ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดวันที่ 3 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 18.00 น. มีรายงานการพบเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอน เพิ่มในอีก 6 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินเดีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ กรีซ และซิมบับเว ส่งผลให้มีการตรวจพบโอมิครอนแล้วใน 33 ประเทศ/พื้นที่ ทั่วโลก
ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เตือนให้ประเทศในเอเชียแปซิฟิก เร่งเตรียมความพร้อมรับมือทางการแพทย์ และฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบโดส เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน โดยไม่ควรหวังพึ่งพามาตรการจำกัดการเดินทางเพียงอย่างเดียว เพราะแม้ว่าจะมีมาตรการดังกล่าวออกมา แต่ก็ยังมีการทยอยพบเชื้อในหลายประเทศ ได้แก่ อินเดีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และออสเตรลีย
ขณะที่ปรึกษาระดับสูงทางการแพทย์ของรัฐบาลออสเตรเลีย เชื่อว่า โอมิครอนจะระบาดไปทั่วโลกภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า โอมิครอนจะเป็นสายพันธุ์ที่ร้ายแรงกว่าสายพันธุ์เดลต้าในปัจจุบัน
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตีว่าการกระทรวง(รมว.) การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับทราบข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่าตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.-1 ธ.ค. 2564 ตรวจพบนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงในทวีปแอฟริกาจำนวน 300 คน โดยทุกคนที่เข้ามาได้มีการกักตัวตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข และอยู่ภายใต้การติดตามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว โดยขณะนี้ยงไม่พบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ส่วนกรณีนี้จะกระทบต่อการท่องเที่ยวหรือไม่นั้น เชื่อว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่น่ากังวลเกินกว่าเหตุ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างทางกระทรวงสาธารณสุขยอมรับว่าเอาอยู่ แต่ที่สำคัญคือคนไทยต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีด้วย
อย่างไรก็ดีนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังยืนยันการเดินทางมาไทย โดยไม่มีการยกเลิกการเดินทาง และรัฐบาลได้สั่งให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงท่องเที่ยวฯ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและติดตามนักท่องเที่ยวชาวแอฟริกาที่เข้ามาไทยตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2564 ติดตามมาให้ได้ทุกคน เพื่อมาตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2564 เป็นต้นมา ยังไม่มีนักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศแอฟริกาเข้าประเทศไทยอีกเลย
