ข่าวเศรษฐกิจ

หนี้เสียบัตรเครดิตพุ่ง 1 ล้านใบ หลังเกณฑ์จ่ายขั้นต่ำขยับเป็น8% 

9 พ.ค. 67
หนี้เสียบัตรเครดิตพุ่ง 1 ล้านใบ หลังเกณฑ์จ่ายขั้นต่ำขยับเป็น8% 

สถานการณ์หนี้ครัวเรือนของประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตที่มีอยู่ 24 ล้านใบ ขณะนี้เกิดหนี้เสียหรือ NPL แล้ว 1 ล้านใบ และมีแนวโน้มว่าหนี้เสียจะเพิ่มขึ้นอีกหลังตัวเลขการผิดนัดชำระที่ยังไม่เกิน 3 เดือนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 32.4% 

ข้อมูลจากผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร คุณสุรพล โอภาสเสถียร ระบุว่า ข้อมูล​ไตรมาสที่​ 1/2567 เกี่ยวกับสินเชื่อบัตรเครดิตจากฐานข้อมูล​สถิติที่ไม่มีตัวตนของเครดิตบูโรมีความน่าเป็นห่วงหลายเรื่อง 

1.ตั้งแต่ต้นปี​ 2567​ การจ่ายชำระหนี้ขั้นต่ำของบัตรเครดิตจะต้องเริ่มต้นที่​ 8%จากเดิมที่ผ่อนผันในช่วงการระบาด​ covid-19​ที่กำหนดไว้​ 5%

2.มีคำถามมาตลอดว่าถ้ากติกาใหม่ออกมาจะทำให้หนี้เสียหรือ​ NPLs​กระโดดมั้ย​ จะทำให้หนี้กำลังจะเสียหรือ​ SM กระโดดมั้ย

3.ตัวเลข​ ณ​ มีนาคม​ 2567​ ยอดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด​ 24ล้านใบ,เป็นเงิน​ 5.5แสนล้านบาทเติบโต​ 3.2%yoy ถ้าเทียบจากสิ้นปี​ 2566​ หดตัว​ 5.1%qoq อันนี้ก็พอทราบไม่มีอะไรแปลกใจ

4.ตัวเลขบัญชีสินเชื่อบัตรเครดิตที่เป็น​ NPLs​ ค้างเกิน​ 90วันจะมีจำนวน​ประมาณ​ 1ล้านบัตรเศษคิดเป็นยอดเงิน​ 6.4หมื่นล้านบาทเติบโต​ 14.6%yoy อันนี้เริ่มไม่สบายใจแล้วครับ

5.พอมาดูยอดหนี้ที่เป็น​ SM หรือหนี้ที่กำลังจะเสียพบว่ามีจำนวนบัตรที่ชำระหนี้ได้แบบตะกุกตะกัก​ ติดๆขัดๆ​ 1.9แสนบัตรครับ​ จำนวนเงิน​ 1.2หมื่นล้านบาทเติบโต​ 32.4%yoy มาถึงตรงนี้เริ่มตาโตแล้วครับว่า​ แค่สามเดือนแรกของการปรับเพิ่มยอดชำระขั้นต่ำทำไมมันเกิดการกะโดดใน​ SM​ ตามต่อไปดูว่าแล้วมันโตจากปลายปี​ 2566​ เท่าใดก็พบว่า​เติบโตถึง​ 20.6 qoq​ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ต้องระวังว่ามันจะไหลเพิ่ม​ ไหลแรงกว่าเดิมหรือไม่

หนี้เสียบัตรเครดิตพุ่ง

นอกจากปัญหาค่าครองชีพแล้ว​ รายได้ไม่ฟื้นตัว​ เปราะบางจนนุ่มนิ่ม​ มันสะท้อนแล้วว่าชำระหนี้สินเชื่อนี้ได้ลำบากมากขึ้น

