ราคาทองคำในประเทศวันนี้พุ่งแรงทะลุ 34,000 บาททั้งทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณ สาเหตุมาจากราคาทองในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นใกล้ 2,000 เหรียญ และค่าเงินบาทของไทยอยู่ในระดับอ่อนค่าทำให้ราคาทองคำในประเทศอยู่ในระดับสูง
สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง (ทองคำ 96.5%) ในประเทศวันนี้ปรับเปลี่ยน 5 รอบ รวมเพิ่มขึ้น 650 บาทต่อบาททองคำ
ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 34,150.00 บาท/บาททองคำ ขายออกบาทละ 34,250 บาท/บาททองคำ
ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 33,533.92 บาท/บาททองคำ ขายออกบาท 34,750บาท/บาททองคำ
ขณะที่ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 1,984 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เงินบาทอยู่ที่ 36.51 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ราคาทองมีโอกาสทะลุ 35,000 บาท
หากสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์รุนแรงขึ้น
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน ฟิวเจอร์ส จำกัด ให้ข้อมูลกับ SPOTLIGHT ว่าแนวโน้มราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยอิงปัจจัยจากสถานการณ์สงครามอิสราเอล ปาเลสไตน์เป็นหลัก มองแนวต้านระยะสั้นสำหรับราคา Gold Spot ที่ 1,983 และ 1,987 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ (ปัจจุบัน1,984ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์) หากสามารถผ่านไปได้ รอลุ้นที่ไฮเดิมเมื่อเดือนพ.ค. คือ ระดับ 2,079-2,080 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับราคาทองคำในประเทศไทยที่ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 34,000 บาทนั้น เป็นเพราะอัตราแลกเปลี่ยนเป็นหลัก โดยค่าเงินบาทอยู่ในระดับอ่อนค่า ประมาณ 36.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นตัวดันสำคัญให้ทองไทยขึ้นแรง เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาท 10 สตางค์ มีผลต่อราคาทองไทยราว 80-100 บาทต่อบาททองคำ
โดยหากสงครามอิสราเอล-ปาลเสไตน์ เกิดความเสี่ยงที่จะรุนแรง เช่นกรณีประเทศมุสลิมอื่นๆมาร่วมกันต่อต้านอิสราเอล และอาจทำให้เกิดการขยายตัวของสงคราม ถ้าเป็นเช่นนั้น ราคาทองคำในตลาดโลก ก็มีโอกาสเคลื่อนไหว ที่ 2,048-2,080 ขณะที่หากเงินบาทยังคงอ่อนค่าอยู่แถวระดับ 36.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐแบบปัจจุบัน มีโอกาสที่ราคาทองคำในประเทศไทย กรณีทองคำแท่งจะอยู่ที่ประมาณ 35,350 -35,850 บาทต่อบาททองคำ
ภาพจาก AFP : การประท้วงสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ในปารีส ฝรั่งเศส
เทียบสงครามรัสเซีย ยูเครน ทองขึ้นประมาณ 100 ดอลลาร์
ทั้งนี้ราคาทองคำมักปรับตัวขึ้นแรงในช่วงแรกของการเกิดภาวะสงคราม โดยหากเปรียบเทียบการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในช่วงสงครามรัสเซีย ยูเครน ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2565 ราคาทองคำไต่ขึ้นราว 100 ดอลลารสหรัฐ จาก 1,975 วิ่งสู่ ระดับ 2,070 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
เมื่อราคาทองโลกแตะ 2,070 ดอลลาร์ในปีที่แล้วหากเทียบกับราคาทองไทยเมื่อตอนสงครามรัสเซีย ยูเครน ค่าเงินบาทของไทยขณะนั้นอยู่ที่ 33.65 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่ากว่าระดับปัจจุบันมากกว่า 3 บาท ทำให้ราคาทองไทยช่วงเดือน เมษายนปีที่แล้ว อยู่ที่ 31,400 บาท - 31,700 บาทต่อบาททองคำ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามีอิทธิพลต่อราคาทองคำในประเทศไทยอย่างมาก
โดย YLG มองว่า ค่าเงินบาทอ่อนค่า มาจากปัจจัยเรื่องความชัดเจนของนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาล เพราะหากนโยบายนี้ต้องมีการกู้ยืมและกระทบกับการขาดดุลงบประมาณที่มากขึ้นจะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่า รวมถึงเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลออกจากประเทศไทย รวมถึง IMF ปรับลดลง GDP ของประเทศไทยปีนี้และปีหน้าลดลง ล้วนเป็นปัจจัยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าทั้งสิ้น
ไม่แนะนำให้ซื้อสะสมเพราะราคาสูงมากแล้ว
สำหรับนักลงทุนทองคำ คุณวรุต แนะนำว่า ราคาทองคำขึ้นมาใกล้ 2,000 ดอลลาร์แบบนี้ถือว่าอยู่ในระดับสูงมากแล้ว จึงไม่แนะนำให้เข้าซื้อสะสม แต่หากเป็นการเก็งกำไร เทรดระยะสั้นสามารถทำได้
โดยมีแนวรับ 1,958 -1,940 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าไม่หลุดสามารถเข้าซื้อได้ โดยตีเป็นราคาทองไทยอยู่ที่ประมาณ 33,750 - 33,450 บาทต่อบาททองคำ
สำหรับแนวต้านระยะสั้น Gold Spot อยู่ที่ 1,987 - 2,009 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นทองไทย ราว 34,300 - 34,650 บาทต่อบาททองคำ