวเองได้จุดธูปขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา ว่าขอให้เจอตัวนายสาธิตโดยเร็ว