897348

ตามภาพกราฟที่แสดงนะครับ​ ผมลองทำดูว่าจากบัตรเครดิตที่เป็น​ SM.จำนวนเกือบ​สองแสนใบนั้นเป็นบัตรที่เปิดมานานเท่าใดแล้ว​ พบว่าเปิดมาไม่เกิน​ 2ปี​ มีจำนวน​ 3.6หมื่นบัตรครับ​อยู่ในมือคน​ Gen Y​ 2.3หมื่นบัตร​ เปิดมามากกว่า​ 2ปีแต่ไม่เกิน​ 4ปีมีจำนวน​ 3.9หมื่นบัตร​ อยู่ในมือ​ Gen Y​ 2.7หมื่นบัตร Gen X​ 9.2พันบัตร เปิดมามากกว่า​ 4ปีแต่ไม่เกิน​ 6ปี​ 4.5หมื่นบัตร​ อยู่ในมือคน​ Gen Y​ 3หมื่นบัตร​ Gen X​ 1.2​หมื่นบัตร​

คำถามตัวโตๆคือ​ SM.จะไหลต่อเป็น​ NPLs.อีกเท่าใด​ การกำหนดให้ชำระหนี้ขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจาก​ 5%เป็น​ 8% และ​ 10%ตามลำดับ​ มันช่วยแก้ปัญหาหนี้ได้จริงๆใช่มั้ยตามเป้าประสงค์​มาตรการ​ ความจริงคนเรามีบัตรเครดิตได้หลายใบ​ การเพิ่มอีก​ 3%ของยอดหนี้ในแต่ละใบ​ คนไม่เคยเป็นหนี้อาจนึกไม่ออกว่าจะหมุนหาจากไหนไปจ่ายได้​ และประการสุดท้ายค่าใช้จ่ายทั้งหลายมันเริ่มเพิ่มอย่างชัดเจนเช่น​ ไข่ไก่​ ผักบางชนิด​ น้ำมันก็เริ่มขยับ​ เป็นต้น​

การท่องตำราแก้ปัญหากับการท่องยุทธ​จักรแบบเดินเผชิญสืบ​ มันใช้ใจที่ต่างกัน​ ตัวอย่างเรื่องนี้คือหนังชีวิตจริง​ แต่ถ้ามองเป็นหนังอานิเมะ​ มันก็อาจผิดเพี้ยน​ ต้องกลับมาดูกันเพราะแค่​ 3เดือนกลิ่นมันแรงแบบโตขึ้น​ 32.4%yoy​ 20.6%qoq มันไม่ธรรมดานะครับ​

ตั้งโจทย์ผิด​ แต่ตอบโจทย์​ที่ผิดได้ถูก​ ผลลัพธ์​ผลผลิตมันจะผิดเพี้ยนไปหรือไม่​วันนี้ฝนตกแล้ว​ ฝนหลังฝุ่นที่ร้อนระอุย่อมสวยงามเสมอ

ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร คุณสุรพล โอภาสเสถียร 

 

 

นี่คือข้อมูลที่ทางผู้จัดการเครดิตบูโรออกมาเตือนถึงสถานการณ์หนี้ครัวเรือนของคนไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ หนี้กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีความน่าเป็นห่วง เนื่องจากตัวเลข NPLs และ SM สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด สะท้อนสภาพคล่องของคนไทยที่กำลังมีปัญหาหนัก

ทั้งนี้ภาพรวมหนี้ครัวเรือนไทยมีมูลค่าอยู่ที่  16.2 ล้านล้านบาท สูงกว่า 90%ต่อ GDP โดยอยู่ในฐานข้อมูลของเครดิตบูโรราว 13.7 ล้านล้านบาท และมีสถาบันการเงิน 140 แห่งเป็นสมาชิก โดยในจำนวน 13.7 ล้านล้านบาทนี้เป็นหนี้เสียแล้ว 1 ล้านล้านบาท 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT