ก.ล.ต. จี้ Exchange เตือนนักลงทุน คุมคริปโตฯ ผันผวนหนัก

3 ธ.ค. 64

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวกับทีมข่าว "SPOTLIGHT" ว่า จากกรณีที่คริปโตเคอร์เรนซีที่ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล(Digital Asset Exchange)ที่ ก.ล.ต. กำกับดูแลในช่วงที่ผ่านมามีราคาขึ้นและลงผันผวนมาก ขอแจ้งว่าในฝั่งศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล(Digital Asset Exchange) เองมีหน้าที่ตามกฎหมาย พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งกำหนดหน้าที่ให้ผู้ประกอบการ Exchange ต้องออกประกาศเตือนผู้ลงทุนรับรู้ข้อมูลในกรณีที่มีเหรียญดิจิทัลมีราคาเคลื่อนไหวผวนผวนผิดปกติซึ่งคล้ายหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีหน้าต้องออกประกาศแจ้งเตือนผู้ลงทุนในกรณีที่มีเหตุการณ์ของหุ้นบางบริษัทมีราคาเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ


นอกจากนี้ Digital Asset Exchange ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ยังมีหน้าที่โดยตรงในการกำกับดูแลการซื้อขายของ Exchange ของตนเองให้เป็นไปตามกฎเกณ์และถูกต้องตามกฎหมายตามข้อกำหนดของ พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งการออกกฎเกณฑ์มาเพิ่มเติมออกมาเพื่อดูแลควบคุมการซื้อขายให้เป็นไปอย่างเหมาะสมสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับการซื้อขาย รวมถึงส่งข้อมูลรายงานมายัง ก.ล.ต. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกำกับ


สำหรับกรณีที่ทีมงาน "SPOTLIGHT" สอบถามว่ามีกระแสข่าวว่า ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะใช้เกณฑ์ Ceiling กับ Floor กับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ ก.ล.ต. กำกับดูแลนั้น หรือไม่นั้น เลขาธิการ ก.ล.ต. ให้คำตอบว่า เป็นหน้าที่ของ Exchange ที่จะเป็นผู้พิจารณาออกมาตรการควบคุมมาตรการซื้อขายได้เองโดยตรงและให้รายงานข้อมูลมายัง ก.ล.ต.


"Digital Asset Exchange มีหน้าที่ตามกฎหมายคล้ายกับตลาดหลักทรัพย์ฯ หากมีหุ้นหรือสินทรัพย์ดิจิทัลมีราคาเคลื่อนไหวผันผวนผิดปกติต้องมีมาตราการเหมือนขึ้นป้ายแจ้งเตือนผู้ลงทุนเหมือนตลาดหุ้น เช่น ขึ้นเครื่องหมาย SP กำหนดให้ระดับราคาเสนอซื้อและเสนอขายของหลักทรัพย์ในแต่ละวันสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสูงสุด (Ceiling) หรือลดลงต่ำสุด (Floor) เป็นต้น


ในส่วนของ ก.ล.ต. เองจะทำงานคู่ขนานไปจะดูในแง่ของภาพรวมแนวทางการกำกับดูข้อมูลเปรียบเทียบกับตลาดในต่างประเทศให้เป็นสากลมากกว่า เพราะ ก.ล.ต. ไมใช่ผู้ลงไปทำตลาดซื้อเองจึงไม่ได้ลงไปออกประกาศควบคุมเอง เพราะเป็นหน้าที่ส่วน Exchange ที่ต้องทำในส่วนของการออกเกณฑ์กำกับดูแลการซื้อขาย" เลขาธิการ กล่าว

นอกจากปัจจุบันฝ่ายงานที่กำกับดูแลบังใช้กฎหมายของ ก.ล.ต. กำลังดูรายละเอียดอยู่อย่างใกล้ชิด เพราะกฎหมาย พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลมีกำหนดเรื่องการกระทำอันไม่เป็นธรรมซึ่งเป็นหน้าที่หลักของ ก.ล.ต. โดยนำบทบัญญัติมาจาก พ.ร.บ.ติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มาปรับใช้โดยมีการกำหนดลักการกระทบความผิดไว้ใช้ทั้งการปั่นเหรียญดิจิทัล, การใช้ข้อมูลภายในเพื่อทำการซื้อขาย, การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ รวมถึงลักษณะความผิดอื่นๆ ที่กฎหมาย พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลกำหนดไว้ และอยู่ระหว่างพิจารณาหลายๆ ในมาตรการเพื่อดูแลคริปโทเคอร์เรนซีที่ความผันผวน


ทั้งนี้ล่าสุด ก.ล.ต. ยังร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) , กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เพื่อหารือถึงแนวทางการประสานงานในการสืบสวนและตรวจสอบการกระทำผิดเกี่ยวกับตลาดทุนและสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะในกรณีที่มีผลกระทบในวงกว้างต่อประชาชนและสังคม รวมทั้งการแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อกัน โดยจะเริ่มทำงานเชิงรุกร่วมกันในกรณีที่อาจเข้าข่ายการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ที่การซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูงมากในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ บช.ก. โดย ปอศ. พร้อมให้การสนับสนุนด้านการติดตามผู้ถูกกล่าวหาที่หลบหนีการกระทำผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

advertisement

Powered by อมรินทร์ทีวีออนไลน์

ข่าวยอดนิยม