Zipmex เปิดความสำเร็จ ธุรกิจในไทยและภูมิภาค รวม 4 ประเทศ เติบโตแบบก้าวกระโดด คาดการณ์วอลุ่มเทรดจะเพิ่มขึ้นแตะหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในไตรมาส2 ของปีนี้
.
22ม.ค.65 นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานผู้บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ประเทศไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนก.ค. 63 ที่ Zipmex เข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทยจนถึงขณะนี้ได้รับการตอบรับจากเป็นอย่างดี พบว่าคนไทยให้ความสนใจและก้าวเข้าสู่การลงทุนในทรัพย์ดิจิทัลเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปี 64 นี้ Zipmex มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 450% จากเดือน ม.ค. 64 มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยสูงกว่าปีที่ผ่านมา 4,800% และมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 700,000 คน จาก ม.ค. 64
ไม่เพียงธุรกิจของ Zipmex ในไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ภาพรวมในระดับภูมิภาคทั้งใน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลียก็ขยายตัวในระดับสูง โดย Zipmex คาดว่าเทรดดิ้งวอลุ่มจะเพิ่มขึ้นถึงหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในไตรมาส 2/65
ปัจจุบันสินทรัพย์ของบริษัท รวมทุกประเทศได้มีการเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าในปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนลูกค้าที่ทำการลงทะเบียนกับ Zipmex กว่า 1.5 ล้านคน คิดเป็นการเติบโตถึง 18 เท่าในปีนี้ ส่งผลให้ Zipmex เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของอาเซียนที่เติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจากการลงทุนแล้ว การให้บริการการออมสินทรัพย์ออมดิจิทัลในแพลตฟอร์มของ Zipmex ก็มีการขยายตัวในระดับสูง จากผลิตภัณฑ์ ZipLock ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 14% ต่อปี
นอกจากมิติทางด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยระยะเวลาการดำเนินงานเพียง 1 ปีแล้ว จำนวนพนักงาน Zipmex ยังเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 70 คนทั่วโลก เป็น 400 คน โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ Zipmex ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Zipmex มีการเติบโต และได้รับความมั่นใจจากผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ได้แก่ การมีการระดมทุนจากนักลงทุนระดับสากล ในการระดมทุนรอบ Series B มูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเป็นเงินมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท) ซึ่งนำโดย B Capital, TNB Aura, Krungsri Finnovate, MindWorks, Jump Capital, V Ventures, Plan B และ MACO ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคาร และ Venture Capitalists ระดับโลกได้ร่วมลงทุนในแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกัน ทำให้ Zipmex มีมูลค่าหลักหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำลังมุ่งไปสู่การเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลักพันล้านเหรียญสหรัฐฯในไม่ช้านี้
การเป็นแพลตฟอร์มที่มีจำนวนเหรียญมากที่สุดในประเทศไทยถึง 59 เหรียญให้เลือกลงทุน และมีค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำที่สุดในตลาดประเทศไทย (0.1%) อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถมอบผลตอบแทนหรือโบนัส จากการฝากสินทรัพย์ดิจิทัล อาทิ BTC, ETH, LTC, USDC, USDT และ ZMT สูงสุดถึง 14 % ต่อปี ผ่านโปรแกรมการฝากประจำ ZipLock นับเป็นการส่งเสริมการออมสำหรับนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ Zipmex ยังคงยืนหยัดที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการเงินดิจิทัลใหม่ ๆ ที่หลากหลาย ตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตแบบสังคมไร้เงินสด รวมถึงพัฒนา และต่อยอดผลิตภัณฑ์และการบริการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดหลัก 4 ประการ คือ
- การลงทุน (Invest) ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านสินทรัพย์ที่เหมาะสม นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจเกียวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และเงินสกุลดิจิทัลมากขึ้น
- การออม (Save) เพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงิน ผ่านโปรแกรมการออมต่างๆที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองรูปแบบทางการเงินที่เหมาะสมกับทุกกลุ่มนักลงทุน ทั้งการฝากแบบยืดหยุ่น การฝากประจำ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนสูงสุดถึง 14
- การใช้จ่าย (Pay) ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ผ่านพันธมิตรในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเสริมสร้างและส่งเสริมรูปแบบการชำระเงินปรับตัวเข้าสู่โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลมาชำระค่าสินค้าและบริการอย่างแพร่หลาย และเข้าถึงง่าย ผ่านการจับมือกับพันธมิตรโดย Zipmex Asia ได้มีการเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้จ่ายจากโปรแกรมการชำระเงินกับวีซ่าเพื่อเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้ามีตัวเลือกในการเข้าถึงร้านค้า 70 ล้านรายในเครือข่ายทั่วโลกของวีซ่า
- ประสบการณ์เหนือระดับ (Experience) ที่จะช่วยให้นักลงทุน หรือผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟมากมายจาก ZipWorld ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ที่ได้รวบรวมสินค้าและบริการอันมีลักษณ์เฉพาะ และกำลังมุ่งหน้าดำเนินการต่อยอดไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ เช่น NFT และ Metaverse