กรณีเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า "ไม่กินเหล้าก็เมาได้" แชร์คลิปวงจรปิด จำนวน 2 คลิป ความยาวคลิปละประมาณ 2 นาที ปรากฏภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังรุมทำร้ายหญิงสาวผู้บาดเจ็บ จากนั้นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนที่อยู่ในเหตุการณ์ พยายามเข้ามาห้ามปรามเพื่อแยกทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกัน
ล่าสุดวันที่ 3 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นร้านที่เกิดเหตุ ทีมสอบถามนางสาวณิชดาภา ฤาทองจักร อายุ 41 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นวานนี้ (2 ม.ค.65) น.ส.ไพริน ผู้บาดเจ็บ เดินข้ามฝั่งไปถามคู่กรณีว่าทำไมรถของเจ้านายถึงยางรั่ว ทำไมถึงมีรอยกรีด เพราะเมื่อวันที่ 1 ม.ค.65 คู่กรณีได้นั่งดื่มเหล้าอยู่หน้ารถ น.ส.ไพริน จึงเดินเข้าไปถามดี ๆ แต่กลับโดนคู่กรณีด่าอยู่หลายคำ ซึ่งตนก็ได้ยิน และน.ส.ไพริน ก็ตอบกลับไปว่า “ถามดี ๆ ทำไมต้องพูดแบบนี้ ทำไม่ต้องด่าด้วย”
กระทั่งน.ส.ไพริน ด่าคู่กรณีกลับด้วยคำหยาบว่า “หน้า_” จากนั้นก็มีเรื่องกันตามคลิป ผู้หญิงผมสั้นได้เข้ามากระชากที่ศีรษะและต่อยที่บริเวณหน้าของน.ส.ไพริน ส่วนคู่กรณีผู้ชายเข้ามาตีซ้ำจนล้ม ผู้หญิงก็เข้ามาต่อยอีกครั้ง จนมีชาวต่างชาติเข้ามาช่วยน.ส.ไพริน ตนเห็นว่าขาเริ่มผิดรูปจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
ทีมข่าวเดินทางมาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้พูดคุยกับนางสาวไพรินทร์ สารเป็น อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 2 ม.ค.65 เวลาประมาณ 12.00 น. ตนกำลังนั่งกินอาหารอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง และเพื่อนของนายเดฟ ชาวไอซ์แลนด์ (เจ้าของรถ) ได้เดินมาบอกให้ตนออกไปดูล้อรถ เพราะล้อรถยางแบนคล้ายกับมีคนไปกรีดยาง เมื่อไปดูก็พบว่า ยางแบนจริง ๆ และเมื่อตนหันไปฝั่งตรงข้ามก็เห็นคู่กรณีที่เมื่อวานนี้นั่งดื่มเหล้าอยู่ กำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่เดิม ตนเลยเข้าไปสอบถามว่า "เห็นใครมากรีดยางล้อรถไหม"
แต่คู่กรณีกลับพูดใส่ตนว่า “กูอยากจะรู้ว่า มึงเป็นอะไรกับหมาดูนักหนา” พอได้ยินเช่นั้นตนก็รู้สึกสงสัย และพยายามถามเรื่องรถ แต่คู่กรณีก็ยังพูดประโยคเดิมไม่ยอมจบ ก่อนจะด่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำนองว่า "มึงจะเอา" ตนก็ได้แต่พูดว่า "พี่เป็นผู้ชาย ทำไมถามแบบนี้" ตนไม่เกี่ยวอะไรด้วยแค่เข้ามาถามเรื่องรถ ก่อนตนจะพยายามเดินกลับไป เพราะดูท่าแล้วไม่ดี แต่ระหว่างที่เดินกลับ ด้วยความโมโห และตนโดนด่ามาตลอด จึงด่ากลับว่า “หน้า_”
จากนั้นคู่กรณีก็เข้ามาทำร้ายตนตามคลิปวิดีโอ พร้อมกับถามตะโกนว่า “มึงจะจบไหม ถ้าไม่จบ กูมีปืนนะ” ซึ่งเขาไม่น่าจะมีปืนติดตัว แต่น่าจะหมายถึงว่ากลับไปเอาปืนที่บ้าน จากนั้นก็มีผู้หญิงอีกคนผมสั้น เข้ามาร่วมต่อยตนด้วย ขณะที่เกิดเหตุมีคนอยู่ในเหตุการณ์ประมาณ 3-4 คน ตอนแรกมีผู้หญิงแก่ ๆ ที่อยู่ในกลุ่มนั้นทำท่าจะเข้ามาห้าม แต่ก็ไม่ยอมเข้ามาห้าม กระทั่งคู่กรณีทำร้ายตนจนพอใจจึงพูดว่า "ที่นี่ไม่มีการรุม" ทั้ง ๆ ที่ตนเพิ่งจะถูกรุมตี
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ ที่ขากระดูกเคลื่อน แพทย์จึงเอกซเรย์เหมือนจะขาหักอาจต้องเข้าผ่าตัด ทั้งนี้ พี่สาวของตนได้แจ้งความไว้ที่สภ.เมืองพัทยาแล้วเรียบร้อย ขณะนี้ตนยังไม่ได้คุยกับคู่กรณี และคู่กรณีกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ตนอยากจะฝากบอกคู่กรณีว่า ตนไม่เกี่ยวและที่ตนด่าคู่กรณี เพราะคู่กรณีด่าทอตนก่อน ด้วยเหตุนี้ ตนจึงอยากจะให้คู่กรณีเข้ามารับผิดชอบเรื่องค่ารักษา และอยากจะให้มาชดเชยค่าเสียหาย ในส่วนของรายได้ที่ตนขาดหายไป
ต่อมาทีมข่าวเดินทางมาที่ สภ.เมืองพัทยา จึงได้พบกับนางสาวสุจิตรา อัคจันทร์ อายุ 29 ปี คู่กรณี เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเรื่องผู้เสียหายมาถามแฟนของตนว่า "เห็นไหมว่าใครมาเจาะยางรถ" ซึ่งแฟนของตนไม่เห็น เพราะนั่งดื่มเหล้าไม่ได้สนใจ แต่ผู้เสียหายก็พยายามถามว่า ทำไมถึงไม่เห็นทั้งที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ตรงนั้น ทำให้แฟนของตนเริ่มพูดด้วยความโมโห แต่ไม่ได้ตั้งใจจะมีเรื่อง กระทั่งคู่กรณีด่าหยาบคาย จึงทำให้แฟนของตนเริ่มโมโหและปรี่เข้าไปทำร้าย
ทั้งนี้ ตนพยายามจะดึงแฟนหนุ่มไว้ แต่คู่กรณีก็ตั้งท่าจะเข้ามาทำร้ายเหมือนกัน จึงเกิดเหตุชุลมุนดังกล่าวขึ้น ส่วนเรื่องหยิบปืน ตนไม่ได้พูด แต่เขาเป็นคนพูดว่า ขอให้หยิบปืนมายิงเอง ทำนองท้าทาย ตนไม่เคยมีเรื่องกับผู้เสียหายมาก่อน แต่ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องเกี่ยวกับสุนัข ผู้เสียหายกล่าวหาว่าสุนัขของเขาตาย เพราะจะข้ามไปกัดกับสุนัขของตนที่อยู่ผูกอยู่ในกรง แต่ตนไม่เคยต่อล้อต่อเถียง และพยายามอดทน ตนไม่ยอมรับว่าตนทำผิด และไม่ขอรับผิดชอบ เพราะตนเชื่อว่าเป็นการร่วมกันทะเลาะวิวาท ทั้งนี้ หากฝ่ายใดผิดตรงจุดไหนก็ต้องมาเครียร์ เพราะคู่กรณีก็ผิด และจากนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะตนก็จะแจ้งความกลับเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบสวนพร้อมตั้งข้อหาแก่นางสาวสุจิตรา อัคจันทร์ อายุ 29 ปี และนายชุมพล เอี่ยมอ่อน อายุ 40 ปี คู่กรณีที่ทำร้ายนางสาวไพรินทร์ สารเป็น อายุ 35 ปี ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ทำให้มีผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส
Advertisement